เมียขัดดอก นิยาย บท 26

"จะไปไหน" มือหนาคว้าหญิงสาวที่ลุกจากที่นั่งให้เธอหยุดก่อน

"จะกลับเข้าห้องค่ะ" ทำไมเขาต้องคิดนานขนาดนั้นด้วยล่ะ เป็นใครก็น้อยใจนะ

ชายหนุ่มปล่อยมือเธอแล้วก็นั่งลงพร้อมกับจับปากกาขึ้นมา

ไอยวริญหัวใจเต้นแรงเมื่อเห็นเขากำลังวางปลายปากกาลงไป

"การจดทะเบียนสมรส ฝ่ายหญิงจะใช้นามสกุลกับฝ่ายชายก็ได้หรือไม่ใช้ก็ได้ ถ้าคุณพร้อมที่จะใช้นามสกุลกับสามีก็เซ็นต์ลงตรงนี้เลยครับ" สมัยนี้เสมอภาคกันแล้ว ไม่ใช่ว่าผู้หญิงจะเลือกได้แค่การใช้นามสกุล ถ้าเธอคนนั้นยังอยากจะใช้นางสาวอยู่ก็ยังคงใช้ได้

แต่เธอพร้อมที่จะใช้นามสกุลเขาอย่างเต็มใจไอยวริญก็เลยไม่รอช้าที่จะเซ็นต์ชื่อตัวเองตามลงไป

แพทย์หญิงอมรรัตน์เซ็นต์เป็นพยานให้ พร้อมกับเจ้าหน้าที่..ทะเบียนสมรสนี้ก็ถือว่าเสร็จสมบูรณ์ถูกต้องตามกฎมาย

"ลูกจะกลับโรงพยาบาลเลยเหรอ"

"ผมติดคนไข้อยู่ครับ" ขณะที่ตอบแม่..สายตาของเขาก็มองไปที่เธอ อยากจะพูดอยากจะคุยด้วยแต่งานก็สำคัญไม่ต่างกันเพราะนั่นก็คือชีวิตของคน

หญิงสาวรีบเดินตามหลังออกไป เธอไม่ใช่คนคิดเล็กคิดน้อย และเข้าใจงานที่เขาทำ

"อุ้ยคุณหมอ" ไอยวริญหันมองไปด้านหลัง เพราะเพิ่งจะเดินพ้นประตูออกมาเอง เขาก็หอมแก้มเธอแล้ว

"ตอนเย็นผมอาจจะกลับค่ำหน่อยนะ"

"คุณหมอมีงานต่อเหรอคะ..ก็ได้ค่ะ" เพิ่งคิดได้ว่าเธอไม่น่าจะไปก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของเขาเลย ดีเท่าไรแล้วที่เขาบอกไว้ก่อน

หญิงสาวยืนมองตามท้ายรถที่เขาขับออกไป แต่ก่อนเธอทำได้แค่เฝ้ารอเขาอยู่ในห้อง ถึงแม้เขาจะทำงานอยู่ที่ตึกเดียวกัน แต่การเฝ้ารอนั้นมันทรมานมาก แต่ต่อจากนี้ไป ค่าในตัวเธอคงจะเพิ่มขึ้น เพราะเธอเป็นคนที่ถือครองทะเบียนสมรสคู่กันกับเขา

โรงพยาบาล..ในเย็นวันเดียวกันนั้น

"เราจะออกไปพร้อมกันเลยไหมคะ"

ชายหนุ่มที่กำลังเช็คเอกสารคนไข้สำหรับวันนี้ ได้เงยหน้าขึ้นมอง

"คุณหมอก็ขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้าชั้นบนไงคะ ของฤดีก็อยู่ชั้นบนนี่เองค่ะ จะได้ไม่เสียเวลามาก"

"ผมว่าคุณคงเกินเยียวยาแล้วล่ะ" ว่าจะไม่พูดด้วยแล้ว แต่กลัวเธอไม่รู้ตัว

"อีกหน่อยเราก็เป็นสามีภรรยากันแล้ว"

เซอร์เวย์อยากจะขำ ประโยคแบบนี้ผู้ชายต้องพูดมากกว่าไหม แม่เขามองทะลุปรุโปร่งมาก ท่านคงคิดไว้แล้วว่าถ้าเขามีทะเบียนสมรสผู้หญิงคนนี้กับพ่อคงจะทำอะไรไม่ได้อีก สมแล้วที่เป็นแม่ของเขา

"งานไม่เห็นมีอะไรสำคัญเลย"

"ชีวิตคนจะไม่สำคัญได้ยังไง"

