เกิดใหม่เป็นหวางเฟยอัปลักษณ์ของท่านอ๋อง นิยาย บท 9

โดยเฉพาะอย่างยิ่งน้ำค้างหยกสร้างยากยิ่ง ถึงแม้จะสถานะอย่างท่านอ๋องก็ต้องรวบรวมวัตถุดิบยา ใช้เวลาถึงสองปีเต็มๆถึงทำออกมาได้ ตอนนี้บอกว่ามอบให้คนอื่น ยังเป็นมอบให้คนอย่างซูหรูเสวี่ย องครักษ์แค่คิดเท่านั้นก็รู้สึก เสร็จสิ้นการทำทำใจไม่ได้

แต่ลู่เป่ยหานกลับพูดว่า "ให้เจ้าส่งไปก็คือส่งไป"

ในงานเลี้ยงแต่งงานวันนั้น เป็นเขาที่ถูกยั่วโมโหจนขาดสติ

ผู้หญิงคนหนึ่ง ถึงแม้จะพูดจาร้ายแรงแค่ไหน เขาก็ไม่คนให้คนใช้แส้เฆี่ยนตีนางยี่สิบครั้ง นางไม่เคยฝึกวรยุทธ์จะทนไหวได้อย่างไร? ถึงแม้จะเก็บชีวิตกลับมาได้ บนตัวเต็มไปด้วยแผลเป็นแพร่ออกไปก็ไม่น่าฟัง เดิมนางก็อัปลักษณ์อยู่แล้ว บวกกับร่างกายที่เต็มไปด้วยแผลเป็น วันหน้านางจะใช้ชีวิตอย่างไร?

ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้นางยังช่วยได้รักษาจื่อเฉิงขจัดพิษเย็น ไม่ว่าจะด้วยความรู้สึกหรือเหตุผล เขาก็ควรมอบรางวัลชิ้นนี้ไป

องครักษ์เห็นเจ้านายตัวเองได้ตัดสินใจแล้วจึงไม่กล้าพูดอะไรอีก ได้แต่พูดว่า "แล้วทางคุณหนูรองจะทำอย่างไรขอรับ? อีกไม่นานนางก็จะฉลองวันเกิดแล้ว"

ลู่เป่ยหานพูดว่า "ข้าจะคิดเองว่าจะส่งสิ่งใดให้นาง"

องครักษ์ถึงตอบรับแล้วหมุนตัวออกไปส่งของขวัญ

...

องครักษ์นำหยกน้ำค้างมาถึงเรือนของซูหรูเสวี่ย ยังไม่ทันเข้าประตูก็ได้กลิ่นหอมของกับข้าว

หัวครัวเล็กคำนึงถึงบนตัวซูหรูเสวี่ยยังมีบาดแผล สิ่งที่ทำล้วนเป็นกับข้าวอ่อนๆ ตอนองครักษ์มาถึง ซูหรูเสวี่ยกำลังกินข้าวอย่างเอร็ดอร่อย เขาเห็นก็รู้สึกหิวแล้ว

เขากลืนน้ำลายแล้วพูดว่า "พระชายา ท่านอ๋องสั่งให้บ่าวมาส่งยารักษาภายนอกให้ท่านขอรับ"

ซูหรูเสวี่ยรับยามา ยกดมตามนิสัย ถึงถามว่า "เขาใจดีขนาดนั้นเชียว?"

พอฟังคำนี้ องครักษ์ก็ไม่พอใจแล้ว "นายท่านของข้าใจดีเสมอ หากไม่ใช่พระชายาใช้ลูกไม้ก่อนแต่งงาน ในงานแต่งยังพูดจาจาบจ้วง วันนี้ยังตบหน้าท่านถึงสองครั้ง นายท่านจะปฏิบัติต่อท่านด้วยใบหน้าเย็นชาได้อย่างไร?”

“นายท่านรู้ว่าท่านบาดเจ็บ ถึงสั่งข้าให้ส่งยามา นี่คือหยกน้ำค้างทำได้ยากยิ่ง ใต้หล้ายังหาเจอไม่กี่ขวด ยานี้ทาบนตัว จะไม่เหลือรอยแผลทิ้งไว้แม้แต่นิดเดียว”

ซูหรูเสวี่ยได้ยินก็พยักหน้า "เลื่องชื่อและแพงขนาดนี้เชียวหรือ? ข้าจะรับไว้ขอบคุณท่านอ๋องแทนข้าด้วย"

องครักษ์ทำเสียงขึ้นจมูกถึงได้หมุนตัวจากไป

ซูหรูเสวี่ยมองแผ่นหลังของเขา อดบ่นไม่ได้ "มีเจ้านายแบบไหนก็มีบ่าวแบบนั้นจริงๆ ดูถูกข้าขนาดนี้เชียว? วันหน้าข้าจะให้เจ้าคุกเข่ามองข้า!"

พูดจบ นางก็เริ่มสำรวจยาในมือ

พูดตามจริง ยานี้ดีจริงๆ

ลู่เป่ยหานคนนี้ถึงแม้ไม่น่าคบ แต่ก็ไม่ได้เลวเข้ากระดูก

ซูหรูเสวี่ยคิดอยู่ เปิดจุกขวด กลิ่นหอมสดชื่นลอยขึ้นมา

อืม ถึงแม้จะดีเยี่ยม แต่ยังมีจุดที่ต้องปรับปรุงให้ดีขึ้นอยู่

นางคิดคำนวณในใจ หลังจากแกะสูตรยาแล้วก็บวกสมุนไรสองสามอย่าง พบว่าหากจะปรับปรุง ที่จริงต้นทุนต่ำมาก นางสามารถปรับปรุงเสร็จออกขายในราคาสูง อย่างนั้นเส้นทางการหาเงินในวันหน้าก็มั่นคงแล้วไม่ใช่หรือ?

