เรื่องวิวาห์ของเจ้าสาวจำเป็น นิยาย บท 9

นอกประตูรั้ว กองกำลังตำรวจบางส่วนรวมตัวกันอยู่ตรงนั้น แต่ละคนมีอาวุธครบครัน องอาจไม่ธรรมดา

สวี่เจียนรู้ว่าตลอดมาตัวเองไม่เคยไว้หน้าเซียวเซิ่ง จึงไม่ได้คาดหวังว่าเซียวเซิ่งจะเห็นแก่หน้าเขา

ดังนั้นจึงสั่งให้ผู้ใต้บังคับบัญชาทุกคนรีบมาให้การสนับสนุน มือถือหมายค้นเอาไว้ หากผ่านไปอีกหนึ่งนาทียังไม่ปล่อยให้เข้าไป เขาก็เตรียมจะพาคนบุกเข้าไปแล้ว

“เหอะ เอิกเกริกเสียจริงๆ! ล้วนเป็นเพื่อนกัน ไม่จำเป็นต้องทำตัวน่ากลัวขนาดนี้!”

ยังไม่เห็นตัวคน แต่ได้ยินเสียงก่อน โดยปกติล้วนไม่ใช่คนธรรมดา สวี่เจียนหันไปมอง...

“ไม่พบกันนานนะผู้บัญชาสวี่”

โอเล่ย์ก้าวออกมาจากประตูใหญ่ กวาดตามองไปทั่ว พลางยิ้มอย่างไร้ความหวาดกลัว พร้อมกับทำมือเชื้อเชิญอย่างสง่างาม “เจ้านายของผมเชิญคุณเข้าไป”

“เลขาเล่ย์ ขอบคุณ!” สวี่เจียนเป็นผู้ชายที่มีความพอดี เข้าใจกติกาคนหนึ่ง เขาโยนปืน กุญแจมือ อุปกรณ์ดักฟังทั้งหมดให้กับผู้ใต้บังคับบัญชาแล้วก้าวเข้าไป

เดินผ่านลานบ้านที่เงียบสงบ เดินเลี้ยวขึ้นไปข้างบน

เงาร่างสูงใหญ่ก็ปรากฏเข้าสู่สายตา ไหล่กว้างเอวเล็กแคบ รูปร่างทรงสามเหลี่ยมคว่ำที่สมบูรณ์แบบ เรียวขาสองข้างเหยียดตรงและยาว

เป็นเซียวเซิ่ง

วันที่หิมะตก เซียวเซิ่งกลับสวมเพียงแค่เสื้อเชิ้ตสีขาวตัวเดียว เคร่งขรึม สง่างาม ออร่าบีบคั้นผู้คน ท่วงท่าสูงศักดิ์ไปทั่วทั้งร่าง ถึงกลับทำให้สวี่เจียน หนุ่มหล่ออันดับหนึ่งของทีมตำรวจหน้าซีดเผือดทันที

“คุณชายเซียว ขอแสดงความยินดีกับการแต่งงานด้วยครับ”

สวี่เจียนทักทายอย่างมีมารยาท และเอ่ยถึงสาเหตุการมาเยือนอย่างตรงไปตรงมา “เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยน คู่หมั้นของผมอ้อยอิ่งอยู่ที่คฤหาสน์ของคุณเพราะหน้าที่การงาน เธออยู่ต่างประเทศนานไป ไม่ค่อยเข้าใจกฎระเบียบของที่นี่ ถ้าหากว่าสร้างความวุ่นวายให้กับคุณชายเซียวและนายหญิงน้อย ผมต้องขออภัยอย่างสุดซึ้ง ได้โปรดมอบเธอให้ผมพากลับไปสั่งสอนด้วยครับ”

สั้นๆเพียงสองประโยค เกรงใจ เหมาะสม มีความรับผิดชอบ เป็นผู้ชายคนหนึ่ง

“คู่หมั้น?” เซียวเซิ่งพลันหันกลับมา ความสูงของเขาเหนือกว่าสวี่เจียนหนึ่งช่วงศีรษะ เมื่อก้มหน้ามองลงมา บรรยากาศก็ดูตึงเครียดอย่างเห็นได้ชัด

