แม้ว่า หลิวอิงจะตามใจลูกสาวคนเล็กมาตลอด แต่คืนนี้เธอถูกทำให้ตกใจอย่างมาก!
ตอนแรกคิดว่าเธอกับผู้ชายที่มาจากในเมืองนั้นแค่ถูกตาต้องใจกันเท่านั้น ไม่คิดว่าถึงขั้น......ไปพบกันในเวลากลางคืนแล้ว!
ไม่คิดจะเอาชื่อเสียงและหน้าตาของผู้หญิงแล้วหรือ! ขายหน้าชัดๆ เลย!
ตอนแรกยังคิดว่าเด็กผู้หญิงกำลังอยู่ในอารมณ์รัก เธอจึงไม่ได้กังวลอะไรมาก แต่ความจริงนั้นมันรุนแรงมาก!
ดังนั้น เมื่อตาแก่บอกว่าจะตีลูกสาว เธอจึงเห็นด้วยและกล่าวขึ้นว่า "ฉันตีเอง!จะต้องให้เธอพูดความจริงออกมาให้ได้!"
เฉิงเทียนหยวนเห็นว่าพ่อแม่โกรธมาก เมื่อนึกถึงคืนนี้เกือบจะทำให้เพื่อนบ้านรู้เรื่องที่ผู้ชายที่ไร้ยางอายมาหาในบ้าน รู้ว่าเรื่องนี้จะล่าช้าต่อไปไม่ได้แล้ว
แต่ว่า เขาไม่เห็นด้วยกับวิธีการของพ่อแม่
"อาฟางอายุสิบห้าปีแล้ว ไม่ใช่เด็กหญิงอายุห้าขวบ คนในอายุเท่าเธอ ยิ่งพูดยิ่งด่าเธอ เธอก็ยิ่งจะไม่ฟัง แค่ข่มขู่ก็พอแล้ว ไม่ต้องตีจริง "
เซวียหลิงพยักหน้า พูดเห็นด้วย "อารมณ์ของน้องค่อนข้างร้อน ถ้าพ่อกับแม่ตีเธอ อาจไม่แน่ว่าเธอจะหนีออกไป เมื่อถึงเวลานั้น จะยิ่งผลักเธอหนีไปข้างนอก ผลักเธอไปไกล ๆ"
เฉิงมู่ไห่กับหลิวอิงมองหน้ากัน รู้สึกว่าที่ลูกชายกับลูกสะใภ้พูดมีเหตุผล
"แต่.....นังตัวดีก็ไม่ใช่คนที่จะใช้น้ำเสียงอ่อนโยนนุ่มนวลเกลี้ยกล่อมได้! พ่อกับแม่ว่าเธอในแต่ละวันน้อยสักที่ไหน?เธอเคยฟังเข้าหูที่ไหน?มันก็เข้าหูซ้ายทะลุหูขวาอยู่ดี!"
เฉิงเทียนหยวนกล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด "ยังไม่ต้องตี ขู่เธอก่อน ให้เธอพูดความจริงออกมาให้หมด หากไม่มีปัญหาอะไร ถ้าอย่างนั้นเราก็ให้เธออยู่ในบ้านสักระยะหนึ่ง ไม่ให้เธอไปหาผู้ชายคนนั้น ตัดความสัมพันธ์ก็ไม่มีอะไรแล้ว "
หยุดไปครู่หนึ่ง แล้วสีหน้าของเธอหม่นหมองลง
"สำหรับผู้ชายคนนั้น ผมจะหาโอกาสไปสั่งสอนเขาสักหน่อย เตือนเขาไม่ต้องมายุ่งกับอาฟาง"
เมื่อเซวียหลิงได้ยินว่าเขาจะไปสั่งสอนผู้ชายห่วย ๆ เธอแอบหัวเราะในใจ
"ใช่ เอาอย่างนี้ก่อน เดี๋ยวน้องกลับมา ให้แม่ไปถามเถอะ แม่ลูกสนิทใกล้ชิดกัน เกลี้ยกล่อมสองสามคำ จากนั้นปลอบเธอ ยังไม่ต้องรีบร้อนใช้ไม้อะไรพวกนั้น "
เฉิงเทียนหยวนกล่าวกับพ่อว่า "พ่อ พ่ออย่าเพิ่งโกรธ พักผ่อนก่อนเถอะ ให้แม่รออาฟางอยู่ตรงนี้ก็พอแล้ว เราจะทำให้เรื่องใหญ่ไม่ได้ เดี๋ยวเพื่อนบ้านได้ยินเข้าพูดออกไปแล้วจะไม่น่าฟัง "
พ่อเฉิงยังคงไม่วางใจ กล่าวด้วยความโกรธว่า "ต้องสั่งสอนยัยนั่น!จะปล่อยไปแบบนี้ไม่ได้!"
