เช้าวันรุ่งขึ้น ในตอนที่เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนตื่นมา เซียวเซิ่งไม่อยู่แล้ว เขามีนิสัยชอบออกกำลังกายแต่เช้า
เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนเดินไปที่ห้องน้ำด้วยอาการงัวเงีย หลับตาแล้วแปรงฟันอยู่สักพัก จนมาตอนที่ต้องล้างหน้า เธอก็เพิ่งจะมารู้ตัวว่าวิกผมของเธอไม่อยู่แล้ว
ใจหายวูบ เธอวิ่งหัวซุกหัวซุนออกมาหาวิกผมในทันที รื้อกระทั่งพรมพื้นเพื่อค้นหามัน ไม่มี เธอตกใจจนใบหน้าซีดเผือด นั่งหมอบอยู่กับพื้นอย่างไม่รู้ว่าจะทำยังไง
เมื่อคืนเซียวเซิ่งเห็นศีรษะล้านๆนี้ของเธอแล้วเหรอ?ทำไมถึงไม่โกรธ ไม่อาละวาด?
“เสี่ยวเหนียนหยู เปิดประตูหน่อย!คุณชายให้คุณลงไปกินข้าว!”หงยวี่เคาะประตูเสียงดังลั่น เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนวิ่งไปหาอย่างโซซัดโซเซ เปิดประตูแล้วดึงตัวหงยวี่เข้ามาด้านใน รีบถามในทันที“คุณชายอาละวาดหรือเปล่า?”
“ไม่นี่!”หงยวี่มองไปยังศีรษะโล้นๆของเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยน กะพริบตาอย่างนึกรังเกียจ“ตอนนี้คุณหน้าตาน่าเกลียดมาก อุจาดตาที่สุด ฉันไม่อยากฟาดคุณแล้ว คาดว่าคุณชายก็น่าจะรังเกียจเหมือนกัน”
“งั้นก็ดี”เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนหาหมวกมาใส่ เมื่อมาถึงที่ห้องอาหาร ก็เห็นหญิงชราคนหนึ่งกำลังให้คนจัดเตรียมอาหารเช้า เธอรีบคว้าตัวหงยวี่เอาไว้“ที่บ้านเปลี่ยนแม่บ้านเหรอ?”
“เปลี่ยนอะไรล่ะ ลุงเซี่ยต้องมีสภาพที่น่าเวทนานี้ก็เพราะคุณ”หงยวี่กับพ่อบ้านเซี่ยนั้นมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมากว่าหลายปี ก็จึงพูดอย่างเป็นเดือนเป็นร้อนแทน“ยอดวิชาตีวัวข้ามภูเขาของคุณไม่เลวเลย ทุกครั้งที่ก่อเรื่อง ก็จะส่งผลกระทบมาที่พวกเรา แต่ตัวคุณเองกลับไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้น ”
“เป็นลุงเซี่ยเหรอ?”เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนไม่สนใจคำพูดที่เหน็บแนมและเสียดสีของเธอ มองอย่างถี่ถ้วนและพินิจพิเคราะห์ เป็นพ่อบ้านเซี่ยที่ใส่วิกผมที่ฟูฟ่อง และคอยเอามือเกี่ยวผมอยู่เป็นระยะ ดูแล้วอรชรอ้อนแอ้นมาก ทั้งตลกและทั้งขำ
พรืด!เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนแทบจะขําก๊ากออกมา เมื่อพ่อบ้านเซี่ยได้ยินเสียง ก็มองมาที่เธออย่างคับแค้นใจ เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนพนมมือขึ้นแล้วขยับปากพูด“ขอโทษ” พ่อบ้านเซี่ยอภัยให้เธอในทันที พูดอย่างสุภาพนิ่มนวล“ทานข้าวครับ คุณเอี๋ยน”
เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนเดินเข้าไปหา แล้วนั่งลงข้างๆเซียวเซิ่ง เห็นที่นั่งตรงหน้าว่างเปล่า เอียนหยู่โรวไม่อยู่ อยากจะเอ่ยถาม เซียวเซิ่งยกมือขึ้นแล้วถอดหมวกของเธอออก จากนั้นก็โยนมันไปให้หงยวี่
“ทำอะไรเนี่ย?”เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนรู้สึกอับอายอย่างมาก สองมือกุมไปที่ศีรษะ จ้องเขม็งมองเซียวเซิ่งอย่างขุ่นเคืองและอับอาย
“ต่อไปห้ามใส่หมวกอีก”เซียวเซิ่งกวาดตามองเธอไปแวบหนึ่ง ยกน้ำมะนาวขึ้นจิบ “ในเมื่อกล้าที่จะโกนหัว ก็ต้องกล้ายอมรับกับผลที่ตามมา ”
“คุณเอี๋ยน คุณโกนหัวแล้วก็ยังดูสวยดี ไม่ต้องขาดความมั่นใจไป”พ่อบ้านเซี่ยพูดให้กำลังใจอย่างที่สุด
เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนตื้นตันใจ แล้วดึงแขนเสื้อของเซียวเซิ่ง พูดเสียงต่ำ“นี่ เซียวเซิ่ง ให้ลุงเซี่ยถอดวิกผมออกได้ไหม?”
“ทำไม?”เซียวเซิ่งยังคงกินอาหารของตัวเองต่อ ไม่ได้เงยหน้าขึ้นมอง“ เขาเป็นคนซื้อมาเอง ก็ให้เขาใส่”
“คุณจะเผด็จการไปหรือเปล่า ?หากมีแขกมาที่บ้านจะทำยังไง?”
“ผมไม่เป็นไรครับ คุณเอี๋ยน”พ่อบ้านเซี่ยกลัวคุณชายจะโกรธ รีบพูดตัดบทเธอทันที
“ขอโทษนะคะ ลุงเซี่ย”เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนรู้สึกผิดอย่างมาก ยังไงพ่อบ้านเซี่ยก็ถือว่าเป็นที่รู้จัก ต้องมาติดร่างแหเพราะตัวเองจนมีสภาพชายไม่จริงหญิงไม่แท้แบบนี้
“รู้ว่าทำคนอื่นเดือดร้อน ก็ทำตัวให้มันดีๆหน่อย” เซียวเซิ่งมองเธออย่างเย้ยหยันไปแวบหนึ่ง ยิ้มเยาะ“เห็นว่าหงยวี่ยังรังเกียจคุณงั้นเหรอ ? ก็ถูก หน้าตาที่น่าเกลียดของคุณนี้ คงมีแต่ผมแล้วล่ะที่ไม่นึกรังเกียจ ”
“เชอะ!คนที่ชอบฉันมีถมเถไป ไม่มาสนใจแค่คุณคนเดียวหรอก ”
“พูดอีกทีสิ”เซียวเซิ่งชำเลืองมองเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนอย่างเย็นชา ผู้หญิงคนนี้ต้องเป็นคนที่ศัตรูส่งมาเพื่อแก้แค้นเขาแน่ ตอนกลางคืนยียวนเขาไม่พอ ตอนกลางวันก็ยังจะยียวนเขาอีก
“รู้แล้วๆ……ไม่พูดแล้ว”เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนหยิบซาลาเปาลูกหนึ่งขึ้นมา จิ้มไปที่ซอส แล้วยัดใส่ปาก“เซียวเซิ่งเป็นปีศาจ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เรื่องวิวาห์ของเจ้าสาวจำเป็น