“ถูกต้อง” สวี่เจียน ไม่ได้รู้สึกด้อยกว่าเลยแม้แต่น้อย “ ผมกำลังจะแต่งงานกับเธอในเร็วๆนี้ ขอบอกอย่างไม่ปิดบังคุณเลยว่า ลูกของพวกเราอายุสามขวบแล้ว”

“คราวนี้ผมเจอกับเรื่องไม่ดีแล้วสินะ” เซียวเซิ่งโค้งริมฝีปากเสียดสี ขณะที่แววตามองขึ้นๆลงๆ แต่กลับทำให้คนมองไม่ออกถึงความหมายนั้น

เขามองปัญหาได้อย่างชัดเจนมาโดยตลอด เข้าใจคนประเภทสวี่เจียนชัดเจนดีมาก คนที่ยอมตายแต่ไม่ยอมทำผิดวินัย เป็นไปไม่ได้ที่มีลูกก่อนแต่งงาน

“คุณชายเซียว ถ้าหากสามารถมอบเธอให้กับผม ผมจะจดจำบุญคุณในครั้งนี้ไปตลอดชีวิต” เพราะเป็นห่วงเสี่ยวเนี่ยน สวี่เจียนจึงลดประกายความเหมิเกริมของตัวเองลง พยายามอ่อนน้อม แสดงความเป็นมิตรออกมา

“ผมก็อยากมอบเธอให้คุณ น่าเสียดาย…” นัยน์ตาเซียวเซิ่งมีประกายขบคิดพาดผ่าน ปลายนิ้วเคาะรั้วบ้าง เดี๋ยวหยุดเคาะบ้าง ทุกครั้งล้วนเคาะลงบนหัวใจของสวี่เจียน

“เสียดายอะไร” คิ้วเข้มของสวี่เจียนขมวดเล็กน้อย เดินขึ้นหน้าไปสองก้าวโดยไม่รู้ตัว

“ผู้บัญชาสวี่ กรุณาหยุดแค่ตรงนี้ด้วยครับ” โอเล่ย์ยกมือขึ้นขวางด้วยท่าทางเกรงใจ เป็นสัญญาณให้เขารักษาระยะห่าง อย่าเข้าใกล้ท่านประธานตามอำเภอใจ

“ น่าเสียดายที่เธอแต่งงานกับผมแล้ว“

เซียวเซิ่งสอดมือข้างหนึ่งไว้ในกระเป๋ากางเกงสีหน้ามั่นใจมีความหงุดหงิดปนเล็กน้อย เอ่ยอย่างลำบากใจว่า “เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนเป็นภรรยาที่ผมไหว้ฟ้าดินด้วย ถ้าหากว่าให้ผู้บัญชาสวี่ ผมกลัวว่าจะถูกสวมเขา”

“ห๊ะ?”

เมื่อวาจานี้ถูกเอ่ยออกมา ก็คล้ายกับฟ้าผ่าลงกลางศีรษะ อย่างน้อยมีสามคนที่ตะลึงค้างไป

สวี่เจียนไม่ต้องเอ่ยถึง โอเล่ย์ก็ตื่นตะลึง ท่านประธานไม่เพียงแต่ไม่เล่นตามน้ำแสดงความมีน้ำใจ แต่กลับยอมรับสถานะของเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยน สรุปว่ามันเป็นเพราะอะไรกันแน่

หรือว่ารสนิยมของท่านประธานจะต่ำลง หรือว่าแค่อยากจะหยอกเล่นโจมตีสวี่เจียนเฉยๆ หรือว่าเป็นสัตว์ร้ายที่ปกป้องอาหาร คนอื่นมาช่วงชิง เขาก็จะแย่ง?

เอี๋ยนหยู่โรว ที่แอบฟังอยู่นอกประตูก็ตกใจเช่นกัน

เซียวเซิ่งยอมรับเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยน เช่นนั้นเขาวางเธอไว้ในตำแหน่งใด หวงฟางตั้งใจแต่งตัวแต่งหน้าให้เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนเหมือนกับผู้หญิงอัปลักษณ์ที่โมโหร้ายคนหนึ่ง เซียวเซิ่งจะชอบได้ยังไง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เรื่องวิวาห์ของเจ้าสาวจำเป็น