@หลายเดือนต่อมา
อุ๊บ! แหวะ!
"ไหวไหมเนี่ย" พัดชาเอ่ยถามแฟนหนุ่มด้วยน้ำเสียงเป็นห่วงขณะยืนลูบหลังให้เขาที่กำลังโก่งคออาเจียนอย่างหนักอยู่หน้าชักโครก
"เคยมีคนอ้วกจนตายคาชักโครกไหม" พารันทรุดตัวนั่งลงอย่างหมดแรง พร้อมกับเอื้อมมือขึ้นไปกดชักโครก เอ่ยถามแฟนสาวเสียงอ่อน
"ไม่มีใครตายเพราะแพ้ท้องแทนเมียหรอก"
"พายอาจจะเป็นคนแรกที่ตายอย่างอนาถเพราะแพ้ท้องแทนเมียจนหมดแรงก็ได้นะ"
"นี่เป็นมาเฟียประสาอะไรอ่อนแอจริงๆเลย"
"ลองมาแพ้ท้องเองบ้างไหมล่ะ จะได้รู้ว่ามันทรมานขนาดไหน ให้ตายเถอะ! หนักกว่าตอนที่พัดท้องเพลลินอีก" พารันค่อยๆหยัดกายลุกขึ้นเดินลากขาไปบ้วนปากที่อ่างล้างหน้า เพราะตอนนี้พัดชาเพิ่งตั้งท้องที่สองได้สองเดือนกว่า ความลำบากจึงตกมาอยู่ที่เขาอีกครั้งที่แพ้ท้องแทนเมียไม่ต่างจากครั้งแรก
"ไหนบอกว่าจะแพ้ท้องแทนพัดเพราะไม่อยากให้พัดทรมานไง แค่นี้ทำเพื่อพัดไม่ได้เหรอ"
"เหอะ! รอให้คลอดออกมาก่อนเถอะ จะทำให้ท้องจนกว่าพัดจะแพ้ท้องเองเลย"
"ไหนตอนแรกบอกว่ารักพัดนักหนาไง ยอมแพ้ท้องแทนพัดได้ พอมีลูกด้วยกันแค่คนเดียวก็หมดรักกันแล้วเหรอ"
"แค่อยากให้รู้ว่าแพ้ท้องมันทรมานขนาดไหน"
"โอ๋ๆ ไม่งอแงสิ" พัดชาค่อยๆลอดตัวเข้าไปในอ้อมแขนของแฟนหนุ่มในตอนที่เขาบ้วนปากเสร็จพอดี พร้อมกับใช้มือเช็ดปากให้ลวกๆ
"งอแงเหมือนเด็กเลย สงสัยตัวเล็กคงรักป่าปี๊มากนะเนี่ยพายถึงแพ้ท้องหนักขนาดนี้"
"ถ้าเป็นแบบนั้นบอกตัวเล็กไม่ต้องรักพายมากก็ได้นะ ออกมาก่อนค่อยรักก็ได้ อ้วกทั้งวันทั้งคืนจนจะตายคาชักโครกอยู่แล้ว"
"ฮ่าๆๆ หรือเพราะเป็นผู้ชายเลยแพ้ท้องหนัก?"
