ยาหยีเดินกลับไปกลับมาด้วยความกระวนกระวายใจอยู่ที่หน้าตึกใหญ่ รอคอยเซอร์เกที่จะเป็นคนนำพาหล่อนให้ไปพบบิดา แต่หล่อนรอมาเกือบสิบนาทีแล้วก็ยังไม่เห็นวี่แวว หญิงสาวถอนใจออกมา กำลังจะเดินกลับเข้าไปในตึก แต่เสียงเรียกคุ้นหูก็ดังขึ้นเสียก่อน
“ขอโทษที่ทำให้รอครับ”
“เซอร์เก...”
หญิงสาวอุทานออกมาด้วยความดีใจจนปิดไม่มิด ความหวังที่จะได้พบหน้าบิดากำลังใกล้เข้ามาทุกขณะแล้ว
“เชิญครับ ผมจะพาคุณไปพบนายยอดชาย”
เซอร์เกผายมือเป็นสัญญาณเชื้อเชิญ ยาหยีรีบสาวเท้าเดินไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วแทบจะเป็นวิ่งเลยก็ว่าได้ โดยไม่สนใจสักนิดว่าคนที่เดินตามมาข้างหลังจะตามทันหรือไม่
‘หล่อนอยากพบพ่อ อยากเจอพ่อ’
“เลี้ยวซ้ายครับ” เซอร์เกร้องบอกเมื่อหล่อนเดินมาถึงทางแยก
“ขอบคุณค่ะ”
ยาหยีก้าวขอบคุณ ขณะเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้น
“คุณยังจำคำสัญญาที่ให้ไว้กับผมที่สวนสาธารณะได้ใช่ไหมครับ”
คำพูดของชายที่เดินตามหลังมาทำให้เท้าของยาหยีก้าวช้าลงทันที ความโศกเศร้ากลับมากัดกินหัวใจอีกครั้งหนึ่งแล้ว
“ฉันไม่มีวันลืมสัญญาสำคัญแบบนั้นหรอกค่ะ คุณไม่ต้องห่วง”
เคยนึกว่าเซอร์เกจะเป็นมิตรที่ดี แต่ตอนนี้เขากลับกลายเป็นคนที่เห็นหล่อนเป็นศัตรูไปแล้ว แต่ช่างเถอะ สิ่งที่เขาทำมันคือสิ่งที่ถูกต้องแล้วนี่ ทาสผู้จงรักภักดีขับไล่นางมารร้ายโปรไฟล์ต่ำอย่างหล่อนให้ออกไปจากชีวิตอันเลิศหรูของเจ้านายตัวเอง
“ฉันจะไปทันทีเมื่อพ่อได้รับอิสรภาพ”
“งั้นก็เตรียมตัวไว้เถอะครับ เพราะผมวางแผนจะให้พ่อของคุณหนีในอีกไม่กี่วันนี้”
เท้าตายได้อย่างไม่น่าเชื่อ ยาหยีหันขวับกลับไปมองเซอร์เกที่ยืนอยู่ด้านหลังด้วยสายตาเบิกกว้าง ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเวลาแห่งความสุขระหว่างหล่อนกับคอร์เนลจะแสนสั้นเช่นนี้
“ในอีกไม่กี่วันหรือคะ?”
เซอร์เกพยักหน้ารับ
“ใช่ครับ ตอนนี้ผมกำลังรอเวลานั้นอยู่”
ยาหยีกัดปากแรงๆ แต่แปลกที่มันกลับไม่รู้สึกเจ็บเลยแม้แต่น้อย
“ฉัน...”
“คุณคงดีใจมากใช่ไหมครับ”
ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าหล่อนจะตีบทแตกขนาดนี้ ทั้งๆ ที่เจ็บปวดจนแทบขาดใจ แต่เซอร์เกกลับมองว่าหล่อนกำลังดีใจจนเนื้อเต้นซะงั้น ดีใจก็ดีใจ ใช่...หล่อนกำลังดีใจจนแทบจะร้องไห้ออกมาเป็นสายเลือดเชียวแหละ
“ค่ะ ฉันดีใจมาก...ขอบคุณมากนะคะสำหรับความช่วยเหลือ”
จังหวะที่หมุนตัวกลับมาเดินต่ออีกครั้งนั้นน้ำตาก็ร่วงรินลงมาอาบแก้ม ยาหยีรีบยกมือขึ้นป้ายมันทิ้ง แต่ยิ่งเช็ดมันก็ยิ่งไหลทะลักออกมาอย่างน่าประหลาดใจ
เซอร์เกเดินตามร่างของยาหยีไปเงียบๆ โดยไม่คิดจะชวนสนทนาอะไรอีก และเมื่อถึงจุดหมาย เขาก็พยักหน้าให้คนคุมหน้าห้องไขกุญแจ
“ไปยืนรออยู่ที่หน้าเรือน ครบครึ่งชั่วโมงแล้วค่อยมาเรียกให้คุณยาหยีออกมา”
“ครับคุณเซอร์เก”
หญิงสาวเห็นผู้คุมสองสามคนที่มีอาวุธครบมือเดินห่างออกไปยืนอยู่ที่หน้าเรือน ขณะที่เซอร์เกเดินมาเข้ามาผลักประตูห้องให้เปิดออก
“นายน้อยให้เวลาคุณครึ่งชั่วโมง อย่าเกินเวลาล่ะครับ ผมจะรออยู่แถวๆ นี้” เซอร์เกพูดจบประโยคก็เดินหายออกไปทันที
ยาหยีถอนใจออกมาอย่างโล่งอก ขณะกวาดตามองสำรวจห้องกว้างที่มีเครื่องใช้ไม่กี่ชิ้นตรงหน้าอย่างละเอียดลออ แล้วก็ต้องน้ำตาไหลพรากเมื่อเห็นร่างของบิดานอนนิ่งอยู่บนเตียงเล็กๆ ริมหน้าต่างที่มีเหล็กดัดติดเอาไว้อย่างแน่นหนา
“พ่อ!”
