ตั้งแต่ยังเด็ก เจคมักถูกห้อมล้อมไปด้วยผู้คนและชื่นชมยินดีเขาเสมอ เขาเติบโตขึ้นมาพร้อมกับฉายาว่าอัจฉริยะ
เขาเป็นเด็กในอุดมคติที่พ่อแม่คนอื่นพูดถึงเสมอ
แม้แต่ในวอลล์สตรีท เขายังถือว่ามีชื่อเสียงตั้งแต่อายุยังน้อย
เหตุการณ์เหล่านั้นได้บ่มเพาะความมั่นใจและบุคคลิกที่ภูมิใจในตัวเองจนเกินเหตุขึ้น
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ไม่มีใครปฏิเสธได้ว่าความสามารถของเจคนั้นเป็นของจริง
ในช่วงอายุ 20 ปี เขาสามารถสร้างชื่อเสียงให้กับตัวเองในวอลล์ สตรีท ความสามารถแบบนั้นไม่ใช่เรื่องที่จะพบเห็นได้ตามท้องถนนทั่วไป
นอกจากนี้ เจคยังมีสติปัญญาที่ฉลาดเกินคน
หลังจากออกจากคฤหาสน์ของตระกูลลอว์แล้ว แม้ว่าเขาจะอารมณ์เสียและลำบากมาก เขาก็ใช้เวลาสงบสติอารมณ์ หลังจากมองย้อนกลับไปที่ความผิดพลาดของเขา เขากลับมาเห็นวิธีการซื้อขายของแจสเปอร์
เขาต้องยอมรับว่าถ้าเขาเป็นคนลงมือเอง ตลาดหุ้นในเมืองฮาร์เบอร์อาจพังลงก็เป็นได้
เจคไม่เต็มใจที่จะยอมรับด้วยวาจา แต่ลึก ๆ ในใจเขา เขารับรู้เรื่องนี้ได้อย่างชัดเจน
ตามโมเมนตัมของตลาด การมองหาการลงทุนดังกล่าวจะต้องได้รับผลกำไรอย่างน้อย 15% เท่านั้น จึงจะถือว่าเป็นบรรทัดฐาน
อย่างไรก็ตาม นั่นเป็นเพียงสำหรับลูกค้ารายย่อยที่มีเงินลงทุนนับล้านเท่านั้น
'2,000 ล้าน...'
พูดตามตรง ข้อเสนอของแจสเปอร์ทำให้เขากลายเป็นหนูตกถังข้าวสารได้เลย
แม้ว่าแจสเปอร์จะไม่โด่งดังในตอนนี้ แต่ถ้าข้อเสนอนี้หลุดออกไปสู่ที่สาธารณะ แน่นอนว่าหมาป่าที่หิวโหยรอตะครุบเหยื่อตัวใหญ่นี้อยู่แล้ว
เจคกัดฟันกรอดและพูดขึ้น “ฉันจะรับข้อเสนอ!”
แจสเปอร์ยิ้มพร้อมตบไหล่เจค และพูดว่า "นี่แหละ สิ่งที่เรียกว่าตัวเลือกที่ดีที่สุด"
“เราจะเซ็นสัญญากันเมื่อไหร่?”
แม้ว่าเจคจะตกลงร่วมมือกับแจสเปอร์ ลึกๆ ในใจเขา แต่เขาก็ยอมจำนนต่อแจสเปอร์ไปเรียบร้อยแล้ว แม้ว่าความเหย่อหยิ่งของเขาทำให้ยอมตกลงโดยไม่รู้สึกประหลาดอะไรก็ตาม แต่เขาก็ตั้งคำถามนั้นออกไป
“อีกสักพักจะติดต่อกลับไปครับ” แจสเปอร์โบกมือของเขา
“แน่นอน ฉันจะรอข่าวของนาย” เจคพูด จากนั้นก็ออกจากที่นั่น
เมื่อมองจากทางด้านหลัง เฮนรี่ก็ศอกใส่แจสเปอร์ “ถ้าไม่รวมฉันเข้าไปด้วย ก็ยังมีคนมีความสามารถมากมายในเมืองฮาร์เบอร์ ทำไมยังจะเลือกเขาอีก?”