"หวังว่าจะไม่ดื้อเหมือนเพลลินนะ"
"เป็นเด็กผู้ชายคงไม่ดื้อหรอก ขออย่างเดียวอย่าร้ายเหมือนพ่อก็พอ สงสารผู้หญิงที่จะมาเป็นลูกสะใภ้"
"ไม่ต้องสงสารคนอื่นหรอก ตอนนี้สงสารพายคนเดียวก็พอ"
"นอนพักหน่อยไหม หน้าซีดมากเลย" พัดชาอมยิ้มอย่างนึกขำแม้จะเป็นห่วงมากกว่าก็ตาม พร้อมกับกอดเอวสอบไว้หลวมๆ
"ปาป๊าขา~" น้ำเสียงสดใสของเพลลินดังมาแต่ไกลในตอนที่พารันพยักหน้าตกลงพอดี พร้อมๆกับเสียงฝีเท้าที่ดังเข้ามาใกล้ ก่อนที่เจ้าของเสียงนั้นจะวิ่งเข้ามาในห้องน้ำอย่างอารมณ์ดี ทำให้พารันกับพัดชาต้องผละตัวออกจากกัน
"ว่าไงครับ" พารันย่อเข่านั่งลง มองใบหน้าจิ้มลิ้มราวกับตุ๊กตาของลูกสาวตัวน้อยวัยสามขวบเป็นเชิงคำถาม
"น้องอยู่หนาย คาลายบอกว่าหม่ามี๊มีน้องแย้ว ทำไมน้องไม่มาเย่นกับหนู" เด็กน้อยทำหน้ามุ่ยอย่างน้อยใจเมื่อเห็นพ่อกับแม่เพียงสองคน ริมฝีปากน้อยๆเบะคว่ำลงระหว่างรอคำตอบ
"น้องยังอยู่ในท้องหม่ามี๊ครับ ต้องรออีกเจ็ดเดือนน้องถึงจะออกมาเล่นด้วยนะ"
"ปาป๊าเอาน้องไว้ในท้องหม่ามี๊หย๋อ~"
"ก็...ประมาณนั้นครับ"
"ต้องรอหย๋อ~ เอาน้องออกมาเย่นก่อนได้ไหมคะ หนูอยากเย่นกับน้อง เดี๋ยวให้น้องเข้าไปใหม่"
"คาลายไม่มีเงินหย๋อ~"
"มีครับ ถึงไม่มีเท่าป่าปี๊แต่ก็รวยมาก ถามทำไมครับ"
"หนูจาหนีไปกับคายาย!" เพลลินทำหน้ามุ่งมั่นอย่างเอาจริง ก่อนจะวิ่งออกไปทันที ทำเอาคนเป็นพ่ออย่างพารันอึ้งไปกับความคิดของลูกสาว ต่างจากพัดชาที่หัวเราะด้วยความเอ็นดู
"ฮ่าๆ เพลลินนี่เหมือนพายเลยนะ อยากได้อะไรก็ต้องได้ แถมยังฉลาดตั้งแต่เด็กดี"
"เด็กสามขวบมีความคิดจะหนีตามผู้ชาย แถมยังถามก่อนด้วยว่าผู้ชายคนนั้นรวยไหม ความคิดแบบนั้นมันควรอยู่ในสมองเด็กสามขวบเหรอ? ให้ตายเถอะ! ถ้าลูกฉลาดน้อยกว่านี้พายก็จะไม่ว่าอะไรเลย"
"ฮ่าๆๆ จำไม่ได้เหรอว่าเพลลินเคยบอกว่าถ้าโตมาจะเป็นเหมือนพ่อ แล้วก็จะสวยเหมือนแม่"
"มันต้องไม่ใช่แบบนี้สิ..อุ๊บ!" พารันยกมือป้องปากแล้วรีบถลาไปเกาะขอบชักโครกทันที โก่งคออาเจียนอย่างหนักจนพัดชาที่กำลังหัวเราะร่ารีบเดินเข้าไปลูบหลังให้ด้วยความเป็นห่วง
อุ๊บ! แหวะ!
"นะ..นี่ลูกไม่ใช่เจ้ากรรมนายเวรของพายใช่ไหม ทำไมมีลูกแล้วต้องทรมานทุกครั้งเลย"
"เอาน่า คราวนี้อาจจะแพ้แค่ไม่กี่เดือนก็ได้นะ"
"ทำไมลูกต้องแกล้งพายตลอดเลย"
"เขาบอกว่าผู้ชายที่แพ้ท้องแทนเมียคือผู้ชายที่รักเมียมาก พัดแอบรู้สึกผิดนิดนึงนะที่รู้สึกดีเพราะเห็นพายแพ้ท้องแทนแบบนี้"
"เห็นว่าเมียน่ารักหรอกนะ จะยอมแพ้ท้องแทนก็ได้" เขาค่อยๆหยัดกายลุกขึ้นกดชักโครก แล้วเดินไปบ้วนปากที่อ่างล้างหน้าอีกครั้ง โดยมีพัดชาเดินตามไปคอยเช็ดปากให้ เธอรู้สึกโชคดีที่เลือกคนไม่ผิด พารันเป็นคนรักที่ดีของเธอ ในขณะเดียวกันก็เป็นพ่อที่ดีของเพลลิน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เพื่อน(ไม่)สนิท