เกิดใหม่ยุค80 กุลสตรีอย่างข้าจะพารวยเอง นิยาย บท 10

กลางดึก เฉิงเทียนหยวนพลิกตัวไปมา นอนไม่หลับ

อาจจะเพราะโซฟานอนไม่สบาย และอาจจะเพราะในใจมีเรื่องคิดมาก เขาไม่สามารถนอนหลับได้

ห้องเดี่ยวมีขนาดเล็กมาก เขาเคลื่อนร่างกายหันข้าง เห็นเซวียหลิงที่นอนหลับสนิทผ่านแสงสลัวเล็กน้อยที่ลอดเข้ามาจากทางหน้าต่าง

คนน่ารักตรงหน้าเหน็ดเหนื่อยมาหนึ่งวัน ไม่มีความสูงศักดิ์และสง่างามของนางเอกในเทพนิยาย และไม่มีความหยาบคายปากร้ายของเธอ อ่อนโยนเหมือนลูกแกะน้อยน่ารัก หลับอย่างมีความสุข

ดวงตาเฉิงเทียนหยวนลึกซึ้งหนักอึ้ง ตามองร่างเจ้าหญิงนิทรา หัวใจกระวนกระวายเหมือนรู้สึกกังวลไม่สบายใจ

อีกไม่นานเธอจะมั่นคง เริ่มต้นชีวิตใหม่ พรุ่งนี้หรือวันมะรืนก็อาจจะไม่ต้องการให้เขาช่วยเฝ้าแล้วก็ได้

ถึงตอนนั้น เธอมีชีวิตของเธอ เขาก็มีชีวิตวุ่นวายของตัวเอง การมาพบเจอกัน......ดูเหมือนจะไม่มีอีกแล้ว

วันที่แต่งงาน เพิ่งเข้าห้องหอเธอก็รำคาญไม่พอใจ บ่นเป็นนัยๆ ไม่หยุดหย่อนว่าทั้งสองไม่เหมาะสมกัน จัดระเบียบครอบครัวไม่ได้หรอก สุดท้ายคือเตือนว่าเขาสองคนจะจบไม่สวย

สำนักกิจการพลเรือนอยู่ทางตอนเหนือของอำเภอ รอเธอมั่นคง คงจะเอ่ยปากกับตนก่อน......

คิดเพ้อเจ้ออยู่พักใหญ่ ความง่วงก็แล่นเข้ามา เขานอนหลับไปโดยไม่รู้ตัว

เช้าตรู่ เฉิงเทียนหยวนล้างหน้าแปรงฟันออกไปซื้ออาหารเช้า เมื่อวานเซวียหลิงนอนไม่พอ ยังคงนอนขี้เกียจอยู่ในผ้าห่ม

"น้ำเต้าหู้กับปาท่องโก๋ร้านนี้อร่อยมาก ปาท่องโก๋ถ้าเย็นแล้วจะไม่ค่อยอร่อยนะ ลุกขึ้นมากินสิ" เขาวางของลง แล้วหันหลังไปล้างมือที่ระเบียงขนาดเล็ก

เซวียหลิงได้กลิ่นหอมของปาท่องโก๋ ความตะกละก็โผล่ออกมาทันที ยกผ้าห่มขึ้นแล้วรีบสวมเสื้อคลุม รีบวิ่งไปล้างหน้าแปรงฟัน

เฉิงเทียนหยวนเช็ดมือแล้วพูดเสียงเข้ม "ฉันไปทำงานก่อนนะ ตอนเย็นจะมารับเธอที่นี่"

"พี่หยวน กินด้วยกันสิ!" เซวียหลิงถือปาท่องโก๋ร้อนๆ ในมือในใจก็อบอุ่น

เฉิงเทียนหยวนส่ายหน้า ตอบกลับ "ซื้อมาแค่หนึ่งชุดให้เธอ ฉันจะกลับไปกินที่สหกรณ์ร้านค้า"

เขาประหยัดเรื่องกินมาตลอด น้ำเต้าหู้หนึ่งถุงและปาท่องโก๋สองตัวสามารถซื้อหมั่นโถวได้ห้าลูกใหญ่ มันค่อนข้างแพงสำหรับเขา และไม่อิ่มด้วย

ปกติข้าวเช้าของเขาคือข้าวต้มและหมั่นโถวสองลูก ราคาไม่แพง และค่อนข้างอิ่มด้วย

"เดี๋ยว!" เซวียหลิงหยิบถุงน้ำเต้าหู้ยัดใส่มือเขา ยิ้มแย้มพูดขึ้น "ตอนเช้าค่อนข้างหนาว นายดื่มอะไรอุ่นๆ ก่อนนะ ฉันดื่มถุงเดียวก็พอแล้ว"

เฉิงเทียนหยวนเห็นรอยยิ้มเธอสดใสเหมือนพระอาทิตย์นอกหน้าต่าง สายตาหลบหลีกพยักหน้า เอนตัวลงไปดื่มมันนิดหน่อย

เธอยิ้มถาม "หอมหวานมากเลย ใช่ไหม?"

เฉิงเทียนหยวนมุมปากยกขึ้น แล้วพูดเสียงทุ้ม "หวานมาก"

ตอนลงตึกมา ท้องก็อุ่นเล็กน้อย ในลำคอก็ยังมีความหอมหวานเข้มข้นของน้ำเต้าหู้อยู่ ความรู้สึกในเช้าแบบนี้----ทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะนึกถึงช่วงเวลาวัยเด็กที่ปากซอยต้าหูถง

ตอนนั้นครอบครัวไม่ถือว่ามีฐานะดี แต่ก็ไม่ยากจนขัดสนเหมือนในภายหลัง

อาหารเช้าแม่มักจะทำน้ำเต้าหู้ ทำซาลาเปาหนึ่งเข่ง คนในครอบครัวนั่งล้อมโต๊ะเล็ก กินดื่มกันอย่างเอร็ดอร่อย

เขายกยิ้มเบาๆ โดยไม่รู้ตัว แล้วรีบเดินไปที่สหกรณ์ร้านค้าด้วยฝีเท้าเร่งรีบ

หลังจากเซวียหลิงเพลิดเพลินกับอาหารเช้าอย่างสุขใจแล้ว ก็แต่งหน้าเรียบง่ายเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วออกจากบ้านไปที่สำนักหนังสือพิมพ์หรงหวา

ผ่านไปแวบเดียว ก็เดินมาถึงประตูทางเข้าสำนักพิมพ์โดยไม่รู้ตัว

ในเวลานี้ สำนักพิมพ์ก็เพิ่งเริ่มทำงาน มีคนเดินมาเดินไป

ชายคนหนึ่งกำลังใช้เครื่องพิมพ์ดีดรุ่นเก่าพิมพ์งาน เงยหน้าเห็นเธอกำลังชะโงกศีรษะเหมือนกำลังหาใครอยู่ ก็ยิ้มกว้าง "คุณเป็นใครเหรอ? หาใครอยู่?"

เซวียหลิงบอกชื่ออย่างสุภาพ อธิบายจุดประสงค์การมาของตัวเอง แล้วสอบถามอย่างสุภาพว่าห้องทำงานของผอ.หลิวอยู่ที่ไหน

"อ๋อ! คุณนี่เอง!" ชายหนุ่มยิ้มอย่างเป็นมิตร "เมื่อวานผอ.พูดเรื่องของคุณกับพวกเราตอนพักเที่ยง บอกว่าคุณเรียนจบมาจากวิทยาลัยภาษาต่างประเทศในเมือง!"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ยุค80 กุลสตรีอย่างข้าจะพารวยเอง