เหอะๆ

ซูหรูเสวี่ยกำลังดีใจ กินข้าวเสร็จก็ให้ฝูหรงช่วยตนเองทายา

เฮ้อ ทายาเสร็จคนทั้นคนสบายขึ้นมากจริงๆ นางขึ้นเตียงนอนเร็ว รอถึงวันกลับบ้าน นางยังมีศึกหนักที่ต้องต่อสู้รออยู่!

...

วันกลับบ้าน

ซูหรูอวี้ยืนอยู่หน้าประตู ข้างตัวนางเป็นพี่ชายของนาง ทั้งสองคนกำลังส่งชายคนหนึ่งกลับ เห็นรถม้าของจวนอ๋องมา สีหน้าของทั้งสามคนไม่ค่อยดีนัก

ซูหรูเสวี่ยลงจากรถ ค้นตามความทรงจำของเจ้าของร่างเดิม จึงจำได้ผู้ชายคนนั้นคือเซิ่งเทียน หลานชายของฮองเฮาองค์ปัจจุบัน หลานชายคนโตสายตรงของมหาเสนาบดี

คนคนนี้อาศัยบารีครอบครัว กระทำการใช้อำนาจบาตรใหญ่ ได้รับสมญานามเด็กเสเพลอันดับหนึ่งแห่งเมืองหลวง แทบไม่มีใครกล้าหาเรื่องเขา อีกทั้งเขาพึ่งใจซูหรูอวี้ เป็นศัตรูคู่อาฆาตกับลู่เป่ยหาน

"โย่ว ข้านึกว่าใคร? ที่แท้อดีตเทพเจ้าสงครามแห่งราชวงศ์ต้าโจวเองหรือ? ช่วงนี้เป็นอย่างไรบ้าง?

เซิ่งเทียนเห็นลู่เป่ยหานและซูหรูเสวี่ย อดไม่ได้จะพูดจาเยาะเย้ย "ได้ยินมาว่าท่านอ๋องแต่งงานแล้ว? เห็นวันนี้ ท่านอ๋องกับพระชายาช่วงเป็นคู่ที่ฟ้าประทาน คนหนึ่งหน้าตาอัปลักษณ์ ส่วนอีกคนมองไม่เห็น แม้จะเผชิญหน้ากันทุกวัน ท่านอ๋องก็จะไม่คลื่นเหียน ดียิ่ง ดียิ่ง"

คำพูดเหล่านี้ของเขา แสดงชัดว่าต้องการลู่เป่ยหานอับอาย

หากเป็นวันปกติ แน่นอนว่าซูหรูเสวี่ยจะไม่สนใจคนอื่นดูถูกด่าว่าลู่เป่ยหานอย่างไร แต่วันนี้แตกต่าง ลู่เป่ยหานกลับบ้านพร้อมนาง นั่นก็คือหน้าตาของนาง เขาถูกด่าก็คือตบหน้านาง อีกทั้งในคำพูดนี้ยังด่าเหมานางไม่ด้วย นางจะกลืนความโกรธนี้ลงได้อย่างไร?

ดังนั้นนางก้าวไปข้างหน้า แสร้งพัดโบกคลื่นไส้แล้วพูดว่า "คุณชายเซิ่งวันนี้ออกบ้านเกรงว่าจะไม่ได้บ้วนปากกระมัง? กลิ่นเหม็นที่กินส้วมซึมออกมาทำให้คนอื่นรมควันตายจริงๆ"

นางพูดคำนี้ออกไป ทุกคนที่นี่ต่างตกตะลึงไป

วันนี้ซูหรูเสวี่ยกินดีหมีใจเสือมาหรือ? ถึงกับกล้าพูดเช่นนี้กับเซิ่งเทียน?

ต้องรู้ว่าอีกฝ่ายมีสถานะอะไร ทั่วเมืองหลวงเกรงว่าหาผู้หญิงที่ไม่เคารพเขาเหมือนนางเป็นคนที่สองไม่เจอ

เซิ่งเทียนโกรธขึ้นในทันที "เจ้าบังอาจนัก!"

หากไม่ใช่ซูหรูอวี้ที่เขามีใจยังอยู่ที่นี่ เขาไม่อยากให้อีกฝ่ายเห็นด้านรุนแรงของตนเอง ไม่ว่าอย่างไรวันนี้เขาก็จะทุบตีซูหรูเสวี่ยสักครั้ง

แต่ถึงแม้ไม่ได้ลงมือ คำพูดเขาก็ไม่ได้เกรงใจ "ช่างเถอะ ข้าไม่อยากอารมณ์เสียเพราะเจ้า เจ้าก็แค่หญิงอัปลักษณ์หยาบคาย วางอยู่ในหอนางโลม แม้แต่โสเภณีชั้นต่ำยังสู้ไม่ได้ จะให้ข้าเห็นอยู่ในสายตาได้อย่างไร? อารมณ์เสียเพราะเจ้า ลดสถานะของข้าเปล่าๆ!"

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่เป็นหวางเฟยอัปลักษณ์ของท่านอ๋อง