เมียขัดดอก นิยาย บท 29

"ลูกชายของท่านนายพล เป็นพวกเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งคือไม่มีอารมณ์กับผู้หญิง ไม่แน่ว่าลูกชายของท่าน อาจจะเป็นประเภทรักร่วมเพศก็ได้" ตอนที่รุ่งฤดีรู้เรื่องนี้ก็ช็อคไปเหมือนกัน จนต้องได้ถามตัวเองว่าถ้าร่วมหอลงโลงกับผู้ชายคนนี้จะรับได้ไหม คำตอบที่ได้ก็คือรับได้อยู่แล้ว เพราะฐานะทางบ้านของเขานอกจากจะมั่งมีแล้วยังมีอำนาจ

แต่ความเป็นจริงแล้วมันไม่ได้ง่ายแบบนั้น ในเมื่อเธอไม่ได้คนอื่นก็ต้องไม่ได้

เซอร์เวย์ไม่ได้สนใจคนที่พูดเลย เขาหันมองไปดูหน้าเธอ ที่นั่งอยู่อีกฝั่งหนึ่ง เพราะหลายครั้งต่อหลายครั้งที่เขาปฏิเสธเรื่องร่วมเพศ

"คุณไปเอาที่ไหนมาพูดคะ" จากที่ทุกคนกำลังตกใจและให้ความสนใจกับรุ่งฤดีอยู่นั้น พอได้ยินไอยวริญพูดขึ้นทุกคนที่อยู่ในห้องต่างก็หันมองมาที่เธอ "สามีฉันจะเป็นพวกเสื่อมสมรรถภาพทางเพศได้ยังไง ก็ในเมื่อฉันแทบไม่ได้นอนทั้งคืน" ถ้าอยู่ในสถานะการณ์อื่นเธออาจจะไม่กล้าพูด แต่นี่มันคือการยืนยันว่านายแพทย์เซอร์เวย์หรือผู้เป็นสามีของเธอ ไม่ได้เป็นอย่างที่ผู้หญิงอีกคนว่ามาเลย

"แกจะไม่พูดอะไรเลยเหรอ" พลตรีนายแพทย์วันเวย์หันไปถามลูกชาย เพราะเรื่องนี้มันน่าตกใจอยู่มาก ถ้าไม่มีมูลรุ่งฤดีจะเอาที่ไหนมาพูด

"ผมไม่อยากจะพูดกลัวเมียผมเสียหาย แต่ทุกคนก็ได้ยินจากปากของภรรยาผมแล้วนี่"

"ฉันไม่เชื่อ พวกคุณต้องร่วมมือกันโกหกแน่"

"คุณหมอจะตรวจภายในฉันไหมล่ะคะ"

แพทย์หญิงอมรรัตน์ถึงกับหันมามองหน้าลูกสะใภ้ เพราะเธอยืนยันหนักแน่นขนาดนี้

"แต่ถ้าสามีฉันไม่ได้เป็นแบบที่คุณหมอพูด ฉันขอฟ้องคุณหมอกลับนะคะ" ถึงแม้จะตรวจภายในเธอก็ชนะเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์อยู่แล้ว

"เธอจะมาฟ้องฉันทำไม"

"ก็คุณหมอเอาเรื่องที่เป็นเท็จมาพูดในที่สาธารณะแบบนี้ ทำให้ฉันกับสามีเสียหาย"

"ฉันไม่พูดกับพวกแกแล้ว เรื่องทุกอย่างถือว่าจบกัน และท่าน ห้ามติดต่อฉันไปอีก ถ้าท่านเล่นงานครอบครัวฉันแม้แต่น้อย ฉันจะเอาเรื่องทั้งหมดไปพูด..คอยดูสิ!" พอขู่เสร็จรุ่งฤดีก็รีบเดินออกจากห้องนั้นไป เพราะคงอยู่ต่อไม่ได้แล้ว

