เพลิงแค้นเทพสงคราม นิยาย บท 14

ตอนที่ 14 เงินสดห้ากระเป๋า

ทุกคนมองมาที่ลีวายด้วยความงุนงง "อะไรนะ? ให้นายจัดการเหรอ? นายเพิ่งออกจากคุก นายมีเงินเหรอ?” “ผม... ผมจะหาทางเองครับ” ลีวายมีบัตรเงินสดอยู่กับตัว แต่เขาไม่รู้ว่ามีเงินในบัตรเท่าไหร่ “อย่าบังคับตัวเองและทำอะไรที่ไม่ถูกต้องเลย! ถ้าไม่ได้ผล เราก็แค่จะปล่อยมันไป” โซอี้พูดพลางมองลีวายอย่างกังวลว่าเขาจะทำอะไรสุดโต่ง "ไม่ต้องกังวล ฉันจะจัดการเรื่องนี้เอง” ลีวายตอบพร้อมจับมือเธอ วันรุ่งขึ้น ลีวายก็ออกไปคนเดียว ทันทีที่เขามาถึงสี่แยก รถเบนซ์มายบัคก็มาหยุดลงที่ข้างๆ ตัวเขา มังกรฟ้าลงจากรถและนำลีวายให้ขึ้นรถ “มีความคืบหน้าเกี่ยวกับครอบครัวแกร์ริสันไหม? มีใครมาขอโทษไหม?” ลีวายถาม มังกรฟ้าส่ายหัว “ไม่มีใครสำนึกผิดเลยครับ” มีแววเย็นวาบขึ้นที่ดวงตาของลีวาย “ถึงเวลาที่จะแสดงให้พวกนั้นเห็นอะไรบางอย่างแล้ว” เมื่อมาถึงธนาคาร ลีวายถอนเงินสดห้าล้านในคราวเดียว พนักงานธนาคารมองเขาอย่างตกใจ และตกใจมากขึ้นเมื่อเห็นชายในชุดเครื่องแบบทหารที่ยืนอยู่ข้างเขา นั่นมันราชาแห่งสงครามนี่! ฮานส์ ผู้จัดการทั่วไปของสำนักงานใหญ่ ธนาคารนอร์ธ แฮมป์ตัน มาให้บริการด้วยตนเอง ท้ายที่สุด เขาและเฮลีย์ซึ่งเป็นหญิงร่างสูงที่มีใบหน้าชวนมองช่วยถือกระเป๋าเอกสารที่บรรจุเงินสดมาตามทางเดินสำหรับวีไอพี เฮลีย์อดไม่ได้ที่จะแอบมองลีวายเป็นครั้งที่สอง เธอรู้สึกคุ้นเคยกับเขา “ตัวตนของเขาช่างน่ากลัวจริงๆ แม้แต่หัวหน้าของเราก็เกือบจะวิ่งมาที่นี่” หลังจากส่งพวกเขากลับไปแล้ว ฮานส์ก็สูดหายใจเข้าลึกๆ “นั่นใครหรือคะ คุณโลเวอรี่?” เฮลีย์ถามอย่างอยากรู้อยากเห็น “คนที่แต่งเครื่องแบบทหารข้างๆ เขาเป็นคนมีชื่อเสียงใช่ไหมคะ?” “นั่นคือราชาแห่งสงครามตัวจริงเลยล่ะ! การมีราชาแห่งสงครามเป็นผู้ติดตาม ... ลองคิดดูสิ” ฮานส์กล่าวอย่างแผ่วเบา "ตายจริง!" เฮลีย์อ้าปากค้างด้วยความตกใจ “เอาล่ะ อย่าพูดถึงเรื่องวันนี้และเก็บทุกอย่างเป็นความลับ” เฮลีย์พยักหน้า “เข้าใจแล้วค่ะ!” “ไม่ว่าใครจะถาม ก็บอกว่าเป็นการกู้ยืม แล้วปลอมใบเสร็จหรืออะไรทำนองนั้น” "ค่ะท่าน!" ในตอนกลางคืน เมื่อลีวายกลับถึงบ้านพร้อมกับกระเป๋าเอกสารห้าใบที่เต็มไปด้วยเงินสด โซอี้และพ่อแม่ของเธอต่างตกตะลึง พวกเขานับเงินถึงสามรอบด้วยความพิศวง มีเงินอยู่ห้าล้านจริงๆ “คุณไปเอาเงินมากมายขนาดนี้มาจาก หนะ ..