จากการผ่านการคิดพิจารณามาอย่างเจ็บปวด ลังเลและคิดวกไปวนมา สุดท้ายแล้วเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนก็ตัดสินใจว่าหนี กลับไปอยู่ในสังคมของตัวเอง กลับไปอยู่กับลูกชาย กับสวี่เจียน และก็ไปอยู่เคียงข้างอูเจินจู
สิ่งที่ช่วยให้เธอตัดสินใจ นอกจากลูกชาย นอกจากการดูแลมาสี่ปีของสวี่เจียน ยังมีเพื่อนรักอูเจินจูที่ผ่านเรื่องไม่ดีในวัยเด็กมาด้วยกัน
แม่ของอูเจินจูเป็นผู้หญิงที่ใช้ความรักนำทาง สามีของตัวเองเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ไม่ว่าสามีทำอะไร สนับสนุนอย่างไร้เงื่อนไข แม้แต่สามีเมาเหล้ามาตบตีพวกเธอสองแม่ลูก ต่างชื่นชม “ว่าเป็นสิ่งดี”
ทั้งที่สามีไม่คนที่สามารถทำธุรกิจได้ เมื่อพูดว่าจะทำธุรกิจ เธอก็ขายบ้านไปทันที ยืมเงินไปทั่ว กู้เงินนอกระบบมาสนับสนุนธุรกิจของสามี เมื่อเงินเหล่านี้ขาดทุนไปแล้ว เธอยังคงชื่นชมสามีว่า “เก่งที่สุด”
จนสามีที่ไม่ได้เรื่องของเธอพาผู้หญิงอื่นหนีไปแล้ว ทิ้งภาระเอาไว้ให้กับเธอ เธอยังคงรู้สึกว่าสามีของตัวเองนั้น “เป็นผู้ชายท่ีดีที่สุด”
ต่อมาสามีของเธอนำเอาอูเจินจูไปมัดจำเป็นลูกสาวของเจ้าหนี้ เธอตะโกนออกมาอย่างมีปลื้มปีติว่า “สามีชาญฉลาด” วันนั้นก็นำลูกสาวส่งออกไปเลย……
อูเจินจูชอบล้างสมองเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนบ่อยๆว่า “ทั้งชีวิตนี้ฉันไม่ใช่ว่าถูกพ่อเอาเปรียบ แต่ทว่าถูกแม่เอาเปรียบจะตายอยู่แล้ว เสี่ยวเนี่ยน เมื่อคุณตัดสินใจให้กำเนิดเอี๋ยนต้าฟา ทั้งชีวิตไม่ว่าจะตัดสินใจทำอะไรต่างต้องยืนหยัดในมุมของลูกชาย อย่าได้ทำเพื่อผู้ชาย แล้วทำให้เอี๋ยนต้าฟาเป็นเหมือนกับฉันที่หลงเหลือเงามืดในวัยเด็ก......”
ดังนั้น ต่อให้เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนมีความรู้สึกดีต่อเซียวเซิ่งแม้แต่นิดเดียว ก็จะถอนรากถอนโคนในทันที ยิ่งไปกว่านั้นเซียวเซิ่งก็ไม่ได้ดีอะไรกับเธอ เขาดีกับเธอจริงๆ ก็ควรจะให้เธอแม่ลูกได้อยู่ด้วยกัน
เมื่อนึกถึงวิดีโอที่ได้ดูในคืนวันนั้น เซียวเซิ่งกลับปกปิดเรื่องลูกชายตัวน้อยของตัวเอง ความเกียจชังของเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนปะทุขึ้นมาอีกครั้ง เกียจจนอยากจะกัดเขาหลายคำ
ถ้าถอยออกมาสักหมื่นก้าว ต่อให้ลูกชายชื่นชอบเซียวเซิ่งอย่างมาก เธอก็ยังจะยืนอยู่ข้างสวี่เจียน เซียวเซิ่งกับสวี่เจียนเปรียบเทียบกันไม่ได้ อย่างน้อยสวี่เจียนไม่เคยตบตีเธอ และก็ไม่ได้เหยียบเรือสองลำ แน่นอนเซียวเซิ่งกับอูเจินจูก็เทียบกันไม่ได้ ค่าราคาของเขาที่อยู่ในใจของเธอยังเทียบไม่ได้กับหงยวี่หรือพ่อบ้านเซี่ย.......
