เกิดใหม่ ไปให้สุด นิยาย บท 224

อย่างไรก็ตาม ยิ่งได้รับมากเท่าไหร่ ภาระที่เขาต้องแบกรับก็มากขึ้นเท่านั้น

ไรเดอร์รู้ว่าแจสเปอร์ไม่ได้ให้อำนาจกับเขามากขนาดนี้โดยไม่มีเหตุผล

“เงื่อนไขของคุณคืออะไร” ไรเดอร์ถาม

“ผมต้องการให้แอดเวนท์ เอ็นเตอร์เทนเมนต์ กรุ๊ปผลิตภาพยนต์ห้าเรื่องแบบบ็อกซ์ออฟฟิศให้ได้เงินมากกว่าหนึ่งพันล้านซอมเมอร์ดอลลาร์ภายในสองปี นำพาคนดังระดับปรากฏการณ์อย่างน้อยสามคนให้มีชื่อเสียง และเพิ่มขนาดของสินทรัพย์เป็นสองเท่า”

แจสเปอร์กล่าวคำของเขาและพูดด้วยรอยยิ้มว่า “นอกเหนือจากสิทธิ์ที่ผมกล่าวไปข้างต้นแล้ว คุณจะได้รับหุ้นบริษัทอีก 10% ด้วยเช่นกัน”

“ถ้าคุณสามารถทำมันให้สำเร็จได้ มูลค่าสุทธิของคุณจะโตขึ้นกว่า 100 ล้าน แต่ถ้าคุณทำไม่ได้ งั้นผมก็แค่ต้องหาคนอื่นแทน”

ไรเดอร์สูดหายใจเข้าลึก ๆ ยืนขึ้นและพูดว่า “ผมเต็มใจที่จะลองทำครับ”

แจสเปอร์หัวเราะ แล้วจึงลุกขึ้นและจับมือของไรเดอร์พร้อมพูดว่า “ผมเป็นคนง่าย ๆ ผมจะไม่รบกวนงานประจำวันของบริษัทเลย”

“ผมมองที่ผลลัพธ์ ไม่ใช่กระบวนการ ผมไม่มองผู้ใต้บังคับบัญชาว่าเป็นคนงานหรอก และผมชอบใช้ความร่วมมือเพื่อนิยามความสัมพันธ์ของผู้บังคับบัญชาและผู้ใต้บังคับบัญชามากกว่า ถ้าทุกคนทำได้ดี เราจะได้โชคไปด้วยกัน แต่ถ้าไม่ ผมจะไปทำกับคนอื่นแทน”

ไรเดอร์หัวเราะด้วยเช่นกันขณะที่พูดว่า “ขอพูดกับคุณตามตรงนะ มิสเตอร์เลน ผมไม่ได้วางแผนที่จะลาออกหรือเข้าร่วมกับบริษัทใหม่เลย ผมได้คุยกับผู้จัดหางานหลายคนแล้ว แต่ตอนนี้ ผมคิดว่ามันจะเป็นประสบการณ์ใหม่ทั้งหมดสำหรับการทำงานร่วมกับคุณ”

แจสเปอร์หัวเราะและพูดว่า “มารุ่งโรจน์ด้วยกันเถอะ”

“ฮึ่ม มารุ่งโรจน์ด้วยกันเถอะ” ไรเดอร์พยักหน้า

หลังจากไรเดอร์ออกไป แจสเปอร์ครุ่นคิดเป็นเวลานานในห้องทำงาน

แจสเปอร์ไม่มีผู้สมัครสักคนที่ดีไปกว่าไรเดอร์ในตอนนี้ ดังนั้นเขาคงทำได้แค่ลองดูก่อนและจ้างเขาไว้

แจสเปอร์ไม่ได้โกหกเรื่องก่อนหน้าด้วยเช่นกัน ถ้าไรเดอร์ทำได้ดี เขาคงให้ผลกำไรทั้งหมดแก่เขาตามที่กล่าวก่อนหน้านี้ แต่ถ้าไม่ ไรเดอร์คงต้องเก็บกระเป๋าและออกไป

แจสเปอร์ไม่ได้ทำงานการกุศล เขาซื้อแกลดเนส เอ็นเตอร์เทนเมนต์ มูฟวี่เป็นเงิน 1.5 พันล้านและอัดฉีดอีก 300 ล้านหลังจากนั้น ทั้งหมดทั้งมวลรวมเป็น 1.8 พันล้าน เขาต้องเห็นผลลัพธ์

เขาคงจะบอกได้ว่าไรเนอร์ทำได้ดีหรือไม่ในเวลาแค่ไม่กี่เดือน

ในความคิดเห็นของแจสเปอร์ มันคงไม่ยากที่จะก่อตั้งบริษัทความบันเทิงชั้นยอดในตอนที่เขานึกถึงเพลง ซีรี่ส์โทรทัศน์และแม้แต่วาไรตี้โชว์ที่จะเผยแพร่ไปอย่างรวดเร็วในอนาคต