เสียงหายใจหอบที่แหบพร่าน่าหลงใหลภายในห้อง น้ำทะเลที่โหมซัดสาดอย่างเดือดดาลบนเกาะเล็กๆ ร้อยตำรวจเอกที่ยังคงต่อสู้ดิ้นรนอยู่ในห้องปิดขัง....ท่ามกลางความวิเวก โลกของใครดูเหมือนจะวุ่นวายขึ้นมา?
สำนักงานตำรวจจงโจว
สวี่เจียนเดินกลับไปกลับมาอยู่ในห้องอย่าวรวดเร็ว และเตะไปที่กำแพงเป็นบางครั้ง ความอดทนของเขาถึงขีดจำกัดแล้วอย่างไม่เคยมีมาก่อน พลังทลายขอบเขตลงมา
ก่อนหน้านี้หลินเซวียนจะมาส่งอาหารเย็นให้เขาตรงเวลา และเอาจดหมายของเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนมาด้วย แต่วันนี้ดูเหมือนเธอจะตั้งใจดึงเวลาออกไป นี่กลางดึกแล้วก็ยังไม่มา ไม่ใช่ว่าเกิดเรื่องขึ้นแล้วหรืออะไร? สวี่เจียนกัดฟันด้วยความแค้น
เวลานี้ทางด้านหลังมีการเคลื่อนไหวขึ้น ลมที่ดูสดชื่นพัดเข้ามา เขาหันไปมองทันที ดวงตาแดงฉานจ้องมองคนที่มาอย่างโหดๆ “ทำไมเพิ่งมาตอนนี้?”
“หิวแล้วใช่ไหมคะ?” หลินเซวียนยิ้มอย่างอ่อนโยนให้เขาเหมือนที่ผ่านมา แล้วถืออาหารเข้ามา ล็อคประตูเอาไว้ “ทานอาหารเย็นก่อน”
“ผมถามคุณ--” สวี่เจียนพุ่งเข้าไปคว้าคอเสื้อของหลินเซวียนแล้วยกขึ้นมา เหมือนกับพวกอันธพาลที่โหดร้ายไร้ความเมตตาอย่างไรอย่างนั้น “ทำไมเพิ่งจะมาตอนนี้ จดหมายล่ะ?”
หลินเซวียนมีภูมิคุ้มกันกับความโหดร้ายของเขาไปแล้ว พลางเอ่ยขึ้นอย่างนิ่งๆ “ไม่มีจดหมาย ฉันรออยู่นานถึงได้รู้ว่าพี่ชายส่งของป่วย วันนี้ไม่ได้ไปส่งของที่วิลล่าตระกูลเซียว จนถึงตอนนี้ฉันก็ยังไม่ได้ทานข้าวเหมือนกัน คุณใจแข็งกับฉันแบบนี้? เอี๋ยนเสี่ยนเนี่ยนมีคนรัก ฉันไม่มี น่าสมน้ำหน้าไหมล่ะ?”
สวี่เจียนแข็งทื่อไป ซักพักหนึ่งก็ค่อยๆปล่อยคอเสื้อเธอออก ลูกกระเดือกกลิ้งไปมา แล้วเอ่ยพูดขึ้นอย่างละอายใจอยู่บ้าง “ถ้าอย่างนั้นคุณก็กินเถอะ ผมไม่กินแล้ว”
หลินเซวียนหยิบอาหารออกมาทีละอย่าง ยื่นส่งตะเกียบให้เขา “กินสิคะ จะไม่กินได้ยังไง? เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนก็บอกแล้วว่าตัวเองใช้ชีวิตอยู่ดี คุณจะกังวลอะไร? เธอไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้น ความสามารถในการเอาตัวรอดเก่งออก!”
สวี่เจียนส่ายหน้า “เธอเป็นพวกที่จะพูดแต่เรื่องดีๆเรื่องที่เป็นทุกข์ก็ไม่พูดออกมาหรอก คุณเป็นตำรวจ ไม่เข้าใจหรอกว่าเด็กผู้หญิงธรรมดาๆจะอ่อนแอขนาดไหน คุณรู้ไหมว่ารักเธอขนาดไหน? จำได้ว่ามีอยู่ครั้งหนึ่งที่ทำคดีอยู่แล้วโทรไปหาเธอ และเธอกำลังรู้สึกแย่เพราะเมารถ ได้ยินเสียงที่สั่นๆไม่มีแรงของเธอแล้ว ผมรู้สึกสงสารจับใจ แม้แต่คดีก็ไม่อยากจะทำแล้ว.....”