สรุปแล้ว เซียวเซิ่งสำหรับเธอ เป็นคนที่ไม่สำคัญที่สุด เมื่อมาชั่งน้ำหนักดูแล้ว ใครสำคัญกว่าใครเธอแบ่งแยกชัดเจนมาก
เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนวกไปวนมาอยู่ในสวน คิดพิจารณาวิธีการหลบหนี สิ่งที่ทำให้เธอเซอร์ไพรส์คือ ประมาณห้านาที ปรากฏว่าคนส่งของคนนั้นก็มาแล้ว เรื่องอะไรจะเกิดก็ต้องเกิด
เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนดีใจอย่างมาก แอบบ่นพ่อบ้านเซี่ยอยู่เล็กน้อย ถ้าเขาไม่จับตามองขนาดนั้น ตัวเองก็จะสามารถแอบเข้าในตู้คอนเทนเนอร์ของรถได้อย่างราบรื่น
หลังจากที่ชายหนุ่มลงของเสร็จ จึงได้หยิบยวี้เหม่ยจิ้งออกมาสิบกล่องอย่างระมัดระวัง ยื่นให้กับเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนอย่างนอบน้อม “คุณเอี๋ยน สิ่งนี้มอบให้คุณ”
“นั่นจะได้อย่างไร จำเป็นต้องจ่ายเงิน”เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนปฏิเสธความหวังดีของเขา เผยรอยยิ้มพูดออกมา “น่าจะยี่สิบหยวนใช่ไหม แน่นอนว่าค่าลำบากก็ต้องให้คุณสักหน่อย”
“คุณเกรงใจเกินไปแล้ว ไม่เอาค่าลำบากหรอก”ชายหนุ่มไม่รู้หรอกว่าเจตนารมณ์ของเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนไม่ได้หมายถึงสิ่งนี้ทว่าหมายถึงอย่างอื่น เกรงใจจนไม่อยากจะอ้อมค้อมแล้ว “สิ่งนี้ผมซื้อมาจากร้านขายส่ง ทั้งหมดแค่ 15หยวน ไม่ต้องจริงๆ”
“ไม่ได้ ไม่ได้......”เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนจำเป็นต้องให้ แต่ว่าตัวเองไม่มีสักหยวน ทำได้เพียงยืมจากพ่อบ้านเซี่ย ช่างน่าอับอาย
ครั้งนี้พ่อบ้านเซี่ยถือว่าค่อนข้างใจกว้าง หยิบแบงก์หนึ่งร้อยแบงก์ใหญ่ออกมาให้เธอ เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนเอาเงินยัดให้พ่อหนุ่มน้อย และเอาจดหมายที่เขียนเอาไว้ยัดไปด้วย ยังส่งสัญญาณทางสายตา บอกให้เขาอย่าได้พูดอะไร
พ่อหนุ่มน้อยพบว่าในมือมีอะไรแปลกๆบางอย่าง สีหน้าก็เปลี่ยนไปทันที
เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนตื่นเต้นจนหัวใจจะกระเด็นมาถึงลำคอมาถึงดวงตา แผ่นหลังก็มีเม็ดเหงื่อเล็กๆผุดขึ้นมาอย่างรวดเร็ว เธอกำลังพนัน ว่าพ่อหนุ่มคนนี้จะเปิดโปงเธอหรือเปล่า
ปรากฏว่า พ่อหนุ่มน้อยลังเลอยู่สักพัก ยิ้มออกมาอย่างไม่เป็นธรรมชาติ “ต้องขอโทษด้วย ผมไม่มีแบงก์ย่อย ไม่รู้จะทอนคุณยังไง”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เรื่องวิวาห์ของเจ้าสาวจำเป็น