เซวียหลิงทำได้เพียงช่วยเกลี้ยกล่อม "พ่อ ตอนนี้ต้องเกลี้ยกล่อมน้องให้ได้ก่อน จะให้หนีไปไม่ได้ ยิ่งลงมือจะทำให้วิ่งหนีออกห่าง วัยขนาดนี้ จะต้องเกลี้ยกล่อมมากๆ ท่านเข้าไปพักผ่อนในห้องเถอะ ให้แม่ไปถามเถอะ "
เมื่อพ่อเฉิงได้ยินพวกเขาพูดเสียงเดียวกันแบบนี้ ก็เลยยอมแพ้
"ได้ ฉันกลับห้องก่อน พรุ่งนี้เช้าพวกแกยังต้องกลับไปในอำเภออีก อย่าหักโหมจนดึกเกินไปล่ะ "
จากนั้นเขาเข้าไปในห้อง หลังโก่งเล็กน้อย ดูไปแล้วเหน็ดเหนื่อยและเหนื่อยใจมาก
เฉิงเทียนหยวนมองดูเวลา แล้วกล่าวว่า "จะสี่ทุ่มแล้ว หลิงหลิง เธอกลับห้องไปนอนก่อน ฉันอยู่เป็นเพื่อนแม่รออยู่ที่นี่ "
เซวียหลิงวิ่งไปมาทั้งวันจนเหนื่อย ง่วงนอนมากจนไม่ไหวแล้ว ดังนั้นจึงกลับห้องไป
ตอนแรกคิดว่าวันนี้ยุ่งมาทั้งวัน หลังจากนอนลงไปคงจะไม่หลับง่าย ๆ แต่ไม่คิดว่าในใจครุ่นคิดว่ามี เฉิงเทียนหยวนอยู่ เขาจะต้องจัดการเรื่องนี้อย่างดีแน่นอน จิตใจสงบลง และหลับไปอย่างรวดเร็ว
เธอหลับลึกมาก จนกระทั่งเที่ยงคืนเฉิงเทียนหยวนขึ้นเตียง นอนอยู่ข้าง ๆ เธอ เธอยังคงไม่รู้เรื่อง
......
ท้องฟ้าสว่างเล็กน้อย เฉิงเทียนหยวนก็ลุกขึ้นแล้ว
เขามองไปยังภรรยาที่กำลังหลับใหลอยู่ข้างๆ เขา และหัวใจของเขาก็อ่อนโยนขึ้นมา
"หลิงหลิง......"
อาจจะเป็นเพราะเพิ่งจะตื่นนอน น้ำเสียงของเขาแหบแห้งอย่างเห็นได้ชัด
เซวียหลิงสะลึมสะลือ "อืม" หนึ่งเสียง มุดตามอายร้อน เข้าไปในอ้อมกอดของเขา
เฉิงเทียนหยวนตัวแข็งทื่อ มีเปลวไฟผุดขึ้นมาในหัวใจของเขาตามสัญชาตญาณ จนมือและเท้าของเขาเต็มไปด้วยเหงื่อ!
ปลายจมูกนั้นเต็มไปด้วยกลิ่นอายหอมหวานของสาวน้อย หอบและอบอุ่น ราวกับน้ำพุร้อนที่ไหลรินในฤดูหนาว เต็มไปด้วยความเย้ายวนใจ จนทำให้เขาเกือบจะทนไม่ไหว!
แต่คนในอ้อมกอดนั้นราวกับไม่รู้สึกตัว ศีรษะน้อย ๆ มุดเข้าไปในอ้อมกอดของเขา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ยุค80 กุลสตรีอย่างข้าจะพารวยเอง