เกิดใหม่เป็นหวางเฟยอัปลักษณ์ของท่านอ๋อง นิยาย บท 10

"คุณชายเซิ่ง โปรดระวังวาจา"

ด้านข้างซูหรูอวี้ ซูหรูอันพี่ชายของนางได้ยินคำนี้จึงอ้าปากห้ามเซิ่งเทียน

ถึงอย่างไร ถึงแม้เขาไม่ชอบซูหรูเสวี่ย แต่อีกฝ่ายยังเป็นคนของจวนเหวินกั๋วกง เซิ่งเทียนหยามหน้านางเช่นนี้ เท่ากับหยามทุกคนในจวนกั๋วกง

แต่เซิ่งเทียนกลับไม่ไว้หน้าซูหรูอัน เขาว่า "ระวังวาจาอะไร? ข้าพูดประโยคไหนผิดไป?"

เหล่าองครักษ์ข้างกายของเขาก็ถือดีจนชิน ได้ยินจึงหัวเราะใหญ่ "ซูหรูเสวี่ยก็แค่สู้แม่นางของหอนางโลมไม่ได้เองมิใช่หรือ? คนเขาใช้เพียงเรือนร่างก็เกี่ยวผู้ชายได้ นางยังต้องวางยากับผู้ชายถึงมีคนยอมสัมผัสนาง แถมต้องเป็นท่านอ๋องตาบอดคนหนึ่ง!

ถึงแม้จะเป็นตอนเช้าตรู่ แต่ในท้องถนนมีคนสัญจรอยู่ ได้ยินเสียงเอะอะขนาดนี้หน้าจวนกั๋วกง ทุกคนอดไม่ได้จะทยอยมองทางนี้

ซูหรูเสวี่ยกลับไม่โกรธ แต่ในชายเสื้อของนางรวบรวมพลังจิตแล้ว

ถึงแม้เมื่อวานช่วยขจัดความเย็นให้ลู่จื่อเฉิง เผาพลาญพลังจิตนางไปไม่น้อย ตอนนี้ยังฟื้นฟูไม่เต็มที่ ไม่สามารถสังหารในครั้งเดียว แต่เรื่องเล็กอย่างทำลายประสาทส่วนกลาง นางยังทำได้อยู่

เพียงแต่ ไม่รอให้นางลงมือ เงาหนึ่งวาบผ่าน องครักษ์ที่ยังหัวเราะดังเมื่อครู่ ขณะนี้ล้มลงไปแล้ว ที่คอมีเหลือพุ่งออกมา ดูอย่างละเอียด ปรากฏว่าถูกแหวนนิ้วหัวแม่มือทะลุเป็นรูใหญ่!

แหวนนิ้วหัวแม่มือนั้นไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นของลู่เป่ยหาน

เซิ่งเทียนอยู่ใกล้องครักษ์ที่สุด ถูกเลือดกระเซ็นเต็มหน้าอย่างไม่ทันตั้งตัว สีหน้าซีดขาวลงในทันที ขาทั้งสองอ่อนแรง ทรุงนั่งอยู่บนพื้น

ไม่เพียงแค่เขา ซูหรูอวี้และซูหรูอันก็มีใบหน้าซีดขาว ถอยหลังไปหนึ่งก้าวอย่างไม่รู้ตัว

ซูหรูเสวี่ยมองท่าทางขี้ขลาดของเซิ่งเทียนก็รู้มีแค่คนที่ปากดีคนหนึ่ง ไม่เคยเห็นคนตายและเลือดสด เป็นคนไม่เอาไหนคนหนึ่ง

"จะ จา เจ้า——" เซิ่งเทียนตกใจจนพูดติดอ่าง "ลู่เป่ยหาน แม้แต่คนของข้าเจ้าก็กล้าฆ่าหรือ?"

"มีอะไรไม่กล้าเล่า?" ลู่เป่ยหานพูดว่า "ข้าเป็นนาย เขาเป็นบ่าว เขาพูดจาจาบจ้วง หมิ่นเกียรติข้ากับพระชายา ตามกฎก็สมควรตัดศีรษะ ในเมื่อเจ้าไม่รู้จักสั่งสอนอบรมลูกน้อง ข้าจึงช่วยสั่งสอนแทนเจ้ามีปัญหาหรือ?"

ถึงแม้เขาไม่ชอบซูหรูเสวี่ย แต่ถึงอย่างไรนางเป็นพระชายาของตนเอง วันนี้ยังเป็นวันกลับบ้าน ไม่มีเหตุผลที่เขามองคนอื่นหยามหน้านางต่อหน้าต่อตา

เซิ่งเทียนตกใจจนริมฝีมากซีด ตอนที่มองลู่เป่ยหาน นัยน์ตายังสั่นไหวอยู่

นับตั้งแต่ลู่เป่ยหานตาบอดยิ่งเงียบสงบลงมาก นานมากแล้วที่ไม่ได้เคลื่อนไหว ดังนั้นเซิ่งเทียนจึงลืมไปแล้วคนคนเคยเคยถูกเรียกว่าเทพเจ้าสงคราม สามารถสังหารให้สิ้นในสนามรบ แม่ทัพที่ใครได้ยินก็ทำให้กลัวขวัญหนีดีฝ่อ เป็นเทพเจ้าที่ป้องกันความสงบของราชวงศ์ต้าโจว ปกป้องความสงบสุขของราษฎร

ไม่ไกลนัก ซูหรูอวี้มองดูทั้งหมดนี้เงียบๆ ไม่ค่อยสบายใจนัก

ถึงแม้เป็นเซิ่งเทียนที่ท้าทายก่อน ยั่วโมโหลู่เป่ยหาน แต่สุดท้ายลู่เป่ยหานทำเพื่อซูหรูเสวี่ยถึงลงมือกับเซิ่งเทียน คิดถึงตรงนี้ นางก็กลืนความไม่พอใจนี้ลงยาก

ซูหรูเสวี่ยยืนอยู่ข้างลู่เป่ยหาน จู่ๆก็รู้สึกว่าผู้ชายคนนี้มีบางเวลาก็ดูน่ามองอยู่บ้าง

นางเก็บสายตามองเซิ่งเทียนที่ท่าทางอ่อนแอ ยิ้มพูดเหยียดหยามว่า "ข้าสู้ผู้หญิงในหอนางโลมไม่ได้ แล้วเจ้าคิดมีเจ้ามีลักษณะของลูกหลานผู้ดีกี่ส่วน? ก็แค่คนต่ำช้าไร้ยางอายอาศัยอำนาจรังแกคนอื่นเท่านั้น แม้แต่พฤติกรรมขอทานข้างถนนก็ยังดีกว่าเจ้า”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่เป็นหวางเฟยอัปลักษณ์ของท่านอ๋อง