"หนูจะไปไหน" พอรุ่งฤดีออกไป..ไอยวริญก็กำลังจะตามออกไปเช่นกัน

"หมดหน้าที่ของอายแล้วนี่คะ" มันแน่นอนอยู่แล้วว่าเธอต้องคิด เพราะกี่ครั้งต่อกี่ครั้งที่เขาหยุดอารมณ์ไว้ และเธอก็เคยประจันหน้ากับแพทย์หญิงสุพัตรา คำพูดของสุพัตราเคยสะกิดใจเธออยู่บ้าง แต่ไม่คิดว่ามันจะเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะสุพัตราเคยถามว่าตอนอยู่ด้วยกันเขาทำอะไรกับเธอบ้าง นั่นมันคงเป็นการรักษาแบบหนึ่งที่พวกคุณหมอใช้กัน แสดงว่าคำพูดของรุ่งฤดีก็มีส่วนเรื่องที่ว่าเขาใช้เธอเป็นหนูทดลองยา

"เรย์หยุดก่อน" ขณะที่ลูกชายกำลังจะเดินตามภรรยาออกไป ผู้เป็นพ่อได้เรียกไว้ก่อน เพราะอยากรู้ความจริงทั้งหมดว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ท่านจะได้หาทางรับมือได้ถูก

เป็นห่วงเธอก็เป็นห่วง แต่เขาต้องได้เล่าให้พ่อกับแม่ฟังด้วย ชายหนุ่มก็เลยนั่งลงที่เดิม แล้วเริ่มเล่าทุกอย่างให้พวกท่านได้รับรู้

"หึ! เป็นไงล่ะคะ เพราะความดื้อรั้นของคุณพี่"

พอเซอร์เวย์เล่าทุกอย่างออกไปจนหมดเขาก็รีบตามเธอไปที่บ้านเช่า เพราะกลัวว่าเธอจะเตลิดไปที่อื่น ส่วนในห้องเวลานี้ก็เหลือแค่พ่อกับแม่ที่กำลังอึ้งทึ่ง เมื่อได้ยินเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับลูกชายซึ่งพวกท่านไม่เคยรับรู้เรื่องนี้มาก่อนเลย

"ดีเท่าไรแล้วที่มีหนูอายเข้ามา คุณพี่เกือบทำทุกอย่างพังรู้บ้างไหมคะ" เพราะถ้าไม่ใช่ไอยวริญไม่รู้ว่าลูกชายจะกลับมาเป็นปกติไหม

"ก็มันไม่เคยเล่าอะไรให้ฟังเลย"

"คุณพี่เป็นแบบนี้แล้วลูกจะอยากพูดอะไรให้ฟังล่ะ เอาแต่ใจตัวเอง เผด็จการ"

"แต่มันเป็นลูก"

"เป็นลูกแล้วยังไงคะ ลูกแล้วต้องยกชีวิตทั้งหมดให้กับพ่อแม่หรือไง นั่นมันชีวิตของเขาให้เขาได้เป็นฝ่ายเลือกเองสิ" สิ่งที่อัดแน่นอยู่ในอกก็ได้ระเบิดออกมา เพราะนางอยากให้สามีสำนึกได้บ้าง ว่าไม่ควรไปยุ่งกับชีวิตของลูกๆ มากเกินไป

คำพูดของภรรยาไม่ได้กระทบความรู้สึกเลย เพราะท่านยังไม่หายกลุ้มใจกับเรื่องทั้งหมดที่เพิ่งได้รับรู้มา

"แล้วนั้นคุณจะไปไหน" เห็นว่าภรรยากำลังจะออกจากห้อง

"กลับไปที่ที่ฉันมาค่ะ"

"กลับเข้าบ้านได้แล้ว"

