เรื่องวิวาห์ของเจ้าสาวจำเป็น นิยาย บท 52

โครกคราก…….

ในตอนที่เซียวเซิ่งกำลังจะเปิดประตูเดินออกไปนั้นด้านหลังของเขาพลันส่งเสียงราวกับบทกวีที่ไพเราะดังออกมาในทันทีทำให้เขาหันไปมองด้วยความสงสัยไม่ได้

พลันเห็นดวงตาที่กลมโตของเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนนั้นนิ่งไม่ไหวติ่งราวกับรูปปั้นก็ไม่ปานเสมือนกับว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่หาได้เกี่ยวข้องกับเธอไม่

วันนี้เธอมาได้กินข้างเดินทีเธอต้องการใช้วิธีการอดข้าวประท้องนั้นในการข่มขู่ให้เซียวเซิ่งเว้นระยะห่างกับเธอทว่าเขาหาได้คิดสนใจไม่ท้องของเธอจึงส่งเสียงร้องออกมาในทันที

“ฮ่าฮ่าไม่ใช่ว่าคุณจะออกไปทำธุระเหรอ?รีบไปซิ”เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนพลันฝืนยิ้มออกมาให้กับเซียวเซิ่งทว่าภายในใจของเธอกลับรู้สึกอึดอัดยิ่งนัก

ทำไมเขายังไม่ไปอีกล่ะ?ถ้ายังไม่ไปอีกมันจะร้องออกมาอีกแล้วนะ

โครครากน่าอับอายจริงๆน่าขายหน้าจริงๆเลยเราอยากจะเอาหน้ามุดดินหนีไปเสียจริงๆ

เมื่อเห็นใบหน้าของหญิงสาวๆค่อยแดงระเรื่อนั้นเซียวเซิ่งพลันหัวเราะออกมาในทันทีพลางเปิดประตูออกมาไม่ใช่ว่ากำลังประท้องอดอาหารอยู่เหรอ?เช่นนั้นก็ให้หิวไปสักสามวันสามคืนแล้วกัน

อีกทั้งเขากลับรู้สึกว่าเสียงท้องร้องของเธอไพเราะยิ่งนักนับว่าทำให้เขารู้สึกเพลิดเพลินใจอย่างแท้จริงหากได้ฟังไปอีกหลายๆวันก็คงไม่เป็นอะไรทว่าเขาได้ส่งให้ห้องเครื่องโจ๊กไก่ฝอยมาให้แล้วเธอจะได้กินมันได้ตลอดเวลา

ยังดีว่าเขายังยีนรักใคร่ภรรยาฝั่งอยู่ในกระดูกดำอยู่บ้างเช่นนั้นคงไม่เป็นปัญหาอะไร

“เอาโจ๊กขึ้นมา”เซียวเซิ่งพลันส่งเสียงสั่งการออกมาจากนั้นพลันปิดประตูก้มหน้าลงมือสองข้างพลันยืนกอดอกพิงประตูเอาไว้นัยน์ตาสีดำขลับกำลังฉายแววครุ่นคิดออกมา

เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนจึงเงยหน้าแอบมองดูเขาไปครู่หนึ่งจู่ๆบังเอิญสบตาเขากับดวงตาสีน้ำหมึกของเขาพอดีเธอพลันรีบร้อนหลบสายตาไปโดยไว

เขาให้คนเอาโจ๊กมาให้เธอกินเหรอ?ไม่กินหรอกตอนนี้เธอกำลังประท้องอดอาหารอยู่

หรือเขากำลังเลียนแบบหงยวี่เลยตั้งใจจะกินมันต่อหน้าเธอทว่าเขาดูไม่ใช่คนที่จะมาทำเรื่องเด็กๆอะไรแบบนั้น

เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนที่นอนซุกตัวอยู่ในผ้าห่มนั้นกำลังกรอกสายตาไปมาพร้อมกับความคิดวุ่นวายมากมายที่กำลังอยู่ในหัวไม่นานนักจู่ๆก็พลันมีเสียงเคาะประตูดังขึ้นมาอีกครั้งพร้อมด้วยกลิ่นอันหอมหวนของโจ๊กไก่ฝอยลอยเข้ามาภายในห้องในทันที

“ลุกขึ้นมากินข้าว”เซียวเซิ่งพลันดึงผ้าห่มออกมาพร้อมทั้งใช้มือดึงเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนเข้ามาอยู่ในอ้อมกอดของเขาจากนั้นเขาก็ค่อยๆใช้ช้อนตักโจ๊กเข้ามาที่ริมฝีปากของเธอ

“คุณไม่ใช่ว่าต้องออกไปข้างนอกเหรอ?”

