"หน้าฉันตอนนี้เหมือนอยากฟังคำตอบเล่นๆจากปากแกรึไง" เธอเดินหน้าบึ้งเข้าไปยืนจังก้าตรงหน้าพารันในตอนที่เขากำลังหยิบเสื้อเชิ้ตตัวใหม่ออกมาสวมใส่
"ตอนนี้คงไม่เหมาะจะอธิบาย ไว้กลับถึงบ้านเมื่อไหร่จะเล่าทุกอย่างให้ฟัง"
"มีอะไรอย่าปิดบังฉันนะ"
"ไม่เคยคิดจะปิดบังมึงอยู่แล้ว แต่ไม่คิดว่าไอ้ลูเซียนมันจะกลับมาเลยไม่เคยเล่าให้มึงฟัง กูผิดเองที่ไม่รอบคอบจนเกือบทำให้มึงเป็นอะไรไป"
"คนอย่างฉันไม่เป็นอะไรง่ายๆหรอก แล้วอีกอย่างแกก็คงไม่ปล่อยให้ฉันเป็นอะไรไปหรอก...ใช่ไหม"
"กูรับกระสุนแทนมึงได้นะพัด รู้แค่นั้นก็พอ" หัวใจดวงน้อยพองโตด้วยความตื้นตัน น้ำเสียงหนักแน่นของพารันทำให้เธอรู้สึกปลอดภัย มันเป็นเหมือนคำมั่นสัญญาว่าหากเขายังอยู่ตรงนี้จะไม่มีใครหน้าไหนทำอะไรเธอได้ทั้งนั้น
"ฉันไม่ยอมให้แกรับกระสุนแทนฉันหรอก แล้วก็ไม่คิดจะรับกระสุนแทนแกด้วย" เธอดึงมือหนามากุมไว้หลวมๆ จุมพิตเบาๆบนหลังมือ "เพราะฉันจะจัดการกับคนที่มันหันปลายกระบอกปืนเข้าหาแกก่อน"
"รู้แล้วว่าโหด แต่ไม่ต้องทำเพื่อกูขนาดนั้นก็ได้"
"งั้นถามอะไรหน่อยสิ"
"ว่ามาสิ"
"ที่ผ่านมาฉันนอนกับแกคนเดียวตลอด ถึงจะไปไหนมาไหนกับผู้ชายคนอื่นแต่ฉันก็กลับมาจูบแกคนเดียว มีอะไรกับแกคนเดียว ถ้าสมมุติวันนี้ฉันพลาดท่าให้ลูเซียนแกจะรู้สึกยังไง แกจะรักฉันเหมือนเดิมไหม"
"ถ้าตอบว่าไม่รู้สึกอะไรเลยกูคงจะเป็นพระเอกนิยายที่ใจหล่อที่สุดเลยมั้ง" พารันตอบติดตลก แล้วเป็นฝ่ายดึงมือของเธอมาจูบเบาๆ "กูคงเกลียดตัวเองที่ดูแลมึงไม่ได้ แต่แค่มึงยังอยู่กับกูก็พอแล้ว เพราะยังไงมึงก็ไม่ได้นอกใจกูอยู่ดี"
"แต่ฉันรับไม่ได้นะถ้าแกไปมีอะไรกับผู้หญิงคนอื่น ไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ"
"บอกแล้วไงว่ากูจะใช้ร่างกายนี้กับมึงคนเดียว ผู้หญิงคนอื่นไม่มีสิทธิ์แตะต้องร่างกายของกูถ้ายังไม่ได้รับอนุญาตจากมึง"
"สงสัยต้องรีบกลับไปจัดการเรื่องเอริคให้เรียบร้อยซะแล้วสิ"
"รีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน เดี๋ยวกูเก็บกระเป๋าให้เอง" เขาดึงมือออกจากการเกาะกุมหมายจะเดินเลี่ยงออกไปเก็บกระเป๋าสัมภาระ แต่พัดชากลับยกแขนขึ้นมากอดเอวรั้งไว้ แล้วเขย่งเท้าขึ้นเล็กน้อยจนริมฝีปากแตะสัมผัสกัน
"จูบฉันหน่อย"
"อืม~" ไม่รอให้หญิงสาวเอ่ยปากขอครั้งที่สองพารันก็เป็นฝ่ายสอดเรียวลิ้นเข้าไปตวัดควานหาความหวานในโพรงปากบาง ท่อนแขนแกร่งกอดประคองเธอไว้หลวมๆ
