เมียนักเลง นิยาย บท 15

@หลายชั่วโมงต่อมา

"หะ..เหมหนูไม่ไหวแล้ว..อ๊า..นะ..หนูอยากกลับบ้าน~" นาร์เนียอ้อนวอนเสียงกระท่อนกระแท่น ขณะที่ร่างกายโยกคลอนไปมาตามจังหวะการเคลื่อนไหวร่างกายที่หนักหน่วงของชายหนุ่ม เธอหอบหายใจหนักๆสลับกับเปล่งเสียงครางเมื่อคนข้างบนอัดกระแทกกระทั้นความใหญ่โตเข้าออกถี่ๆ ก่อนที่สายธารน้ำรักของเขาจะปลดปล่อยเข้ามาในกายเธออีกครั้ง

"อ๊าสสสสสสส!" เหมราชเปล่งเสียงคำรามลั่นด้วยความพึงพอใจ ร่างกายของเขาสั่นเกร็งเล็กน้อย กรอบหน้าคมคายชุ่มไปด้วยหยาดเหงื่อ

"หะ..เหมปล่อยในอีกแล้วเหรอ~" เธอผงกศีรษะมองใจกลางความเป็นสาวที่เปรอะเปื้อนไปด้วยน้ำคาวของเหมราชและเลือดพรหมจรรย์ของตัวเอง ยอดเกสรที่เคยมีสีชมพูระเรื่อในตอนนี้แดงก่ำและบวมเป่งจนทำให้กลีบกุหลาบสีเดียวกันไม่สามารถปิดสนิทได้เหมือนเดิม

"ดึงออกไม่ทัน"

"หนูยังไม่เห็นเหมดึงมันออกมาเลย มันคาอยู่ในตัวหนูสองชั่วโมงแล้ว" เหมราชแสยะยิ้มให้คำพูดไร้เดียงสาของเด็กสาว ก่อนจะค่อยๆดึงแก่นกายออกจากช่องทางรัก เปิดทางให้น้ำรักที่เพิ่งถูกปลดปล่อยเข้าไปไหลย้อนออกมา

"ฉันไม่ปล่อยใส่ปากเธอก็บุญเท่าไรแล้ว"

"เหมใจร้าย เหมทำหนูเจ็บ"

"จำไม่ได้ว่าฉันเคยใจดีกับเธอด้วยเหรอ"

"หนูจะไม่เลี้ยงติมเหมแล้ว คอยดูนะ"

"ของปัญญาอ่อนแบบนั้นเก็บไว้กินคนเดียวเถอะ"

"ถ้าไอติมของหนูปัญญาอ่อน งั้นไอติมของเหมก็ต้องปัญญาอ่อนเหมือนกันสิ" นาร์เนียเถียงกลับ

"เลิกเถียงฉันแล้วไปอาบน้ำแต่งตัวได้แล้ว ก่อนที่ฉันจะเอาไอติมของฉันยัดปากเธออีกรอบ" เด็กสาวทำหน้าเง้างอด แสร้งเสมองไปทางอื่นเพื่อให้เหมราชง้องอน แต่เขากลับผละตัวออกห่าง แล้วหยิบชุดนักเรียนของเธอขึ้นมาโยนใส่หน้า

"เหม!" เธอปัดชุดนักเรียนของตัวเองออกจากใบหน้า มองเจ้าของการกระทำตาขวาง

"ได้กันยังไม่ทันข้ามคืนกล้าขึ้นเสียงใส่ฉันแล้ว?"

"เหมต้องหอมแก้มหนูสิ เหมต้องง้อหนู เพราะหนูงอนเหมอยู่ ไม่ใช่มาโยนของใส่หนูแบบนี้"

"จะมางอนฉันเรื่องอะไรวะ"

"ไม่รู้ หนูยังไม่ได้หาเหตุผล รู้แต่ว่ากำลังงอนเหม" เหมราชมองเด็กสาวหน้ายุ่งเมื่อเธอค่อยๆพยุงตัวลุกขึ้นมานั่งตรงหน้า

"หอมแก้มหนูสิ หนูจะหายงอนเลย" เธอเอียงแก้มให้พลางทำแก้มป่อง

"เลิกกวนตีนฉันสักนาทีเธอจะตายรึไงวะ"

