เรื่องวิวาห์ของเจ้าสาวจำเป็น นิยาย บท 102

เมื่อเอียนหยู่โรวได้ยินคำนี้ ใบหน้าก็ซีดเผือดด้วยความตกใจ หัวใจเต้นโครมคราม ไม่รู้ว่าเซียวเซิ่งหมายถึงอะไร?

เซียวซากับเนี่ยหยวนก็จ้องไปยังเอียนหยู่โรวด้วยความแปลกใจ ทำเอาเธออับอายอย่างมาก แทบอยากจะมุดดินหนี และไม่มีออร่าความเป็นพี่สะใภ้ใหญ่เอาซะเลย

เพราะอะไร ?

เพราะเซียวซากับเนี่ยหยวนล้วนเป็นหญิงสาวที่งดงามมาแต่กำเนิด ถูกผู้คนรายล้อมมาตั้งแต่เด็ก มีความมั่นใจ แต่เธอสวยได้เพราะการศัลยกรรม ต่อหน้าหญิงสาวที่งดงามก็แทบไม่กล้าที่จะเงยหน้าขึ้นมา นี่คือเรื่องของผู้หญิงอย่างเราๆ นอกจากจะอวดความมั่งคั่ง และอวดความสวยงามแล้ว เธอไม่มีอะไรจะไปสู้ใครได้เลย

“นายเซิ่ง ระวังคำพูดคำจาหน่อย”เซี่ยจิ่นคอยแต่จะส่งสายตาไปให้ลูกชาย ให้เขาอย่าไปยั่วโมโหคนเป็นพ่อ เพราะอาหารมื้อนี้มีขึ้นเพื่อต้อนรับเนี่ยหยวน ดังนั้นเซียวจวินเซิงก็จึงอดทนไม่ได้แสดงฤทธิ์เดชอะไร และก็อย่าเห็นว่าเขานั้นจะเกรงกลัว?

คำพูดของเซียวเซิ่งมีเพียงเซียวจวินเซิงเท่านั้นที่เข้าใจมัน เขาเงยหน้าขึ้นมองเอียนหยู่โรว แล้วมองเลยผ่านไป“แต่งกับเธอเพราะรักเธอไม่ใช่เหรอ?”แล้วทำไมถึงไม่แตะต้อง?

เซียวเซิ่งหันมองไปอีกทาง พูดอย่างเรียบเฉย“รักมาก เธอคือนายหญิงคนต่อไปของตระกูลเซียว ใครก็มายึดครองตำแหน่งนี้ของเธอไม่ได้”นอกจากฉันคนเดียวเท่านั้น

เซียวจวินเซิงแอบกัดฟันกร่อน ออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงที่นิ่งและสงบ“คืนนี้ร่วมหอลงโรงกันซะ”

“ไม่กล้าออกแรง”เซียวเซิ่งพูดโพล่งคำนี้ออกมาอย่างเกียจคร้าน ราวกับกลัวคนเป็นพ่อจะไม่ตายเพราะความเดือดดาล

“พรืด!”เมื่อเห็นสองคนพ่อลูกพูดคุยกับอากาศ ซึ่งมันตลกเอามากๆ เนี่ยหยวนอดไม่ได้ที่จะปิดปากแล้วขำ ใบหน้าราวกับดอกไม้ในฤดูใบไม้ผลิที่เบ่งบาน งดงามอย่างมาก

“โธ่ นี่สองคนนี้ทำไมยังอยู่กันอีก……ไปซะไป”เซี่ยจิ่นเพิ่งจะมารู้ตัวว่าบทสนทนานี้ไม่เหมาะกับสาวโสด รีบดึงเซียวซากับเนี่ยหยวน แล้วพาเธอสองคนออกไป

เนี่ยหยวนเป็นห่วงในตัวคนเป็นน้าเล็กน้อย หันกลับไปมอง จู่ๆที่หน้าอกก็ถูกกระแทกเข้าอย่างจังอีกครั้ง——

ใบหน้าด้านข้างของคุณน้านั้นดูดีอย่างมาก โครงหน้าที่เด่นชัด จมูกเป็นสัน สันกรามโดดเด่นราวกับคมมีด ขบกันแน่น ไม่เหมือนชายวัยกลางคนที่พบเห็นทั่วไป อ้วนฉุ ดูดีอย่างมาก และยังหนุ่มยังแน่น……