“ลูกหยี!”
สองพ่อลูกโผเข้ากอดกันแน่น ต่างพากันร่ำไห้ด้วยความดีใจ
“เขาทำอะไรพ่อหรือเปล่า พวกเขาทำร้ายพ่อไหมคะ”
หญิงสาวร้องถามด้วยความเป็นห่วง ดันตัวออกห่างจากบิดาเพื่อที่จะมองสำรวจร่างกายของท่าน และก็ได้เห็นรอยชอกช้ำที่ใบหน้า
“ใครต่อยพ่อคะ” มือบางยกขึ้นลูบใบหน้าของบิดาด้วยความเป็นห่วง
ยอดชายคว้ามือนุ่มของลูกสาวมากุมเอาไว้ ก่อนจะก้มลงจูบหน้าผากของยาหยีด้วยความรักใคร่สุดหัวใจ
“พ่อไม่เป็นไรหรอกลูก พ่อสมควรจะโดนแล้ว แต่ลูกล่ะลูกหยี นายน้อยทำอะไรลูกหรือเปล่า เขาทำร้ายลูกของพ่อไหม?”
คำคาดคั้นของบิดามีผลต่อสีของใบหน้าของยาหยียิ่งนัก แก้มนวลแดงระเรื่อขึ้นมาในพริบตาเมื่อนึกถึงสิ่งที่คอร์เนลทำกับตัวเอง แต่หล่อนจะบอกบิดาได้ยังไงกันว่าถูกคอร์เนลปรนเปรอด้วยบทรักเร่าร้อนทุกคืน มันน่าอาย น่าอดสู และหล่อนก็ไม่ต้องการให้ท่านรู้ด้วย
“ไม่ค่ะ เขาไม่ได้ทำอะไรลูกหยี” ตอบเสียงแผ่วเบา พร้อมๆ กับก้มหน้าหลบตาผู้บังเกิดเกล้า
“แล้วทำไมต้องหลบตาพ่อด้วยล่ะลูกหยี ลูกทำเหมือนกำลังปิดบังอะไรพ่ออยู่” ยอดชายคาดคั้นเพราะเขาเชื่อไม่ลงเลยจริงๆ ว่าคอร์เนลจะใจดีไม่ทำอะไรยาหยีลูกสาวของเขา
“ไม่ค่ะ ลูกหยีไม่ได้โกหกพ่อนะคะ”
“ไม่ได้โกหกแล้วลูกหยีเข้ามาหาพ่อที่นี่ได้ยังไง แถมยังมีเซอร์เกพามาด้วย”
หญิงสาวรู้ว่าความสงสัยของบิดากำลังพอกพูนขึ้นทุกขณะ แต่หล่อนจะไม่มีทางบอกความอัปยศทั้งหลายเหล่านั้นให้ท่านรู้เด็ดขาด ต่อให้ต้องผิดศีลข้อสามก็ตาม
“เซอร์เก...เขาต้องการจะช่วยเราค่ะพ่อ เขาบอกว่าจะปล่อยพ่อในเร็วๆ นี้ และก็ให้หนูพาพ่อหนีไปไกลๆ ส่วนเขาจะรับหน้าคอร์เนลเอง”
แม้จะยังเคลือบแคลงแต่ยอดชายก็จำต้องเก็บเงียบเอาไว้ก่อน เพราะสิ่งที่บุตรสาวพูดมันมีความสำคัญมากกว่า การหลบหนีจากที่คุมขัง...อิสรภาพที่เขากำลังแสวงหา
“เซอร์เกบอกพ่อแล้วล่ะ เราจะหนีไปด้วยกันในเร็วๆ นี้” ยอดชายประคองร่างของบุตรสาวให้ไปทรุดนั่งด้วยกันบนขอบเตียง
“แล้วเพชรสีทองที่พ่อขโมยมาจากคอร์เนลล่ะคะ มันอยู่ที่ไหน พ่อบอกลูกหยีได้ไหมคะ”
“พ่อ...พ่อ...”
ยาหยีจ้องหน้าบิดาที่เอาแต่อ้ำๆ อึ้งๆ อย่างคาดคั้น
“พ่อคะ คืนเขาไปเถอะค่ะ มันไม่ใช่ของของเรา แค่พ่อขโมยมันมาจากเขาแค่นี้ก็ผิดมหันต์แล้ว เขาไม่ฆ่าเราก็ถือว่าเมตตาเรามากแล้วนะคะ”
ผู้เป็นบิดาก้มหน้าหลบตาลูกสาว ถอนใจออกมาครั้งแล้วครั้งเล่า กว่าจะสามารถกลั่นกรองคำพูดออกมาได้
“มันไม่ได้อยู่กับพ่อแล้วล่ะลูกหยี”
“แล้วมันอยู่ที่ไหนคะพ่อ พ่อบอกลูกหยีนะคะ ลูกหยีอยากให้คอร์เนลได้เพชรของเขาคืน ความรู้สึกผิดในใจของเราจะได้หมดไปสักที”
“ลูกหยีไม่ต้องรู้สึกผิดแทนพ่อหรอก ลูกหยีไม่ได้เป็นคนทำ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เมียเก็บมาเฟีย ชุด เทพบุตรมาเฟีย