"ไม่หอมเหรอ ไม่เป็นไร" ว่าจบก็เลื่อนพวงแก้มเข้าไปแนบริมฝีปากหยักได้รูป ทำให้ภาพที่ออกมาเหมือนว่าเขากำลังหอมแก้มเธอ

"หนูหายงอนแล้ว"

"นี่เธอเป็นคนยังไงกันแน่วะ"

"อุ้มหน่อย~ ไม่มีแรงเดินแล้ว" เจ้าของสีหน้ายุ่งเหยิงถอนหายพรืด ถึงอย่างนั้นก็ยอมอุ้มเธอไปอาบน้ำพร้อมกัน

"ทำไมบ้านมืด แม่ยังไม่กลับบ้านเหรอ" เหมราชทอดสายตามองเข้าไปในรั้วบ้านของนาร์เนียที่ยังคงมืดสนิทราวกับไม่มีใครอยู่ในบ้านเลย

"คุณแม่คงกำลังกลับมามั้งคะ" เด็กสาวตอบ พร้อมกับปีนลงจากรถ

"พรุ่งนี้เราไปกินติมกันไหม หนูอยากไปกินติมในห้างกับเหม" ท่อนแขนเรียวเล็กกอดรัดรอบลำตัวกำยำของชายหนุ่มไว้หลวมๆ ทำให้เหมราชต้องถอดหมวกกันน็อกออกก่อน

"ฉันบอกกี่ครั้งแล้วว่าฉันไม่ชอบของปัญญาอ่อนแบบนั้น"

"ก็หนูอยากเจอเหม กินติมคือข้ออ้าง"

"อยากเจอก็มาหา จะหาข้ออ้างทำไมวะ"

"แต่หนูไม่อยากกินติมของเหมแล้ว มันไม่อร่อย หนูเคยเรียนเพศศึกษามา เขาบอกว่ามันเอาไว้สืบพันธุ์ ไม่ได้เอาไว้อมเล่นนะ" เหมราชกลอกตาไปมากับความไร้เดียงของนาร์เนีย พร้อมกับเสยผมลวกๆ

"เหม~"

"อะไร"

"ตอนนี้หนูเป็นเด็กของเหมแล้วใช่ไหม เหมต้องปกป้องหนูใช่รึเปล่า"

"เออ ทำไม"

"ถ้ามีคนแกล้งหนู หนูฟ้องเหมได้ไหม" เธอมองเขาตาแป๋ว แล้วเกยคางไว้บนท่อนแขนแกร่ง

"เธอจะให้ฉันไปตบกับผู้หญิงรึไงวะ"

"หนูแค่อยากมีคนคอยปกป้อง ถ้ามีแฟนแล้วแฟนไม่ปกป้องเราก็จะรู้จะมีไปทำไม"

"เรื่องมาก" ท่อนแขนแกร่งรั้งตัวเด็กสาวเข้ามาแนบแผงอก ก่อนจะหยิบโทรศัพท์มือถือของเธอออกมาจากกระโปรงนักเรียนอย่างถือวิสาสะ

"มีอะไรก็โทรมา" เขาคืนโทรศัพท์มือถือให้หลังจากบันทึกเบอร์โทรของตัวเองลงไปเรียบร้อยแล้ว นาร์เนียที่เห็นอย่างนั้นยิ้มแป้นอย่างดีใจ

"ฮีโร่ของหนูน่ารักจังเลย"

"รีบเข้าบ้านไปได้แล้ว"

"เหมไม่หอมแก้มหนูเหรอ หนูรอให้เหมหอมแก้มก่อน" ว่าจบก็เอียงแก้มให้

"ฉันไม่ชอบทำอะไรแบบนี้"

"แต่เหมชอบขโมยจูบหนู"

"จูบกับหอมแก้มมันไม่เหมือนกัน" เหมราชดันตัวเด็กสาวออกห่างเล็กน้อย ก่อนจะรั้งใบหน้าของเธอเข้ามากดจูบหนักๆบนริมฝีปากอวบอิ่ม