ไหน? อย่าบอกนะว่ามาจากพวกเจ้าพ่อเงินกู้” โซอี้สติแตก “เจ้าพ่อเงินกู้อะไรกัน! อย่ากังวลเลย! ยังไงฉันก็มีเงินแล้ว ดังนั้น ใช้มันแก้ปัญหาเร่งด่วนของเธอก่อน” ลีวายกล่าว “ใช่เลย มาแก้ปัญหานี้ก่อน” แอรอนเห็นด้วย “แต่แค่สองล้านแปดแสนก็พอนี่คะ! แล้วทำไมเธอถึงมีตั้งห้าล้าน?” โซอี้ถามด้วยความสับสน “เดี๋ยวก็รู้” เมื่อได้ยินข่าวว่าพวกเขาจะจ่ายเงินคืน เฮนรี่ก็มารับเงินด้วยตัวเอง “ให้ตายเถอะแอรอน นี่มันเร็วมากเลย” เฮนรี่เย้ยหยัน “นายแน่ใจนะว่ามีสองล้านแปดแสน? นายคงลำบากแย่เลย ฉันคิดว่านายจะไม่สามารถคืนเงินให้เราได้นะ” แอรอนขมึงตาจ้องมองเขา “ไม่ใช่กงการอะไรของนาย ยังไงฉันก็รวบรวมได้สองล้านแปดแสนนั่น และใช้หนี้ของเราได้!” “ใครบอกว่าสองล้านแปดแสน?” เฮนรี่เยาะเย้ย แล้วเปลี่ยนเรื่อง “มันต้องคิดดอกเบี้ยตั้งหลายวันนั่นด้วย นี่สัญญากู้เงิน ถ้ารวมดอกเบี้ยแล้วก็น่าจะประมาณห้าล้านกว่านะ แต่เราจะคิดนายแค่ห้าล้านก็พอ” "อะไรนะ? ห้าล้าน? ห้าล้านได้ยังไง? แม้แต่พวกเจ้าพ่อเงินกู้ยังไม่เรียกร้องเท่านายเลย!” แอรอนและโซอี้ตกใจมาก “ในตอนนั้นคุณพ่อให้ยืมเราอย่างไม่มีเงื่อนไข” เคทลินพูดขึ้น “จะคิดดอกเบี้ยได้ยังไง?” “เคทลินที่รัก ช่างไม่รู้อะไรเลยนะ! คุณพ่อต้องไปยืมเงินมาเพื่อช่วยเธอ แต่พวกเราก็เป็นผู้ประกอบการด้วยกันทั้งหมดนะ อย่าเอาความผูกพันในครอบครัวมาเกี่ยวเลย จะให้ฉันทำยังไงล่ะ ก็พวกเธอไม่อ่านสัญญากู้เงินให้ละเอียดเองนี่” โซอี้และแอรอนเอาสัญญากู้เงินมาคำนวณตัวเลข และมีการคิดดอกเบี้ยจริงๆ ในที่สุดพวกเขาก็รู้ว่าทำไมลีวายถึงนำเงินมาห้าล้าน อย่างไรก็ตาม เห็นได้ชัดว่าสัญญากู้เงินถูกแก้ไข! ช่างโหดร้ายเหลือเกิน! ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่าคุณปู่จะทำกับฉันขนาดนี้! ฉันเป็นเพียงคนนอกสำหรับท่านกระนั้นหรือ? โซอี้ร้องไห้ออกมา แอรอนเองก็คอตกเช่นกัน ท่านเป็นพ่อแท้ๆ ของฉันหรือเปล่านะ? ท่านใช้เล่ห์เหลี่ยมสกปรกแบบนั้นกับเราได้อย่างไร? “อะไรนะ? นายไม่ยอมรับอย่างนั้นหรือ? โอเค ก็ได้ ฉันจะฟ้องนายก็แล้วกัน!” เฮนรี่กลั้นหัวเราะอย่างชั่วร้าย “ทำไมเราถึงจะไม่ยอมรับล่ะ? ห้าล้านใช่ไหม? อยู่นี่ไง รับไปสิ!” ลีวายวางกระเป๋าบรรจุเงินห้าใบลงตรงหน้าของเฮนรี่ หลังจากเช็คเงินแล้ว เฮนรี่และคนอื่นๆ ก็ต้องประหลาดใจอย่างที่สุด นี่มันเงินจริงๆ! เงินห้าล้าน ไม่ขาดไม่เกิน! ลีวายบันทึกเหตุการณ์เอาไว้แล้วฉีกสัญญากู้เงินทิ้ง “นายไปเอาเงินห้าล้านมาจากไหน?” เฮนรี่ใกล้จะหลุดไปจากโลกแห่งความเป็นจริง “นั่นไม่ใช่กงการอะไรของคุณกลับไปซะ!” ลีวายไล่พวกเขาออกไป ที่บ้านของครอบครัวโลเปซ ทุกคนจ้องไปที่เงินห้าล้านที่วางอยู่บนโต๊ะด้วยดวงตาเบิกกว้างและอ้าปากค้าง “พวกนั้นได้เงินมายังไง? พวกนั้นทุ่มสุดตัวเพื่อรวบรวมเงินห้าล้านเพียงเพื่อป้องกันไม่ให้เราแตะโครงการหมื่นล้านนั้นเหรอ?” เฟเบียนมาถึงในตอนนั้น “คุณพ่อครับ ผมรู้มาว่าลีวายไปยืมเงินห้าล้านนี้มา! ดูเหมือนว่าเขาจะมีสินทรัพย์ที่สามารถใช้เป็นหลักประกันได้” เขากล่าว “แกแน่ใจหรือ?” แฮร์รี่ถามอย่างจริงจัง "ผมแน่ใจครับ! คุณเฮลีย์ สตินสัน ผู้อำนวยการอาวุโสของสำนักงานใหญ่ ธนาคารนอร์ธ แฮมป์ตันเป็นผู้รับผิดชอบการทำธุรกรรมนี้ครับ ผมบังเอิญติดต่อกับเธอได้และเธอยอมรับว่า ลีวาย แกร์ริสัน เป็นคนยืมเงิน ผมจ่ายเงินไปตั้งหนึ่งแสนถึงได้สำเนาใบแจ้งหนี้มา!” เมื่อรับใบแจ้งหนี้มาดู แฮร์รี่ก็ยืนยันว่ามันคือของจริง “ฮ่า ฮ่า ไปยืมมาเรอะ? คอยดูว่ามันจะจ่ายคืนยังไง” “คำถามใหญ่ที่สุดคือ พวกนั้นจะทำงานในโครงการนี้ยังไง? ยังไงพวกนั้นก็ต้องมาหาเราในที่สุด!” ... โซอี้รู้สึกว่าการแก้ปัญหาใหญ่ขนาดนี้เป็นเรื่องที่เหนือจริงมากเหลือเกิน เธอรู้สึกซาบซึ้งใจเมื่อได้รู้จากครอบครัวโลเปซว่าลีวายเป็นผู้ไปยืมเงินมาเพื่อชำระหนี้ให้พวกเขา “เราควรลงทุนและเริ่มโครงการโดยเร็วที่สุด!” “แต่นั่นก็เป็นปัญหาใหญ่อีกปัญหาหนึ่ง เราต้องการเงินทุนจำนวนมากในการพัฒนาโครงการนี้” ตามงบประมาณของโซอี้ จะต้องมีเงินทุนเริ่มต้นสามสิบล้านและต้องมีเงินอีกอย่างน้อยเจ็ดสิบล้านหลังจากนั้น แอรอนคร่ำครวญเสียงต่ำๆ อย่างสิ้นหวัง มันเป็นเรื่องที่ยากเกินกว่าจะทำได้สำเร็จ “เธอคิดอะไรออกไหม?” โซอี้ถามพลางมองลีวาย ลีวายยิ้ม “เราก็แค่มองหาบริษัทใหญ่ๆ เราจะพยายามติดต่อแต่ละบริษัทจนกว่าจะสำเร็จ โครงการนี้คือเหมืองทองคำ! ฉันแน่ใจว่าหลายบริษัทจะสนใจ” โซอี้พยักหน้า “ฉันรู้ค่ะ แต่ฉันเกรงว่าพวกเขาจะขอผลตอบแทนมากมายถ้าพวกเขาตกลง จะต้องมีเงื่อนไขที่กดขี่ข่มเหงมากมายแน่ๆ!” “ไม่เสียหายที่จะพยายามใช่ไหมล่ะ? เธอไม่มีทางรู้เลยว่าจะมีใครที่จะลงทุนโดยไม่มีเงื่อนไขถ้าคุณไม่ลองพยายามดู” ลีวายยิ้ม "มันจะเป็นไปได้อย่างไร?” โซอี้รู้สึกสงสัยอย่างที่สุด

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เพลิงแค้นเทพสงคราม