“ไม่รีบ”เธอสำคัญกว่าเซียวเซิ่งที่เป็นคนพูดน้อยนอกจากจะเป็นเรื่องที่สำคัญจริงๆเขาถึงจะพูดออกมาด้วยความกระชับฉับไว

เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนที่รู้สึกขี้เกียจจะขยับตัวไปมานั้นอีกทั้งตัวเองยังไม่อาจขัดขืนสิ่งใดต่อเซียวเซิ่งได้อีกด้วยเธอจึงได้เอนตัวพิงเข้าไปในอ้อมกอดของเขาพร้อมกับอ้าปากกินโจ๊กเข้าไปอย่างง่ายดาย

เมื่อกินไปกินมาจู่ๆเธอพลันคิดถึงเอี๋ยนต้าฟาขึ้นมาในทันทีลูกชายของเธอเองก็ชอบโจ๊กไก่ฝอยเหมือนกันไม่รู้ว่าตอนนี้เขาจะหิวหรือเปล่าถ้าไม่เห็นแม่แล้วเขาจะร้องไห้ไหม?เขายังเด็กอยู่เลยน่าสงสารมาก

เมื่อรู้สึกไม่สบายใจขึ้นมาภายในใจพลันรู้สึกเจ็บปวดและเศร้าใจไปในทันทีมิทันไรหยาดน้ำตาก็พลันไหล่อาบแก้มลงมาในทันทีพร้อมกับหยดลงบนฝ่ามือของเซียวเซิ่ง

เสมือนกับถูกแผลไฟไหม้ก็ไม่ปานมือไม้ของเซียวเซิ่งพลันชะงักไปโดยพลันแววตาของเขาพลันมืดครึ้มลงไปเล็กน้อย“ร้องไห้เหรอ?”

“เปล่า”เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนพลันส่ายหัวไปมาพร้อมกับหันหน้าหนีไปเช็ดน้ำตาตัวเอง

เธอจะร้องไห้ออกมาไม่ได้ขอเพียงแค่ได้ร้องออกมาครั้งหนึ่งคล้ายกับเธอร่ำไห้ออกมาเป็นร้อยครั้งเธอไม่สามารถกลั้นหยาดน้ำตาเอาไว้ได้ถึงอย่างไรเธอจะเป็นฝ่ายที่อ่อนแอไม่ได้เด็ดขาดไม่งั้นเธอจะเป็นฝ่ายที่เสียเปรียบไปเธอจักต้องยืนหยัดทนแดดทานฝนเหมือนกับดอกหญ้าพวกนั้นให้ได้!

เซียวเซิ่งพลันวางช้อนลงในทันทีพร้อมกับดันไหล่ของเธอให้หันมาหาเขาพลางบังคับให้เธอหันมาสบตากับเขาในทันที

นี่เรียกว่าไม่ได้ร้องไห้เหรอ?ดวงตาที่สวยงามทั้งสองข้างแดงก่ำขนาดนี้หยาดน้ำตาพลันเปรอะเปื้อนอยู่บนแพขนตาอยู่เลยคล้ายกับจะร้องหล่นออกมาอยู่รอมร่อทำเอาผู้คนที่ได้เห็นรู้สึกเป็นกังวลยิ่งนัก

เซียวเวิ่งพลันเอ่ยถามออกมาด้วยความใจเย็น“ซาบซึ้งใจจนร้องออกมาเลยเหรอ?”

เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนพลันส่ายหน้าไปมาเธอรู้สึกซาบซึ้งใจอยู่เหมือนกันแต่เธอไม่ได้ร้องไห้ออกมาเพราะเรื่องนี้

“ห้ามร้อง”น้ำเสียงเย็นชาพลันออกคำสั่ง

จู่ๆภายในใจของเขาพลันรู้สึกถูกบีบรัดออกมาในทันทีเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนพลันใช้มือปิดปากของตัวเองเอาไว้เพื่อกลั้นน้ำตาไม่ให้เธอร่ำไห้ออกมาทว่าดวงตาที่สองข้างกับเอ่อคลอไปด้วยหยาดน้ำตาที่ใสประกายราวกับลูกคริสทัลดูอย่างไรก็น่าสงสารเสียจนคนที่ใจแข็งมากๆยังต้องรู้สึกใจอ่อนให้กับเธอ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เรื่องวิวาห์ของเจ้าสาวจำเป็น