ทั้งที่ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่โดนเขาขโมยจูบ แต่หัวใจดวงน้อยมันก็ยังเต้นแรงกับการกระทำของเขา นาร์เนียหลับตาพริ้ม จูบตอบเหมราชอย่างเงอะงะ พร้อมกับสวมกอดเขาอีกครั้ง

"ปล่อย ฉันจะกลับบ้านแล้ว" เขาค่อยๆถอนจูบออกในนาทีต่อมา ซึ่งเธอก็ยอมคลายอ้อมกอดออกอย่างว่าง่าย

"เหมขับรถดีๆนะ" นาร์เนียโบกมือลาด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม จากนั้นจึงเดินเข้าบ้านไป

เหมราชมองตามไปจนลับสายตา เมื่อเห็นว่านาร์เนียปิดล็อกประตูบ้านเรียบร้อยแล้วจึงขับรถออกมา

@วันต่อมา

"จะไปโรงเรียนแล้วเหรอเนีย" เสียงทักทายของผู้เป็นแม่ดังขึ้นเมื่อนาร์เนียเดินลงมาถึงบันไดขั้นสุดท้าย เธอส่งหวานให้ นภา ซึ่งเป็นแม่ของตน แล้วเดินตรงไปหาท่าน

"ใช่ค่ะ คุณแม่ทำอะไรอยู่เหรอคะ"

"กำลังคิดเมนูใหม่ของร้านเราอยู่จ้ะ"

"ว้าว หนูอยากชิมคนแรกเลยค่ะ"

"เทพีแห่งขนมหวานของแม่จะต้องได้ชิมคนแรกแน่นอนจ้ะ" หญิงสาววัยกลางคนที่ยังคงความสะสวยเย้าหยอกลูกสาว

"รอแม่แป๊บนึงนะ แม่ขึ้นไปเอากุญแจรถก่อน เดี๋ยวแม่ไปส่ง"

"ไม่เป็นไรหรอกค่ะ หนูนั่งรถแท็กซี่ไปเองได้ คุณแม่พักผ่อนเถอะค่ะ แค่ทำงานหาเลี้ยงหนูอย่างเดียวก็เหนื่อยมากแล้ว" นาร์เนียแย้งในตอนที่ผู้เป็นแม่กำลังจะหยัดกายลุกขึ้น

"แม่ขอโทษนะที่ไม่ค่อยมีเวลาให้ลูกเลย"

"หนูเข้าใจคุณพ่อกับคุณแม่ค่ะ"

"งั้นคืนนี้แม่จะรีบกลับมาทำของอร่อยให้กินนะ"

"ฝีมือของคุณแม่อร่อยทุกอย่างอยู่แล้วค่ะ" เด็กสาวประจบประแจงเสียงหวาน เรียกรอยยิ้มเอ็นดูจากผู้เป็นแม่

"หนูไปเรียนก่อนนะคะ รักแม่ค่ะ" ว่าจบก็เดินเข้าไปหอมแก้มแม่ฟอดใหญ่ จากนั้นจึงเดินสะพายกระเป๋านักเรียนออกมา

บรึ๊นนนนนนน!!

"กรี้ดดดดดดดดดด!!!" นาร์เนียกรีดร้องเสียงหลงด้วยความตกใจเมื่อเดินออกมาถึงหน้าปากซอยใกล้ๆบ้านแล้วมีรถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบก์คันหนึ่งขับตามหลังมาจอดเทียบข้างๆ

"ขึ้นรถ"

"หะ..เหม" เธอมองคนตรงหน้าด้วยความตกใจเมื่อเขาเปิดหน้ากากบังลมขึ้น ทำให้เธอเห็นใบหน้าของเขาได้ชัดเจน เหมราชไม่ได้สวมใส่ชุดนักศึกษา ทำให้ในตอนแรกเธอไม่แน่ใจว่าใช่เขารึเปล่า

"เหมมาทำอะไรที่นี่เหรอ"

"มาหาไอติมแดกมั้ง" เขาตอบหน้ายุ่ง ก่อนจะอุ้มเธอขึ้นมาวางบนถังน้ำมันด้วยท่อนแขนแกร่งเพียงข้างเดียว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เมียนักเลง