คำพูดของแจสเปอร์ทำให้จูเลียนประทับใจ
แน่นอนว่า เขาไม่ต้องการทำผิดกฎหมายหากเป็นไปได้
มันจะสำคัญอะไร กับการที่เขาแข็งแกร่งแบบนี้?
เขาสามารถต่อสู้กับกฎหมายได้งั้นเหรอ?
ในช่วงเวลานี้ เขาเข้าใจอย่างชัดเจนว่า ความแข็งแกร่งส่วนบุคคลไม่ได้มีความหมายอะไรในโลกใบนี้
ความมั่งคั่งและอำนาจเท่านั้นที่มีความสำคัญ
สำหรับแจสเปอร์ ท่าทางที่สงบและไม่เร่งรีบของเขาตั้งแต่เริ่มต้น ทำให้เขามีพลังมากกว่ามาร์คหรือสตีฟมาก
“ผมจะเชื่อใจคุณได้ยังไง?” จูเลียนถาม
แจสเปอร์หัวเราะคิกคักเมื่อรู้ว่าจูเลียนกำลังเปลี่ยนใจ “มาร์คให้เท่าไหร่ล่ะ?”
“1 ล้านดอลลาร์” จูเลียนตอบอย่างตรงไปตรงมา
“ไม่เห็นจะเยอะอะไรเลย” แจสเปอร์พูดเบา ๆ
จากนั้นแจสเปอร์หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา เขาโทรศัพท์ต่อหน้าจูเลียน
“สวัสดี มิสเตอร์แลมเบิร์ต นี่ผมเอง ถอนเงินสดสองล้านดอลล่าร์ ออกจากห้องนิรภัยของบริษัททีนะ คุณมีเวลา 30 นาที”
จากนั้นแจสเปอร์วางสายและหันไปหาจูเลียนเพื่อพูดว่า “งั้นเรานั่งคุยกันก่อนได้ไหม?”
จูเลียนจ้องไปที่แจสเปอร์อย่างตั้งใจ ก่อนจะพยักหน้า
แจสเปอร์เลี้ยงอาหารเย็นจูเลียนในศูนย์อาหาร
เขาอิ่มและไม่รู้สึกอยากกินอะไรเลย ดังนั้นเขาจึงดื่มให้ตัวเองและเวนดี้คนละแก้ว
สำหรับจูเลียน เขายากจนมาก เพราะเขาใช้เงินทั้งหมดเพื่อซื้อยาของเคธี่ ซึ่งเขาไม่ได้กินข้าวมาเป็นเวลาสองวันแล้ว
นอกจากนี้ เขายังเป็นนักศิลปะด้านการต่อสู้ ร่างกายของเขาจึงต้องการอาหารมากกว่าปกติ นั่น ทำให้เขาสามารถกินอาหารสำหรับ 8 คนได้สบาย ๆ ...
ดวงตาของเวนดี้เบิกกว้างด้วยความตกใจ เมื่อเธอมองดูจานเปล่าจำนวนหนึ่ง
"เขาคือใคร? เขาดูหิวโหยมากเลย แน่ใจนะว่าเขาจะไม่กินเราไปด้วย?” เวนดี้ถามขณะแหย่แจสเปอร์
แจสเปอร์ยิ้ม “เขาเป็นผู้คุ้มกันที่ผมกำลังมองหา เขาเก่งในเรื่องการต่อสู้น่ะ”
เวนดี้ตาเบิกโพลง เธอเกิดมาในครอบครัวที่ร่ำรวยและคุ้นเคยกับแนวคิดเรื่องผู้คุ้มกัน ผู้คุ้มกันของพ่อของเธอมักจะเกษียณแล้วในกองทหารชั้นยอด และสามารถเอาชนะคน 6 คนได้ในคราวเดียว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ ไปให้สุด
ต่อหน่อยคร๊าฟ...
รออัพอยู่นะคะ เดือนเศษแล้ว จะมีต่อไหมคะ...