เพลิงแค้นเทพสงคราม นิยาย บท 13

ตอนที่ 13 เงินคือปัญหาหลัก

ทุกคนในครอบครัวโลเปซอยู่ในอาการงุนงง โซอี้คงจะเห็นด้วย แต่เมื่อลีวายอยู่ใกล้เธอ พวกเขาจึงไม่ค่อยแน่ใจในเรื่องนี้นัก “ตอนนี้เราจะทำไงกันดีล่ะ? ใครจะไปรู้ว่าโซอี้จะหายตัวไปกับลีวายอีกหรือเปล่า ถ้าเราไม่พบพวกเขาในตอนบ่าย คุณเจนนิงส์จะถือว่าเราเต็มใจสละสิทธิ์โครงการ” ซามูเอลกล่าวอย่างกังวล “ฮึ่ม เธอขู่ฉัน! หรือแม้กระทั่งตั้งเงื่อนไขกับฉัน!” แฮร์รี่โต้กลับ แล้วจึงโทรไป “นี่มันหมายความว่ายังไง ลีวาย? แกไม่ต้องการโครงการนี้อีกต่อไปแล้วเรอะ?” “ถูกต้องแล้วครับ มันไม่เกี่ยวอะไรกับผมเลย! ก็พวกคุณไม่ใช่เหรอที่พยายามเลิกจ้างโซอี้ เราไม่เข้าไปยุ่งกับโครงการนี้ก็ได้” ลีวายตอบโต้ “ลีวาย ปู่ไม่ได้มีความหมายอื่น” แฮร์รี่ลดโทนเสียงลง “มาเซ็นสัญญาพร้อมกับโซอี้นะ ในอนาคตโซอี้จะรับผิดชอบโครงการพัฒนานี้ นั่นคือสิ่งที่คุณเจนนิงส์ต้องการเช่นกัน” “ไม่รู้สิ ผมเองก็ไม่ค่อยแน่ใจเรื่องนั้นเท่าไหร่ ผมเกรงว่าโซอี้จะถูกเลิกจ้างได้ทุกเมื่อ” “บอกเงื่อนไขของนายมาสิ ลีวาย ฉันจะทำให้โซอี้เซ็นสัญญาได้อย่างไร?” แฮร์รี่โกรธจัด แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้ "เงื่อนไขหรือครับ? ข้อที่หนึ่ง อิมพีเรียล เมโดว์ส จำกัด จะพัฒนาโครงการนี้อย่างเต็มตัว และไม่มีบริษัทอื่นๆ ของโลเปซกรุ๊ปเข้ามาเกี่ยวข้องโดยตรง ข้อที่สอง อิมพีเรียล เมโดว์ส จำกัด จะแยกออกจากโลเปซกรุ๊ปและกลายเป็นบริษัทอิสระ แต่โซอี้ตกลงที่จะมอบบางส่วนของโครงการพัฒนาให้คุณ ผมหมายถึง เราน่าจะทำเงินไปด้วยกัน ตราบใดที่คุณยอมรับเงื่อนไขที่ว่ามาผมจะพาโซอี้ไปเซ็นสัญญาทันที!” แฮร์รี่โกรธจัดหลังลีวายพูดจบลง ลีวายกำลังทำให้โซอี้ตัดสายสัมพันธ์ทั้งหมดกับครอบครัวโล เปซ กล่าวอีกนัยหนึ่ง ครอบครัวโลเปซจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงการนี้ และขึ้นอยู่กับโซอี้หากเราต้องการส่วนแบ่ง แต่ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อแบบนี้ เราควรเซ็นสัญญาก่อน ฉันต้องได้โครงการนี้ แฮร์รี่สูดหายใจเข้าลึกๆ “โอเค ฉันตกลง!” “สัญญาปากเปล่าไม่น่าจะพอ เราควรทำตามขั้นตอนต่างๆ โดยทันที” ลีวายกล่าว "แก ..." ฉันอยากจะถลกหนังมันทั้งเป็น! มันไม่ให้โอกาสฉันคิดเลย! "ได้ ฉันจะให้คนไปจัดการ!” ... ชั่วเวลาเพียงสามชั่วโมง แฮร์รี่ก็ทำตามขั้นตอนต่างๆ จนแล้วเสร็จ อิมพีเรียล เมโดว์ส จำกัด ถูกแยกออกจากโลเปซกรุ๊ป และกลายเป็นบริษัทของโซอี้ “โอเค เราจะไปเซ็นสัญญากันเดี๋ยวนี้!” ลีวายพาโซอี้ไปที่สถานที่ประมูลและเซ็นสัญญากับออร์ลันโดได้สำเร็จ ตอนนี้ฉันรับผิดชอบโครงการขนาดใหญ่หนึ่งพันล้านหรือ? จากการล้มละลายสู่การทำโครงการขนาดยักษ์... โซอี้ไม่กล้าที่จะคิดมากเกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อเซ็นสัญญาแล้ว แฮร์รี่และคนอื่นๆ ก็ท่วมท้นไปด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย “ลีวายโหดเกินไปไหม? เขากำลังทำลายโอกาสที่เราจะกลับไปเป็นเหมือนเดิมแล้ว” เฮนรี่กล่าว “บ้าจริง! โซอี้จะสามารถจัดการโครงการนี้คนเดียวได้เหรอ? เธอจะสามารถเซ็นสัญญานี้ได้เหรอถ้าไม่ใช่เพราะครอบครัวโลเปซ?” “ใช่ เธอกำลังผูกขาดทุกอย่าง ฉันไม่ยอมรับเรื่องนี้หรอก!” ฌอน เมลานี และคนอื่นๆ รู้สึกไม่พอใจ “อย่ากังวลไปเลย พวกนาย” เฟเบียนหัวเราะ “เรายังสามารถเอาโครงการนี้มาได้! แม้ว่า อิมพีเรียล เมโดว์ส จะเป็นอิสระ แต่คุณพ่อก็ยังถือหุ้นอยู่ 30% นอกจากนั้น การพัฒนาโครงการเป็นพันล้านไม่ใช่สิ่งที่ใครๆ ก็ทำได้ ทุกๆ เรื่องเกี่ยวกับทรัพยากรคนและเงินเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างที่สุด เป็นไปไม่ได้เลยที่บริษัทเล็กๆ อย่าง อิมพีเรียล เมโดว์ส จะจัดการเรื่องนี้ได้เพียงลำพัง” “ใช่แล้ว อิมพีเรียล เมโดว์ส จำกัด เกือบจะล้มละลายอยู่แล้วตอนนี้ และพวกนั้นยังคงติดหนี้คุณปู่อยู่” ฌอน กล่าว “พวกนั้นจะหาเงินทุนที่ไหนมาทำโครงการนี้?” “อืม ไม่จำเป็นต้องนึกถึงลีวาย มันก็แค่เศษสวะ และโซอี้ไม่มีเส้นสายใดๆ ในนอร์ธ แฮมป์ตัน พวกนั้นจะต้องมาอ้อนวอนให้เราลงทุนเมื่อถึงเวลา” “ฮะ ฮะ ฮะ...” เฮนรี่ยิ้มเย้ย “คุณพ่อครับ ผมคิดว่าเราน่ากดดันพวกนั้นสักหน่อย แล้วก็เอาเงินสองล้านแปดแสนคืนมาก่อน!” แฮร์รี่หัวเราะอย่างร่าเริง “แกมันแย่ที่สุด เฮนรี่ แต่นั่นก็น่าจะดี! ฌอน เดี๋ยวหลานไปหาพวกนั้นแล้วทวงเงินมันมาซะ!” แอรอนและเคทลินได้รับแจ้งข่าว พวกเขาตื่นเต้นมาก จนเตรียมอาหารไว้เป็นพิเศษสำหรับลีวายกับโซอี้ อย่างไรก็ตาม โซอี้ก็ยังดูหม่นหมองแม้ว่าจะเพิ่งเซ็นสัญญาฉบับใหญ่ก็ตาม “คุณแม่ คุณพ่อคะ ครั้งนี้เราทำให้คุณปู่ขุ่นเคืองมากที่สุดเลย! หนูพนันได้เลยว่าพวกเขาจะเกลียดเราไปตลอดชีวิต” “อย่าไปสนใจเลย! สถานะของเราต่ำที่สุดในครอบครัวมาโดยตลอด และคุณปู่ของหนูไม่เคยแม้แต่จะสนใจเราด้วยซ้ำ! คราวนี้เราต้องสร้างชื่อเสียงให้ตัวเองเพื่อพิสูจน์ให้คุณปู่เห็น!” แอรอนกล่าว “ใช่ค่ะ หนูต้องทำงานให้หนัก!” “ลีวาย” แอรอนพูด “แม้ว่านายจะไม่ได้มีส่วนสนับสนุนในเหตุการณ์นี้ แต่ดูเหมือนว่าครอบครัวของเราจะไปได้ดีหลังจากที่นายกลับมา