สวี่เจียนพูดต่อไปไม่ได้แล้ว รู้สึกแย่จนแทบขาดใจ เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนคือชีวิตของเขา เป็นสิ่งมีค่าที่เขาคอยประคบประหงมอยู่ในมือ.....
เมื่อเห็นน้ำใสๆในดวงตาของเขา หัวใจของหลินเซวียนก็เหมือนกับถูกกัด เธอทิ้งตะเกียบลงแล้วจับใบหน้าของเขา “คุณร้องไห้?”
“เปล่า” สวี่เจียนกำหมัดแน่น แบกน้ำตานั้นเอาไว้ ใบหน้าที่เย็นชาและเด็ดเดี่ยวเผยความโมโหขึ้นมา “หนังสือตรวจสอบ หนังสือสำนึกผิด หนังสือรับประกันล้วนแต่ส่งไปแล้ว ทำไมผลของการดำเนินการมันถึงช้าขนาดนี้?”
“คุณกินข้าว พรุ่งนี้ต่อให้ฉันต้องตาย ก็จะช่วยคุณช่วงชิงโอกาสมาให้ได้” หลินเซวียนพูดเสียงดังฟังชัด ในแววตานั้นกลับมีอารมณ์ที่มีความซับซ้อนซ่อนอยู่ อยากจะร้องไห้แปลกๆ แอบถอนใจเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนมีค่ามากจริงๆ ถ้าหากสวี่เจียนสามารถปฏิบัติกับเธอหลินเซวียนแบบนี้ได้ ให้สละชีพให้เธอก็ยอม
ความจริงแล้วเธอเห็นพี่ชายส่งของถูกเอียนหยู่โรวคุ้มกันไปส่งที่เอ็นซี ข้ามชาติ กรุ๊ป รู้ว่าเรื่องราวแดงออกมาแล้ว ก็ไม่กล้าเข้าไป เรื่องนี้ไม่มีทางจะบอกกับสวี่เจียนเป็นอันขาด
“เสี่ยวหลิน ขอบคุณนะ” สวี่เจียนรับตะเกียบมา แล้วเอาของอร่อยวางไว้ทางหลินเซวียน “สรุปแล้วคุณก็เป็นผู้หญิง จะต้องกินข้าวให้ตรงเวลา”
ว่าแล้วก็คีบไก่หั่นลูกเต๋าผัดซอสไปให้เธอ หลินเซวียนขอบตาร้อน รู้สึกว่าพลังอำนาจตัวเองไม่ธรรมดา ผู้บัญชาที่เข้าใจและเห็นอกเห็นใจลูกน้องกลับมาอีกครั้ง
กินข้าวเสร็จแล้ว สวี่เจียนยังเก็บชามกับตะเกียบกับหลินเซวียน แล้วออกคำสั่งกำชับกับเธออย่างอ่อนโยน “ดึกขนาดนี้แล้ว คุณขับรถกลับดีๆล่ะ”
“ค่ะ” หลินเซวียนเดินไปสองก้าว แล้วหันกลับมามองผู้ชายที่หล่อเหลามีพลังแต่กลับผอมลงทุกวันๆอย่างเต็มไปด้วยความรัก “ผู้บัญชาสวี่ คืนนี้คุณดี...กับฉันจริงๆ ฉันจะจำไว้นะคะ”
สวี่เจียนรู้สึกงง เขาไม่ได้ทำอะไรเลย~แต่หญิงสาวก็ซาบซึ้งใจกับรายละเอียดเล็กๆน้อยๆแล้ว
หลังจากที่ออกมาจากสำนักงานตำรวจ หลินเซวียนไม่ได้กลับบ้าน แต่ขับรถมาอยู่ที่ด้านนอกของมายด์ฮาร์ท วิลล่า พยายามที่จะหาเบาะแสร่องรอยเล็กน้อย
แต่ลานบ้านนั้นอยู่ลึกมาก ต่อให้ใช้กล้องส่องทางไกล ก็มองไม่เห็นอะไรเช่นกัน
แต่ก็รู้สึกว่าจะต้องเกิดเรื่องขึ้นอย่างแน่นอน
ในห้องนอน ทุกอย่างยังคงดำเนินต่อไป ชายหนุ่มเหมือนกับชีต้าที่เลือดเย็นและสง่างาม ปล้นชิงได้อย่างมีเทคนิคเป็นอย่างมาก ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย.....
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เรื่องวิวาห์ของเจ้าสาวจำเป็น