"ไม่ค่ะ จนกว่าคุณพี่จะคิดได้" นางก็คิดว่าจะรีบไปดูลูกสะใภ้เหมือนกัน กลัวว่าจะคิดมากเรื่องที่ดึงตัวเธอเข้ามาเพื่อรักษาอาการป่วยทางจิตของลูกชาย

พอภรรยาออกไปแล้วผู้เป็นสามีก็รีบเดินตาม อยากจะรู้ว่าตอนนี้ทุกคนย้ายไปอยู่ที่ไหน

"ขับรถตามไป" พลตรีนายแพทย์วันเวย์สั่งคนขับรถ ให้ตามรถของภรรยาไปแบบห่างๆ

รถของแพทย์หญิงอมรรัตน์ได้วิ่งเข้ามาในหมู่บ้านจัดสรร ที่อยู่ไม่ไกลจากโรงพยาบาล แล้วเข้าไปจอดในบ้านหลังหนึ่ง

"มาอยู่ที่นี่กันเองเหรอ" เห็นรถลูกชายที่จอดก่อนและรถภรรยาที่วิ่งเข้าไปจอดก็รู้แล้ว

ขณะที่แพทย์หญิงกำลังจะเดินเข้าบ้าน สามีก็ลงจากรถแล้วเดินตามไป

"คุณพี่ตามมาทำไมคะ"

"ลูกกับเมียมาอยู่ที่นี่ ทำไมจะมาไม่ได้"

"ฉันก็บอกคุณพี่แล้วไง ถ้าคิดยังไม่ได้ก็ไม่ต้องตามมา"

"คุณก็จะซ้ำเติมอะไรผมนักหนา"

แกร็ก.. จากที่เซอร์เวย์ยืนรออยู่หน้าห้องตั้งแต่มาถึง เพราะคนในห้องไม่ยอมเปิดประตูให้ แต่พอได้ยินเสียงพ่อกับแม่ของเขาด้านนอก เธอก็เลยรีบเปิดประตู กลัวพวกท่านจะมองเธอไม่ดี

"เราต้องคุยกัน" เข้ามาถึงเขาก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรก่อน ก็เลยชวนคุยนี่แหละสิ่งที่จะประสานกันได้

"ก็พูดมาสิคะ"

"มันอาจจะมีส่วนใช่อยู่บ้าง แต่มันไม่ได้เป็นทั้งหมดนะ"

"ยังไงคะ"

"คุณก็รู้..เคยเจอจนเลือดสาดมาแล้วไม่ใช่เหรอ"

"มันใช่เวลาพูดเรื่องนี้ไหมคะคุณหมอ"

"เลือดสาดเลยเหรอ?"

"จุ๊จุ๊" คนที่เอาหูแนบฟังอยู่ว่าลูกชายจะทะเลาะกับภรรยาไหม รีบส่งสัญญาณให้อีกฝ่ายไม่ต้องพูด

"แล้วคุณโกรธผมเรื่องอะไรล่ะ"

"แล้วทำไมคุณหมอถึงไม่บอกฉันดีๆ"

"บอกว่า?" เพราะมันหลายเรื่องมากเขาไม่รู้ว่าเธอหมายถึงเรื่องอะไร

"ก็เรื่องรักษา"

"บอกแล้วคุณจะช่วยเหรอ"

"ทำไมจะไม่ช่วยล่ะคะ ขนาดคุณหมอยังช่วยผ่าตัดแม่ฉันเลย"

"อะไรนะ?" ใบหน้าที่เป็นกังวลเริ่มผ่อนคลายขึ้นมาก..แถมยังมีรอยยิ้มออกมาให้เห็น

ด้านนอกในเวลาเดียวกันนั้น..

"โอ๊ย.. คุณดึงหูผมทำไม"

"แล้วคุณพี่จะไปแอบฟังลูกทำไมล่ะคะ"

"ขอฟังหน่อยไม่ได้หรือไง เขากำลังจะรักษากัน"

"มันใช่เรื่องไหมคะ ตามฉันมานี่เลย"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เมียขัดดอก