"ฤดีขอโทษค่ะ ถ้างั้นฤดีจะนั่งรอคุณหมอตรงนี้แล้วกันนะคะ"

"ไม่ต้องรอหรอก..เพราะผมไม่ไป"

"นี่! คุณหมอคิดดีแล้วเหรอคะถึงได้พูดออกมา"

"หน้าผมเหมือนคนพูดไม่คิดเหรอครับ"

"คุณหมออย่าคิดนะคะว่าฤดีจะไม่กล้าทำ"

เซอร์เวย์ไม่ได้พูดต่อและเขาไม่อยากจะเสียเวลาคุยกับผู้หญิงป่วยทางความคิดแบบนี้ พอเช็คงานเสร็จเขาก็เปลี่ยนชุดกลับคืนเป็นชุดสูทเหมือนเดิม

"เราจะไปกันแล้วใช่ไหมคะคุณหมอ"

เซอร์เวย์ไม่ได้ตอบอีกนั่นแหละ ชายหนุ่มถือเอากุญแจรถและโทรศัพท์ แล้วเดินออกมาแบบไม่สนใจ

"คุณพ่อ?" แต่พอออกมาก็เห็นผู้เป็นพ่อกำลังเดินมา

"คุณพ่อไม่น่าต้องลำบากมาเองเลยค่ะ เรากำลังจะออกไปดินเนอร์กัน..ใช่ไหมคะคุณหมอ" รุ่งฤดีพูดพร้อมกับโอบแขนของเซอร์เวย์ไว้ แต่จังหวะนั้นเขาก็ได้ชักมือออก

"มาก็ดีแล้วครับ พ่อจะได้ไปดินเนอร์กับเธอสองคน"

"แกเอาอะไรมาพูด พ่อได้ฤกษ์แต่งงานให้แล้วก็เลยเข้ามาหาแกที่โรงพยาบาล"

เซอร์เวย์ไม่ได้พูดอะไรเพราะเขาคิดว่าแม่คงจะจัดการเอง

"เราไปทานข้าวเย็นด้วยกันแล้วก็พูดเรื่องจัดงานดีกว่า"

[บ้านจัดสรร]

"เราได้โทรไปหาน้องๆ บ้างไหม"

"โทรไปครับ ทีแรกน้องก็เป็นห่วงแม่ แต่ผมบอกไม่ต้องห่วง"

"พ่อเราเมื่อไรจะคิดได้ก็ไม่รู้"

ไอยวริญนั่งฟังแม่กับลูกคุยกันแบบเงียบๆ

"ต้องขอบใจหนูอายมาก"

"คะ" พอถูกเอ่ยชื่อขึ้นมา หญิงสาวถึงได้เงยหน้าขึ้นมองท่าน

"ลำบากหนูแล้วนะ เพราะพ่อของตาเรย์คงไม่หยุดอยู่แค่นี้"

"อายไม่กลัวค่ะ ขอแค่คุณหมอยอมให้อายอยู่เคียงข้าง" จริงๆ มันก็เป็นความผิดของเธออยู่ส่วนหนึ่ง ถ้าเขาไม่ถูกขู่เรื่องที่ผ่าตัดแบบผิดกฎหมาย เขาคงทำอะไรได้มากกว่านี้

ดึกๆ ของคืนเดียวกัน..

"เป็นอะไรนอนไม่สบายตัวเหรอ" เซอร์เวย์เห็นว่าคนที่นอนอยู่ข้างๆ ขยับตัวบ่อยครั้ง

"เปล่าสักหน่อย"

"หรือว่าคุณงอนผม"

"ฉันจะงอนคุณทำไม"

ตอนที่อยู่กับแม่เธอก็ยังคงพูดดีๆ อยู่เลย แต่ตอนนี้ทำไมเหมือนใส่อารมณ์

"งั้นก็นอนนะ" ชายหนุ่มขยับผ้าห่มขึ้นมาให้

แต่ขณะที่เขากำลังจะนอนหันหลัง ก็ได้ยินเสียงหายใจดังออกมาจากคนข้างๆ แบบขัดใจอะไรสักอย่าง

"เป็นอะไรก็พูดมาสิ" มันดูไม่ปกติแล้ว มือหนาก็เลยเอื้อมไปขยับตัวเธอเข้ามาใกล้ "หือ? ไม่ได้ใส่แล้วเหรอ" เขาแค่แตะเล็กน้อย แต่พอเห็นว่ามันโล่งมือหนาก็เลยลูบคลำเพื่อเช็คดูใหม่อีกรอบ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เมียขัดดอก