วินาทีที่ได้ประคองลูกน้อยไว้ด้วยสองมือสั่นเทาน้ำตาแห่งความดีใจก็รินไหลอย่างสุดจะกลั้น เวลาที่รอคอยมาตลอดเก้าเดือนสิ้นสุดลงในวินาทีนั้น พารันประคองลูกน้อยขึ้นมาตระกองกอดแนบอกโดยไม่สนใจว่าเสื้อผ้าของตัวเองจะเปรอะเปื้อนหรือเปล่า
พัดชามองภาพเบื้องหน้าผ่านม่านน้ำตาที่รื้นเอ่อออกมาคลอเบ้าอย่างตื้นตัน ดีใจจนไม่สามารถกลั่นความรู้สึกออกมาเป็นคำพูดได้ ราวกับชีวิตได้รับการเติมเต็มอย่างสมบูรณ์แบบ
"คุณหนูเกิดหนึ่งทุ่มห้านาทีพอดีครับ" คาไลน์เอี้ยวหน้ากลับไปมองภาพความประทับใจที่เกิดขึ้นในเวลาสั้นๆด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม เขาเองก็พลอยมีความสุขไปด้วย
"ก็พอจะรู้อยู่หรอกว่าบรรยากาศแบบนี้มันควรจะซึ้ง แต่อย่าเพิ่งซึ้งกันได้ไหมไอ้พวกเวร! นี่มันในรถนะโว้ยไม่ใช่ในห้องคลอด สายสะดือยังไม่ได้ตัดเลย อีพัดก็จะตายห่าแล้วเนี่ย!" บรรยากาศน่าประทับใจถูกทำลายลงภายในเสี้ยววินาทีด้วยเสียงของมาวิน ทำเอาพารันที่กำลังตระกองกอดลูกน้อยไว้เลิ่กลั่กจนทำอะไรไม่ถูก
"กูตัดสายสะดือลูกเองได้ไหม"
"ตัดพ่อมึงสิไอ้ควาย! มึงจะใช้ปากกัดรึไง" นักรบตะโกนด่าอย่างเหลืออด "มึงทำคลอดเองได้แต่มึงมั่นหน้าตัดสายสะดือลูกเองไม่ได้ เข้าใจไหม!"
"โอ๊ย! ทำไมฉันต้องมาคลอดลูกท่ามกลางพวกปัญญาอ่อนแบบนี้ด้วยเนี่ย!" พัดชาตวาดใส่ทั้งน้ำตา ก่อนจะหลับตาลงช้าๆ
"พัดมึงอย่าหลับนะโว้ย!"
"โอ๊ยไอ้บ้ารบเลิกตะโกนใส่หน้าฉันสักที! ฉันแค่เหนื่อยไม่ได้จะตายตอนนี้"
"ไอ้คาไลน์ได้ยินไหมว่าพัดมันเหนื่อยจะตายอยู่แล้ว! เมื่อไหร่จะถึงโรงพยาบาลสักทีวะ!"
"ได้ยินครับคุณนักรบ แต่รถติดมากผมเองก็ทำอะไรไม่ได้เหมือนกัน หรือจะให้ผมเรียกเฮลิคอปเตอร์มารับนายหญิงดีครับ"
"เฮลิคอปเตอร์บ้านป้ามึงสิ! รู้แล้วว่าเจ้านายมึงรวยแต่มึงจะให้เฮลิคอปเตอร์จอดรับอีพัดบนหัวมึงรึไง!"
"ถ้าแบบนั้นไม่ได้ก็คงต้องรออีกสักหน่อยครับกว่าจะถึงโรงพยาบาล"
"นี่หุบปากกันให้หมดเลย! เวลานี้ฉันควรจะต้องซึ้งกับการได้เห็นหน้าลูกสาวไม่ใช่เหรอ! แล้วทำไมฉันต้องมาฟังพวกแกแหกปากทะเลาะกันด้วยเนี่ย!" พัดชายกแขนก่ายหน้าผากอย่างเบื่อหน่ายพลางถอนหายใจหนักๆ ทำให้ภายในรถถูกความเงียบปกคลุมอีกครั้ง มีเพียงพารันที่ไม่ได้สนใจบรรยากาศรอบตัวเลย สายตาของเขาจับจ้องเพียงลูกสาวตัวน้อยในอ้อมกอด
"เฮ้อ~ รีบไปให้ถึงโรงพยาบาลสักทีเถอะวะ กูจะตายไปพร้อมอีพัดแล้วเนี่ย" มาวินถอนหายใจเบาๆพลางเอนตัวพิงเบาะที่นั่ง โดยมีพัดชานอนพิงอยู่บนแผงอกแกร่ง
@โรงพยาบาล
ปัง!
"พัด!!" บานประตูห้องพักฟื้นพิเศษที่ถูกผลักเข้ามาอย่างไร้มารยาทสร้างความตกใจให้พัดชาที่นอนพักผ่อนอยู่บนเตียงไม่น้อย แต่เมื่อเห็นว่าเป็นเอริคที่พรวดพราดเข้ามามุมปากบางก็คลี่ยิ้ม
"พอเธอโทรมาบอกว่าคลอดแล้วฉันก็รีบมาเลย" เอริคเช็ดหงื่อออกจากกรอบหน้าลวกๆพลางหอบหายใจ รีบก้าวเข้าไปหาหลานสาวตัวน้อยที่นอนหลับตาพริ้มอยู่บนเตียงเดียวกันกับพัดชา
"นี่หลานฉันเหรอ ขออุ้มหน่อยได้ไหม"
"เอาสิ ระวังด้วยนะ" พัดชาอมยิ้มเล็กน้อยเมื่อเห็นท่าทางตื่นเต้นของเพื่อนรัก เอริคที่ได้ยินอย่างนั้นค่อยๆสอดฝ่ามือใหญ่เข้าไปใต้ศีรษะน้อยๆของหลานสาว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เพื่อน(ไม่)สนิท