“ที่จริงแล้ว มีคนที่มีความสามารถรวมถึงบริษัทด้านการลงทุนมากมายที่ตอบรับงานที่ฉันจะมอบหมายได้ แต่ในอนาคตอันใกล้นี้ เมืองฮาร์เบอร์จะกลายเป็นศูนย์บัญชาการหลักที่สองของฉัน ถ้ามอบหมายให้บริษํทอื่นดูแล ฉันคงพูดไม่ได้เต็มปากว่าจะไว้ใจพวกเขาเต็มร้อยได้” แจสเปอร์กล่าวพร้อมส่ายหัว
สำหรับรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับอนาคตของแจสเปอร์และแผนการสำหรับเขตธุรกิจของเขา ไม่จำเป็นต้องเปิดเผยให้เฮนรี่รับรู้เพราะเขาไม่สามารถเข้าใจได้
“ถ้าเป็นเจค นายจะวางใจได้งั้นเหรอ? อย่าลืมว่าเขาเป็นคนหน้าเลือดจะตาย! นอกจากนี้เขายังไม่พอใจนายอีกด้วยนะ” เฮนรี่กล่าวอย่างประหลาดใจ
ไม่ว่าเขาจะพูดอะไร คนสองคนนั้นถูกมองว่ามีความเคลือบแคลงใจซึ่งกันและกัน เขาไม่เคยได้ยินว่ามีศัตรูมีความน่าเชื่อถือกว่าคนอื่นมาก
“เขาเข้าใจความสัมพันธ์ของฉันกับครอบครัวของนายดี และเขารู้ว่าฉันมีความสัมพันธ์ที่ดีกับสี่ครอบครัวเศรษฐีของเมืองฮาร์เบอร์ รวมถึงรัฐบาลของเมืองฮาร์เบอร์ด้วย ดังนั้น แม้ว่าฉันจะไม่ได้อยู่ในเมืองฮาร์เบอร์แล้ว เขาก็ไม่กล้าทำอะไรโง่ ๆ หรอก
“เมื่อเปรียบเทียบกับคนที่ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับนายเลย ให้เอาศัตรูที่รู้ซึ้งอยู่แก่ใจดีว่านายมีอำนาจเหนือพวกเขามากแค่ไหนมาเสียยังจะดีกว่าอีก และโอกาสที่พวกเขาจะทำเรื่องโง่ ๆ ก็มีน้อยกว่าด้วย”
เฮนรี่ได้ยินความคิดเห็นนั้นและครุ่นคิดอยู่นาน จากนั้นเขาก็พูดด้วยน้ำเสียงเศร้าใจว่า “ฉันไม่เข้าใจ…
“พวกนายไม่เหนื่อยเหรอ? ทุก ๆ วัน พวกนายคำนวณอะไรหลาย ๆ อย่าง ราวกับว่าพวกนายต้องคิดทบทวนเป็นสิบครั้ง”
"ไปกันเถอะ กลับบ้านกัน”
แจสเปอร์บิดขี้เกียจ
เฮนรี่รีบตามไปอย่างมีความสุข เขาคุ้นเคยกับการเป็นลูกน้องของแจสเปอร์แล้ว… เขายังไม่พบอะไรแปลก ๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้
คราวนี้ แจสเปอร์ไม่ได้กลับไปที่บ้านของตระกูลลอว์
แซคคารียุ่งมาก และไม่สามารถจัดสรรให้บุคคลไปทำงานอื่นพร้อมกันได้ หลังจากเกิดวิกฤตการณ์ทางการเงินครั้งใหญ่ที่เมืองฮาร์เบอร์ แซคคารีจะต้องจัดการปัญหาด้วยตนเอง ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจของครอบครัวหรือปัญหาในรัฐบาลของเมืองฮาร์เบอร์
แซกคารียังพาแอนนามาช่วยด้วย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ ไปให้สุด
รออัพอยู่นะคะ เดือนเศษแล้ว จะมีต่อไหมคะ...