โอ้พระเจ้า นี่ตัวเองคิดอะไรกับน้ากันเนี่ย……ความรู้สึกของเนี่ยหยวนในตอนนี้ราวกับถูกไฟฟ้าช็อต เหน็บชาไปทั้งร่างกาย ใบหน้าก็ขึ้นสีแดงเรื่อ สาวเท้าเดินออกไปอย่างรวดเร็ว……

บรรยากาศในห้องอาหารไม่ชอบมาพากลอย่างที่สุด พ่อลูกสองคนที่หน้าตาหล่อเหลาจ้องมองสบตากันอย่างเย็นชา

ในใจเอียนหยู่โรวรู้สึกหวาดกลัว เพราะเธอรู้ว่าที่เซียวเซิ่งบอกว่า“รักเธอ”“เธอคือนายหญิงคนต่อไปของตระกูลเซียว”คำพูดเหล่านี้ ไม่ใช่เรื่องจริง แต่เอาเธอมาเป็นเครื่องมือในการแก้แค้น ทิ่มแทงทรมานใจเขา

เอียนหยู่โรวตัวสั่นเทิ้มด้วยความกลัว จู่ๆก็เหลือบไปเห็นเซียวจวินเซิงมองมาที่เธอ ทำเธอหวาดกลัวจนต้องก้มหน้าลง ราวกับเป็นกระสอบทรายที่ไร้ประโยชน์ ใครเห็นเป็นต้องอยากจะเตะต่อยเพื่อระบายอารมณ์

เซียวจวินเซิงรู้สึกเพียงไม่น่าหันมอง ละสายตาออกแล้วลุกขึ้น หยิบผ้าปูโต๊ะสีขาวที่ราวกับหิมะแล้วโยนไปตรงหน้าเธอ“อีกครึ่งชั่วโมง เอาไอนี่ไปให้แม่สามีเธอตรวจสอบ”

เอียนหยู่โรวถือผ้าขาวนั้นไว้ ตัวสั่นเทาราวกับตะแกรงร่อน เกือบจะเป็นลมสลบไป

นี่เซียวจวินเซิงจะตรวจเช็กความบริสุทธิ์ของเธอเหรอ หากไม่มี คงพูดคุยกันยากแล้ว!แต่ว่า ตอนที่เธอเรียนชั้นป.5ก็ไม่มีมันแล้ว อ๋อใช่ เธอพูดได้ว่าตัวเองไม่ใช่สาวบริสุทธิ์แล้ว ครั้งแรกของเธอก็ช่วยเซียวเซิ่งไปแล้วไม่ใช่เหรอ?

สี่ปีมานี้ เอียนหยู่โรวรู้ดีว่าตัวเองเป็นตัวปลอม ดังนั้นก็จึงไม่เคยพูดเรื่องที่ตัวเองได้เคยช่วยเซียวเซิ่งเอาไว้ และเซียวจวินเซิงสองสามีภรรยาก็ไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อน แต่ตอนนี้เพื่อเอาตัวรอด เธอต้องพูดมันออกไป “เออคือว่า——”

เซียวเซิ่งเองก็ราวกับอ่านความคิดของเธอออก หยิบผ้าเช็ดปากสีขาวนั้นมาแล้วโยนมันทิ้ง มุมปากยกหยักอย่างชั่วร้าย“ในโลกนี้ยังไม่เคยเห็นพ่อตาที่ไหนอยากจะมาขอเลือดพรหมจรรย์ของลูกสะใภ้เลย อยากรู้ขนาดนี้ ไม่ไปพิสูจน์มันด้วยตัวเองซะเลยล่ะ ”

การพิสูจน์นี้ หมายถึงการร่วมประเวณีกันระหว่างพ่อตากับลูกสะใภ้

เขากล้าท้าทายมาแบบนี้ มันจาบจ้วงมากเกินไป!เซียวจวินเซิงรู้สึกว่าความอดทนของตัวเองนั้นถึงขีดจำกัด หยิบจานใบหนึ่งติดมือมา……

ห้องโถงถัดไป เนี่ยหยวนกำลังพูดคุยเล่นกับเซียวซาอยู่“คุณน้ากับพี่เขาทำไมต้องคุยกับอากาศแบบนั้นด้วย? ทั้งสองคนเหมือนอยู่กันคนละซีกโลก ในอากาศมีอีกปากหนึ่งที่มองไม่เห็น ช่วยพวกเขาแปลคำพูดนั้นอีกที จากนั้นก็ส่งต่อไปที่หูของอีกคน……”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เรื่องวิวาห์ของเจ้าสาวจำเป็น