"อืม~" รสจูบที่คุ้นเคยทำสติของพัดชากระเจิดกระเจิงอีกครั้ง แทบจะควบคุมตัวเองไม่ได้เมื่ออยู่ในอ้อมกอดของเขา หัวใจดวงน้อยเต้นแรงอย่างบ้าคลั่งจนกลัวว่ามันจะหลุดออกมานอกเบ้า
"พอแล้ว รีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเถอะ" พารันรีบถอนจูบออกเมื่อเห็นพัดชาหอบหายใจแรงขึ้น
"เหมือนยาที่แกให้กินมันจะไม่ได้ผล"
"ยาไม่ได้ผลหรือมึงหื่นกันแน่" เขาตีหน้าผากมนเบาๆ ก่อนจะถอดเสื้อผ้าของเธอออก แล้วหยิบชุดใหม่มาสวมให้เธอเสร็จสรรพ
หญิงสาวอมยิ้มกับการกระทำเล็กๆน้อยๆของชายหนุ่มที่แสดงถึงความใส่ใจ ก่อนจะเดินเลี่ยงออกไปเก็บกระเป๋าสัมภาระของตัวเองต่อโดยไม่พูดอะไร พารันเองก็รีบจัดกระเป๋าสัมภาระของตัวเองให้เรียบร้อยเหมือนกัน
"ผมจัดการเรื่องในโรงแรมเรียบร้อยแล้วครับนาย นายจะกลับกรุงเทพเลยไหมครับ หรือจะนอนพักค้างคืนที่โรงแรมแถวๆนี้ก่อน" คาไลน์กล่าวรายงานและเอ่ยถามในประโยคเดียวกันขณะนั่งอยู่ในรถยนต์ที่เพิ่งขับห่างออกมาจากโรงแรมได้ไม่กี่นาที โดยมีพารันและพัดชานั่งอยู่เบาะหลัง
"ขอพักหน่อยนะ ถึงที่พักแล้วปลุกด้วย" หญิงสาวซบหน้าลงบนแผงอกแกร่งพลางปิดปากหาวหวอดๆ ยกแขนขึ้นมากอดเอวสอบหลวมๆ ไม่ได้สนใจสีหน้าบึ้งตึงของพารันเลย
@วันต่อมา
"อื้อ~" พัดชารู้สึกตัวตื่นขึ้นมาในช่วงสายๆของเช้าวันใหม่บนเตียงนอนที่ไม่คุ้นเคยของโรงแรมแห่งหนึ่ง เธอปรือตามองเพดานสีขาวอย่างงัวเงียพลางขยับตัวบิดขี้เกียจ แล้วค่อยๆซุกหน้าเข้าหาแผงอกแกร่งของคนข้างๆ
"จะแกล้งหลับก็ทำให้มันเนียนๆหน่อย"
"แกล้งโง่ให้หน่อยก็ไม่ได้" พารันที่กำลังแกล้งหลับขยับตัวเล็กน้อยเมื่อโดนจับได้ แล้วค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้นมาอีกครั้ง
"นี่เราทำตัวชิวเกินไปรึเปล่า เมื่อคืนเพิ่งเกิดเรื่องนะ ไม่รีบกลับกรุงเทพแล้วเหรอ"
"ตอนแรกก็ว่าจะกลับเลย แต่คาไลน์จัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว จะไปเที่ยวที่อื่นต่ออีกสักหน่อยไหม"
"ยังมีอารมณ์จะเที่ยวต่ออีกเหรอ"
"ยังมีเวลาให้เที่ยวต่ออีกหน่อย"
"ฉันอยากกลับแล้ว หมดอารมณ์จะเที่ยวต่อ"
"งั้นค่อยไปเที่ยวฮ่องกงด้วยกัน พ่อกับแม่น่าจะคิดถึงมึง" พัดชาพยักหน้ารับอย่างไม่เรื่องมาก แล้วปิดเปลือกตาลงอีกครั้งในอ้อมกอดอบอุ่น เช่นเดียวกับพารันที่หลับตาลงเงียบๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เพื่อน(ไม่)สนิท