“อ๊าย!”เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนพลันงอตัวในทันทีพร้อมกับมือที่กำผ้าปูเอาไว้แน่นอน“คุณคุณทำเกินไปแล้ว!”
“หืม?ฉันทำเกินไปเหรอ?”เซียวเซิ่งพลันยิ้มออกมาอย่างพอใจเมื่อเห็นปฏิกิริยาตอบรับของเธอจากนั้นพลันกระตุกยิ้มมุมปากขึ้นมา“ดีมากที่รักเธอจะชอบความรู้สึกนี้เอง”
หลังจากผ่านไปห้านาที“ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง?เธอรู้ดีใช่ไหมล่ะ?”
เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนพยายามกัดฟันไม่ให้ส่งเสียงร้องออกมาที่จริงแล้วเธอไม่เคยเจอกับความรู้สึกเช่นนี้มาก่อนเลยมันคล้ายกับว่าเธอกำลังถูกกระแสน้ำพัดพาไปก็ไม่ปานจากนั้นสตินึกคิดของเธอราวกับถูกพัดพาลอยออกไปไกล
“ไม่พอใจเหรอ?ถ้าอย่างนั้นก็ต่อเลย”พูดจบเซียวเซิ่งพลันก้มลงไปจุมพิตเธออีกครั้ง
“ไม่เอาฉันรับไม่ไหวแล้ว!”เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนพลันค่อยๆหอบหายใจออกมาเร็วขึ้นด้วยริมฝีปากที่สั่นเล็กน้อย
“หืม?แค่นี้ก็ทนไม่ได้แล้วเหรอ?ถ้างั้นต่อไปจะทำยังไงล่ะ”เซียวเซิ่งพลันใช้ทักษะที่เชี่ยวชาญของเขาในการทำให้เธอพบกับความสนุกจนถึงขีดสุดจากนั้นก็ทำให้เธอรู้สึกคลั่งไคล้ออกมาจนเจ็บปวด“เด็กดีจำเอาไว้มีแต่ฉันเท่านั้นที่จะมอบความรู้สึกนี้ให้กับเธอได้!”
เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนพลันรู้สึกว่าร่างกายของเธอรู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเองไปในทันทีคล้ายกับว่าเธอกำลังพุ่งขึ้นไปถึงจุดสุดยอดจากนั้นสายตาทุกอย่างพลันเกิดอาการพล่ามัวพร้อมกับอาการไร้เรี่ยวแรงจากนั้นภาพตรงหน้าก็พลันใดดับรูม่านตาที่ขยายใหญ่ขึ้นรับกับคนตายก็ไม่ปาน
“เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยน!”เสน่ห์อันชั่วร้ายของเซียวเซิ่งเมื่อครู่พลันอันตรธานหายไปในทันทีมือไม้ถูกเก็บกลับไป“เสี่ยวเนี่ยนเนี่ยนเอ๋อร์ใครเรียกหมอมาที!”
เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนได้ยินเซียวเซิ่งเรียกชื่อของเธอด้วยน้ำเสียงวตื่นตระหนกจากนั้นด้านนอกพลันมีเสียงฝีเท้ามากมายกำลังวิ่งมาพร้อมกับประตูที่ถูกเปิดออกโดยพลัน
“ฉันไม่อยากเห็นหน้าคุณอีกเซียวเซิ่ง”
เมื่อทิ้งคำพูดสุดท้ายไว้แล้วนั้นเปลือกตาของเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนพลันค่อยๆปิดลงจากนั้นเธอก็หมดสติไป
เซียวเซินเห็นเช่นนั้นพลันโมโหเสียจนแทบจะกระอักเลือดออกมาทั้งโมโหทั้งอยากจะหัวเราะไปพร้อมๆกันเขาแค่สะกิดนิ้วไปเพียงแค่ครั้งสองครั้งเพื่อให้เห็นลิ้มรสสีสันเสียบ้างดีดีดีดีจริงๆ!
“คุณเซียวครับเกิดอะไรขึ้นกับคุณเอี๋ยนครับ”คุณหมอเองก็ไม่กล้าเอ่ยถามอะไรออกไปมากมาย
เมื่อเห็นริมฝีปากของเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนที่บวมเปล่งนั้นพร้อมหางตาที่ยังคงเปรอะเปื้อนไปด้วยรอยน้ำตาอยู่ดูอย่างไรก็เหมือนกับคนที่เพิ่งจะโดนทำร้ายมาทันใดนั้นหมอก็ค่อยๆคิดอะไรบางอย่างออกมาได้ในทันทีทว่าเขาก็ไม่กล้าว่าอะไรเจ้านายของตัวเองมากนัก
“ปลุกเธอให้ตื่นขึ้นมาเดี๋ยวนี้!เกิดอะไรขึ้นทำไมเธอถึงเป็นลมทุกๆสามวันเลยล่ะ?”
เซียวเซิ่งมิได้อธิบายสาเหตุให้มากความพลางใช้มือกวาดสิ่งของที่อยู่บนโต๊ะทุกอย่างลงไปพร้อมกับมองไปที่หมอด้วยความโกรธเกรี้ยว“ฉันเลี้ยงพวกแกมาเสียข้าวสุกจริงๆแม้แต่คนคนเดียวก็ยังรักษาดีไม่ได้!”
“ครับครับ”หมอที่ตกใจเพราะเสียงตะโกนออกมานั้นไม่ทันได้คิดอะไรมากมายเขาก็รีบใส่สายออกซิเจนให้กับเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนในทันทีหลังจากนั้นก็ตรวจวัดชีพจรของเธอ
ทั้งเซี่ยเอ่อและโอเล่ย์เองก็เดินเข้ามาด้วยเช่นกันเมื่อเห็นสถานการณ์ที่อยู่ตรงหน้านั้นพวกเขาก็แอบลอบสบตากันเบาๆในเมื่อหมอไม่กล้าพูดอะไรออกมาพวกเขาสามารถพูดออกมาได้
“เฮ้อนายน้อยทำไมไม่รู้จักควบคุมตัวเองบ้างละครับอาการบาดเจ็บที่เธอเพิ่งจะถูกงูพิษกันไปไม่กี่วันเพิ่งจะหายไปได้ไม่นานนายน้อยก็”
“ท่านประธานรูปร่างของคุณแข็งแรงกำยำแบบนี้ขนาดของคุณก็ยังเป็นสิ่งที่ทำให้คนตกใจได้ง่ายอีกมันสามารถทำให้เธอเจ็บจนตายได้นะครับ”
“ฉันยังไม่ได้ใช้อันนั้นเลยแล้วฉันก็ยังไม่ได้ทำอะไรเลยด้วย!”เซียวเซิ่งสารภาพออกมาเมื่อเห็นทั้งสองคนมีสีหน้าที่ไม่เชื่อใจในตัวเองนั้นเขาพลันหน้าไปอีกทางหนึ่งพร้อมกับใช้หลังมือปิดริมฝีปากของตัวเองเอาไว้
แต่จูบนั้นเขาระบายความรู้สึกของตัวเองออกไปจนหมดแล้วเขาจะพูดได้ยังไงว่าตัวเองไม่ได้ทำอะไร?
“ฉันก็แค่จูบไปไม่กี่นาทีเท่านั้นเองแถมยัง”เซียวเซิ่งพลันชกกำปั้นเข้ากับกำแพงไปในทันทีพลางเอ่ยบอกมาด้วยน้ำเสียงเบาๆว่า“แต่ทำไมร่างกายของคนคนหนึ่งทำไมมันถึงอ่อนแอได้ขนาดนี้กัน?”
สำหรับเขานั้นตั้งแต่เกิดมาเขายังไม่รู้จักเลยว่าการเป็นลมมันเป็นเช่นไร
“แต่ว่านายท่านก็มีส่วนทำให้เรื่องนี้เกิดขึ้น”โอเล่ย์ได้แต่ยักไหล่อย่างไม่แยแสออกมาเพื่อแสดงออกว่าเขาไม่เห็นด้วยกับการกระทำของเจ้านายตัวเอง
คนที่มีจิตใจเย็นชาราวกับขุนเขาเช่นเขายังสามารถโยนผู้หญิงที่อ่อยแอลงไปในบ่อน้ำได้ไม่ว่าจะเป็นชายชาตรีที่ร่างกายแข็งแกร่งแค่ไหนก็ยังต้องอ่อนแอใครจะไปอดทนกับการกระทำเช่นนี้ได้กัน?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เรื่องวิวาห์ของเจ้าสาวจำเป็น