เฉิงเทียนหยวนก็เคยเรียนภาษาอังกฤษ แต่ไม่ได้เชี่ยวชาญ กวาดตามองพบว่าไม่รู้จักคำศัพท์หลายตัว ดูเหมือนเป็นหนังสือพิมพ์บทความหนึ่ง
"นี่อะไร?"
เซวียหลิงโพล่งตอบ "นี่งานแปลที่สำนักพิมพ์ให้ฉันทำ ฉันไปมาสองบริษัท มีสำนักหนังสือพิมพ์หรงหวา พวกเขาสนใจจะจ้างงานฉัน แต่ฉันยังไม่ได้ตัดสินใจ"
เฉิงเทียนหยวนรินน้ำหนึ่งแก้ว รู้สึกกระหายมาก ดื่มไปสองอึกใหญ่ ใบหน้าหล่อก็ใจเย็นเงียบสงบ
"ลองว่ามา"
เซวียหลิงอธิบาย "บริษัทแรกคือบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในอำเภอหรงหวาตอนนี้ หลักๆ คือขนส่งสินค้า ตำแหน่งคือผู้จดบันทึกข้อมูล และทำงานบัญชีนิดหน่อย บริษัทที่สองเล็กมาก แต่งานสบาย แค่รับผิดชอบจดบันทึกรายการบัญชีและตรวจสอบ ค่าจ้างสองบริษัทพอๆ กัน หนึ่งเดือนสองร้อยหยวน น้อยมาก"
เฉิงเทียนหยวนเลิกคิ้วเล็กน้อย แล้วตอบว่า "ค่าจ้างถือว่าไม่เลว ไม่ถือว่าน้อย"
ในยุคนี้ นักศึกษามหาวิทยาลัยนั้นหายาก มีใบปริญญาหางานทำได้ นายจ้างแทบจะแย่งตัวกัน
เขาเรียนจบแค่มัธยมปลายเกี่ยวกับวัฒนธรรม ตอนหางานทำแรกๆ ยังไม่ได้ใบประกาศนียบัตรจบมัธยมปลาย จึงจำเป็นต้องหางานมั่นคงที่สหกรณ์ร้านค้า
หลังจากทำงานมาระยะหนึ่ง เขาก็คุ้นเคยกับอำเภอแล้ว กลางคืนก็ไปทำงานพาร์ทไทม์ที่สถานีรถ หาเงินเพิ่มนิดหน่อย
สหกรณ์ร้านค้าให้ค่าจ้างแค่ร้อยยี่สิบ รวมกับค่าจ้างงานพาร์ทไทม์ตอนกลางคืน หนึ่งเดือนเขาได้มากสุดร้อยห้าสิบร้อยหกสิบหยวน
เขาอธิบายเสียงเรียบ "อำเภอหรงหวาเป็นแค่อำเภอธรรมดา เทียบไม่ได้กับเมืองใหญ่ งานเหมือนกัน ถ้าทำที่เมืองหลวงจะได้สามร้อยหยวน ที่นี่มากสุดก็สองร้อย"
เซวียหลิงก็เข้าใจเหตุผลนี้ จึงพยักหน้าคล้อยตาม
"งั้นตอนนี้ฉันสนใจงานที่สำนักพิมพ์มากกว่า สำนักหนังสือพิมพ์หรงหวาเดือนที่แล้วเปิดคอลัมน์เล็กเกี่ยวกับเรียนภาษาอังกฤษ มีบรรณาธิการรับผิดชอบแค่คนเดียว แต่ระดับภาษาอังกฤษเขาไม่สูง ในคอลัมน์เนื้อหาน้อย ท่านผอ.รับสมัครงานอยากให้ฉันเรียนกับเขา ต่อไปจะให้ฉันรับผิดชอบคอลัมน์นี้"
เฉิงเทียนหยวนพูดเสียงเรียบ "งานบริษัทโดยปกติไม่มั่นคง บางครั้งต้องทำงานล่วงเวลา เทียบกันแล้ว งานสำนักพิมพ์จะมั่นคงกว่า และงานไม่ยุ่งจนเกินไป"
สหกรณ์ร้านค้าซับสไครบ์สำนักหนังสือพิมพ์หรงหวา วันละฉบับ บางครั้งเขาก็ได้มาหนึ่งถึงสองใบ คอลัมน์ที่เธอพูดถึงเขาก็เคยอ่านมันสองสามครั้ง
คอลัมน์ช่องเล็กมาก โดยปกติจะมีแค่ไม่กี่คำ แค่ไม่กี่ประโยครวมถึงการแปล ไม่มีเนื้อหาอะไรจริงๆ
รับผิดชอบคอลัมน์แบบนี้ น่าจะสบายมาก
แต่เซวียหลิงรู้สึกลังเล อธิบายว่า "แต่ค่าจ้างที่ให้บรรณาธิการฝึกหัดแค่หนึ่งร้อยแปดสิบ ทำหนึ่งปีผ่านโปรได้ทำงานประจำถึงจะได้สองร้อยห้าสิบ รับผิดชอบแค่อาหารกลางวัน ที่พักและอื่นๆ ต้องหาเอง"
เฉิงเทียนหยวนทำงานข้างนอกมาหลายปีแล้ว ก็ฟังออกถึงความกังวลของเธอ
"เช่าห้องที่นี่ ห้องชุดเล็กทั่วไปจะมีสองห้องนอนหนึ่งห้องรับแขก หนึ่งเดือนต้องใช้เงินสามสิบกว่าสี่สิบหยวน แต่งานนี้มั่นคงและสบาย เหมาะกับเธอด้วย"
งานรายวันโดยปกติจะได้ประมาณห้าหยวนต่อวัน ล้วนเป็นงานที่ค่อนข้างหนัก
งานบรรณาธิการค่อนข้างสบาย ถือปากกานั่งในห้องทำงาน มีน้ำชาเตรียมไว้ให้ เวลาทำงานก็คงที่ มีวันหยุดสุดสัปดาห์ ค่าจ้างของที่นี่ก็ถือว่าดีมาก
แต่เซวียหลิงส่ายหน้า ตอบว่า "ฉันยังเด็ก มีพลังและเรี่ยวแรง จะหางานทำสุขสบายเกินไปไม่ได้"
เฉิงเทียนหยวนตกตะลึงเล็กน้อย ไม่ทันตั้งตัวว่าเธอจะพูดแบบนี้
เห็นลักษณะละเอียดอ่อนบอบบางของเธอ ไม่ทำงานสุขสบาย แล้วจะทำอะไรได้?
เขาขมวดคิ้วถามอย่างอดไม่ได้ "ทำไม? งานสบายๆ ไม่ดีเหรอ?"
เซวียหลิงยักไหล่ ตอบอย่างมั่นใจ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ยุค80 กุลสตรีอย่างข้าจะพารวยเอง