มาดื่มกันเถอะ!” ขณะที่แอรอนหยิบไวน์ชั้นดีออกมา ฌอนก็มาถึงพอดี “คุณปู่ส่งผมมาที่นี่ ลุงแอรอน! นี่คือหลักฐานกู้ยืมเงิน กรุณาคืนเงินสองล้านแปดแสนที่ติดหนี้เราอยู่ด้วยครับ” คำพูดของฌอนราวกับสายฟ้าที่ฟาดใส่แอรอนและครอบครัว “คุณปู่บอกว่าท่านจะนัดกับผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศเพื่อขอคำแนะนำทางการแพทย์ แต่ตอนนี้ท่านไม่มีเงิน ดังนั้นท่านทำได้แค่ขอให้คุณลุงคุณป้าจ่ายเงินคืนให้ท่าน” ฌอนกล่าวเสริม “เรื่องนี้ค่อนข้างด่วนนิดหน่อย ดังนั้นคุณลุงคุณป้าต้องชำระหนี้ภายในสามวัน ไม่อย่างนั้นสุขภาพของคุณปู่มีแต่จะแย่ลงครับ!” ฌอนจากไปหลังจากแจ้งข่าวที่น่าวิตกกังวลแก่พวกเขา “เกิดอะไรขึ้น?” ลีวายถาม โซอี้กัดที่ด้านล่างของริมฝีปากแล้วพูดว่า “พวกเราแย่แล้ว เราไม่มีเงิน ไม่ว่าจะที่บริษัทหรือที่บ้าน! บริษัทเพิ่งจะเริ่มดำเนินการอีกครั้ง และเรามีเงินในบัญชีไม่ถึงครึ่งล้านด้วยซ้ำสำหรับครอบครัว เราแทบจะไม่สามารถจ่ายค่าเล่าเรียนให้น้องชายได้เลย” โซอี้มีน้องชายคนหนึ่งซึ่งกำลังศึกษาอยู่ที่ต่างประเทศและยังคงต้องพึ่งพาครอบครัวในเรื่องการเงิน “ฉันรู้” แอรอนถอนหายใจ “คุณพ่อคงไม่ปล่อยให้เราออกมาง่ายๆ อย่างนั้นหรอก ฉันรู้ว่าท่านจะต้อนพวกเราให้จนมุมจนกว่าเราจะจ่ายเงินคืนให้ท่าน” ใบหน้าของโซอี้ถอดสีและไร้ซึ่งชีวิตชีวา “ไม่ใช่แค่ต้องจ่ายเงินคืนเท่านั้น เราต้องการเงินทุนสำหรับโครงการพัฒนาด้วย เราไม่มีแม้แต่เงินทุนที่จะเริ่มโครงการ การลงทุนเป็นสิ่งจำเป็น แต่มันยากมาก โครงการอาจถูกระงับเมื่อถึงเวลาและอีกฝ่ายอาจบอกเลิกสัญญากับเราก็ได้!” “อย่าพูด! เราได้รับคำเตือนจากธนาคารแล้วและตอนนี้เราไม่สามารถกู้เงินได้แม้แต่เซ็นต์เดียว” แอรอนเกือบจะหลั่งน้ำตาออกมา พูดจบ ก็ลงเอยที่ - เงิน! พวกเขาคงจะแก้ปัญหาทุกอย่างได้ถ้ามีเงิน แต่ผู้ชายที่ไม่มีแม้แต่เงินหนึ่งเพนนี ก็ไม่ใช่ผู้ชายเลยแม้แต่นิดเดียว นอกจากนั้น ตอนนี้มันไม่ใช่แค่หนึ่งเพนนี แต่มันคือ 2 ล้านแปดแสน! “ฉันรู้ว่าเรื่องนี้จะต้องเกิดขึ้น” แอรอนกล่าวต่อไป “คุณปู่ของหนูใช้เล่ห์เหลี่ยมทำให้เรายกโครงการนี้แก่พวกเขาโดยบังคับให้เรายืมเงินจากพวกเขาและให้พวกเขาลงทุนในบริษัทของเรา” “ถ้าไม่มีหนทางอื่น เราก็แค่ยอมแพ้และยกให้คุณปู่ไปซะ” โซอี้พูดอย่างหมดหนทาง “ตอนนี้ อิมพี เรียล เมโดว์ส จำกัด อยู่ในมือเราแล้ว ค่อยเป็นค่อยไปกันเถอะค่ะ!” “ทำไมต้องยอมแพ้?” ลีวายพูดขึ้น “สองล้านแปดแสนไม่ใช่ปัญหาเลย! ให้ฉันจัดการเอง!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เพลิงแค้นเทพสงคราม