เพลิงแค้นเทพสงคราม นิยาย บท 15

ตอนที่ 15 เอาสิ่งที่เป็นของฉันคืนมา

พูดตามจริงแล้ว นั่นคือคำพูดของลีวายเกี่ยวกับการลงทุน “ใช่ เธอไม่ต้องห่วงนะ” โซอี้โพล่งขึ้น “ฉันจะจ่ายเงินห้าล้านคืน หวังว่าเราจะสามารถดึงเงินลงทุนบางส่วนเข้ามาได้โดยเร็วที่สุด” “เรื่องนั้นไม่จำเป็นเลย ทำไมเราต้องมาคุยกันเรื่องนี้ด้วย?” ลีวายยิ้มออกมา “แต่เธอต้องจ่ายเงินคืนด้วย ไม่ใช่เหรอ เธอจะทำได้ยังไง? เธอไม่มีเงินเลย” เมื่อเธอว่าอย่างนั้น ลีวายพยักหน้ารับ “เมื่อเรามีรายได้เพียงพอจากโครงการนี้ ฉันวางแผนที่จะซื้อบ้าน มันไม่เหมาะสมที่เราจะอยู่กับคุณแม่ คุณพ่อ” โซอี้กล่าวเสริม “เธอยังจำบ้านของเราได้ไหม?” ลีวายถามเมื่อนึกขึ้นมาได้ "จำได้ เธอออกแบบวิลล่าเอง และมันก็สมบูรณ์แบบ! น่าเสียดายมากเลย” โซอี้ถอนหายใจ “ฉันจะเอาวิลล่าหลังนั้นคืนมา” ลีวายกล่าว “วิลล่าหลังนั้นเป็นของครอบครัวแกร์ริสันแล้วนะ ลีวาย อย่าทำอะไรบุ่มบ่าม เธอไม่สามารถต่อสู้กับพวกนั้นได้เลย” โซอี้เกลี้ยกล่อม "อย่ากังวลไปเลย" ลีวายตั้งใจแน่วแน่ที่จะทวงคืนสิ่งที่ครอบครัวแกร์ริสันพรากเอาไปจากเขา วันรุ่งขึ้น โซอี้ยุ่งอยู่กับการหาเงินลงทุนขณะที่ลีวายอยู่ที่บ้าน เขาต้องการให้โซอี้เผชิญหน้ากับอุปสรรคต่างๆ ก่อนที่จะเตรียมการที่จำเป็น แอรอนและเคทลินมองไปที่ลีวายซึ่งสูบบุหรี่อยู่บนโซฟา ขมวดคิ้วจนหน้าย่นและดูบึ้งตึง “หยุดสูบบุหรี่ก่อน ตามฉันมา! ฉันมีเรื่องจะบอกนาย!” แอรอนพูดอย่างเย็นชา จ้องไปที่ลีวายอย่างรังเกียจลีวายหยุดสูบบุหรี่แล้วทำตามนั้น “คุณพ่อครับ พูดมาได้เลยครับ!” คิ้วของแอรอนขมวดคิ้วเข้าหากันแน่น “นายไม่รู้สถานะของเราตอนนี้หรือไง?” “ผมว่าเราสบายดีนะครับ” ลีวายยิ้ม “เราได้ทำโครงการและตราบใดที่เราได้เงินลงทุนบางส่วนเข้ามา โซอี้และอนาคตของเราจะสดใสครับ” “ใช่ไง และนั่นเป็นเพราะโซอี้มีอนาคตที่สดใส นายจึงมีความเสี่ยง” “อะไรกันครับ?” สีหน้าของลีวายเปลี่ยนจากความยินดีเป็นความงงงวย “นายน่าจะรู้ว่าเมื่อโครงการนี้สำเร็จ มูลค่าสุทธิของโซอี้จะเพิ่มขึ้นไปถึงสองสามพันล้าน เธอจะตั้งหลักใน นอร์ธ แฮมป์ตันได้อย่างมั่นคงในอนาคต แล้วนายคิดว่านายจะยังคู่ควรกับเธออยู่ไหม?” แอรอนพูดอย่างเคร่งขรึม “ฉันไม่ได้สงสัยความสามารถของนาย แต่นายต้องเข้าใจนะว่านายเพิ่งออกมาจากคุกและทุกอย่างต่างไปจากเมื่อหกปีก่อน การเริ่มต้นธุรกิจอีกครั้งไม่ใช่เรื่องง่าย ช่องว่างระหว่างนายกับโซอี้จะยิ่งกว้างขึ้นเท่านั้น” “นั่นสิ” เคทลินเห็นด้วย “เธอมัวแต่นั่งขี้เกียจและไม่ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน! เธอไม่ได้ทำงานดีๆ เธอคิดว่าเธอคู่ควรกับลูกสาวของฉันไหม?” "ใช่เลย! ลองนึกภาพดูสิว่าโซอี้จะขายหน้าขนาดไหนถ้านายยังเป็นสามีของเธออยู่” “เราจะหาเวลาที่เหมาะสมเพื่อคุยกับโซอี้เรื่องหย่ากับนาย! นี่น่าจะดีที่สุด สำหรับทั้งนายและโซอี้! เตรียมตัวไว้เถอะ” แอรอนถอนหายใจ ลีวายแอบหัวเราะเบาๆ “คุณแม่ครับ คุณพ่อครับ นี่คือที่เขาเรียกว่าพร้อมแตกหักใช่ไหมครับ?” “นายหมายความว่ายังไง พร้อมแตกหักหรือ? นายคิดจริงๆ หรือว่านายเป็นคนที่ทำให้ได้โครงการนี้มา? นายแค่เข้ามาวุ่นวายนิดๆ หน่อยๆ เท่านั้น เป็นเพราะความสามารถของโซอี้ต่างหากที่ทำให้เราได้โครงการนี้มา โอเคไหม?” "จริงค่ะ พูดง่ายๆ คือ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับนาย!” ลีวายทำได้เพียงกลั้นหัวเราะอย่างขมขื่น “วางใจเถอะครับคุณแม่ คุณพ่อ ผมจะทำให้โซอี้เป็นผู้หญิงที่มีความสุขที่สุดในโลก!” ลีวายประกาศ เคทลินจ้องมองที่เขา “แล้วเธอตั้งใจจะทำยังไง? เธอไม่มีบ้านด้วยซ้ำ! ตอนที่เธอมีวิลล่าหลังใหญ่นั่นฉันก็พอจะเชื่ออยู่หรอก แต่ตอนนี้ เธอก็แค่คนยากไร้ที่ไม่มีอะไรเลย! นี่ไม่ต้องพูดถึงการที่เธอมาอาศัยอยู่ที่บ้านฉัน! เธอไม่ละอายใจเหรอ? ออกไปซัก 2 – 3 วันเถอะ ฉันไม่อยากเห็นหน้าเธอสักพัก” “ใช่แล้ว เมื่อเร็วๆ นี้โซอี้ก็ยุ่งๆ อยู่ และเธอก็เสียสมาธิง่ายเมื่อนายอยู่ใกล้ๆ” แอรอนกล่าวเสริม หลังจากถูกไล่ออกจากบ้าน ลีวายไม่ได้รู้สึกโกรธ นี่คือสิ่งที่เขาต้องชดเชยให้โซอี้ ที่ชั้นล่าง มีรถโรลส์-รอยซ์ แฟนธอม เคลื่อนเข้ามา มังกรฟ้าลงมาจากรถและทักทาย "เทพสงคราม-เชิญท่านก่อนครับ!" ลีวายเข้าไปในรถ “แอรอน มานี่เร็ว!” เคทลินที่มองผ่านหน้าต่างตะโกนขึ้น “ฉันคิดว่าลีวายเพิ่งขึ้นรถหรูออกไป” แอรอนรีบเดินไปดูและเห็นรถโรลส์-รอยซ์แล่นผ่านบ้านของเขาไป “นั่นมันโรลส์-รอยซ์ แฟนธอมนี่! เจ้าของรถต้องเป็นคนใหญ่คนโตแน่ๆ! ลีวายเข้าไปในรถแบบนี้ได้ยังไง?” แอรอนรีบพูดแทรกขึ้นมา “ฉันเพิ่งเห็นด้านหลังของใครสักคนที่ดูคล้ายๆ กับเขา ฉันว่าฉันคงกังวลมากเกินไปมั้ง” เคทลิน กล่าวอย่างโล่งใจ “ถ้าเขามีรถโรลส์-รอยซ์ขับ เราจะยังอยู่ในถังขยะขนาดร้อยตารางเมตรนี้เหรอ?” แอรอนพึมพำ “คุณยังมีความหวังกับไอ้เด็กเมื่อวานซืนอีกเหรอ?” "ใช่สิ ฉันหวังว่าเขาจะอดตาย” ในรถ มังกรฟ้าถามว่า “ตอนนี้ เราจะไปไหนครับท่าน?” “ไปรอยัลวิลล่า!” ฉันจะต้องเอาวิลล่าของฉันกลับคืนมา! “ท่านครับ ผมรู้มาว่าผู้ที่อาศัยอยู่ในวิลล่าของท่านตอนนี้คือแมทธิว กรีน! เขาเป็นผู้จัดการทั่วไปคนปัจจุบันของ สกายไลน์มีเดีย ภายใต้ แกร์ริสัน อินเตอร์เนชั่นแนล!” “ปัจจุบันเขาเป็นผู้ช่วยที่แอชตันไว้วางใจ! หลังจากที่หักหลังคุณ เขาก็อุทิศตัวให้กับแอชตันทันที” แอชตันคือลุงของลีวาย ลูกชายของเจย์คอบ เขามีชื่อเสียงว่าเป็นหนุ่มสังคม และเป็นคนที่บอกว่าเขาต้องการจะแต่งงานกับโซอี้ที่งานเลี้ยงในวันนั้น เขามีความละโมบ อยากจะครอบครองโซอี้มานานแล้ว สายตาของลีวายดูเย็นชาเมื่อกล่าวถึงแมทธิว ครั้งหนึ่งเขาเคยเป็นผู้ช่วยที่ไว้ใจได้ เป็นลูกน้องของเขาลีวายเป็นคนเลื่อนตำแหน่งให้เขา ถ้าไม่ใช่เพราะลีวาย เขาคงกระทำผิดฐานฉ้อโกงและติดคุกไปแล้ว ลีวายยังคงจำได้ว่าหลังจากที่เขาตกต่ำลง แมทธิวกลายเป็นข้ารับใช้ของครอบครัวแกร์ริสันที่ติดต่อผู้สื่อข่าวทันทีเพื่อป้ายสีเขา เขาได้ปลอมแปลงหลักฐานที่ “ดูเหมือนว่า” เป็นอาชญากรรมที่ลีวายก่อขึ้น และทำให้ลีวายถูกจับยัดเข้าคุกได้สำเร็จ เมื่อนึกถึงตอนที่แมทธิวเคยทำท่าเคารพนบนอบต่อเขาลีวายรู้สึกว่ามันน่าขัน ในไม่ช้า เขาก็มาถึงรอยัลวิลล่า เมื่อยืนอยู่ตรงหน้าวิลล่าที่ออกแบบมากับมือ ความโกรธพลุ่งพล่านอยู่ในส่วนลึกในจิตใจของลีวาย ไอ้บ้านี่บังอาจมาอยู่ในเรือนหอของฉัน! ตาย! เมื่อสังเกตเห็นทั้งสองคน แม่บ้านของวิลล่าก็ออกมาถามว่า “พวกคุณมาทำอะไรที่นี่ มาหาใครคะ?” ลีวายยิ้มกว้าง “ฉันมาดูบ้านของฉัน!” "อะไรนะคะ? บ้านของคุณ? คุณเป็นอะไรมากไหมคะ? ดิฉันขอบอกว่า เจ้าของวิลล่านี้คือแมทธิว กรีน คุณแมทธิว กรีนแห่ง สกายไลน์มีเดีย!” แม่บ้านพูดพร้อมกับหัวเราะเยาะ ลีวายฉีกยิ้มกว้างขึ้น “แล้วแมทธิวได้บอกเธอหรือเปล่าว่าใครเป็นเจ้าของวิลล่าคนก่อน?” “เจ้าของเก่า? ดิฉันรู้จักแต่คุณกรีนเท่านั้น!” ในขณะนั้นเอง รถปอร์เช่ พานาเมร่า ก็เคลื่อนเข้ามา แม่บ้านเดินไปเปิดประตูทันที แมทธิวในชุดสูทลงมา โดยมีเลขาสาวในชุดทำงานคอยช่วยเหลืออยู่ข้างๆ เธอเป็นสาวสวยทรงเสน่ห์ ขาเรียวยาวของเธอที่สวมถุงน่องสีดำนั้นดูมีเสน่ห์เป็นพิเศษ เมื่อเห็นว่าพวกเขากลับมาพร้อมกัน ก็เห็นได้ชัดว่ามีอะไรบางอย่างที่ไม่ชอบมาพากลอยู่ “คนพวกนี้เป็นใคร?” แมทธิวถามด้วยความไม่พอใจบนใบหน้า ขณะที่เขาจ้องมองไปที่ชายสองคนที่ยืนอยู่หน้าวิลล่า ลีวายค่อยๆหันกลับมา ในเสี้ยววินาทีที่สบตากัน แมทธิวตกใจสุดชีวิต ความจริงคือเขาได้เดินทางไปทำธุรกิจระหว่างที่ครอบครัวแกร์ริสันจัดงานเลี้ยงฉลอง เขาก็เลยไม่ได้พบกับลีวายอีกจนกระทั่งวันนี้ เมื่อพบกับลีวายตอนนี้ เขาไม่มีความรู้สึกใดๆ นอกจากความหวาดกลัวที่มองไม่เห็น มันแตกต่างจากคนอื่นๆ ในครอบครัวแกร์ริสัน แมทธิวมีความกลัวและหวาดหวั่นต่อลีวาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขาได้ทำสิ่งที่น่ารังเกียจต่อลีวาย เขาจึงไม่สามารถสบตากับลีวายได้ “ชีวิตดูดีนี่ คุณกรีน?” ลีวายถามด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม “คุณมาทะ - ทะ– ทำอะไรที่นี่?” แมทธิวถามด้วยเสียงสั่นเครือ “ฉันมาดูบ้านของฉัน!” ลีวายพินิจดูวิลล่า “คุณไม่มีสิทธิ์อะไรที่นี่แล้ว ออกไปได้!” แมทธิวพูดพร้อมกับมองลีวาย ลีวายยิ้ม “แล้วถ้าฉันไม่ไปล่ะ?” ควีน่า เลขาของแมทธิวถลึงตามองลีวาย "คุณคิดว่าตัวเองเป็นใคร? ถึงได้กล้าทำเหมือนคนป่าเถื่อนแบบนี้ ออกไปซะ! ไม่อย่างนั้นฉันจะแจ้งคุณแอชตัน และคุณจะต้องเสียใจ!” เมื่อพูดถึงแอชตัน แมทธิวก็รู้สึกฮึกเหิมขึ้นมาทันที และโต้กลับ “ลีวาย แกร์ริสัน อย่างน้อยคุณก็เคยเป็นนายผม ผมไม่อยากทำให้คุณต้องลำบาก ได้โปรดออกไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้!” “นายคิดว่านายเป็นใครที่จะมาทำให้ฉันลำบาก?” ลีวายพูดด้วยท่าทีดูหมิ่น “ส่องกระจกดูตัวเองบ้างนะ ลีวาย? ตอนนี้คุณไม่มีใครแล้ว! กล้าดียังไงถึงมาพูดกับคุณกรีนแบบนั้น?” ควีน่าเยาะเย้ย “คุกเข่าลงแล้วคลานออกไปซะ!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เพลิงแค้นเทพสงคราม