เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนถูกจูบหน้าผากจนชา เธอรู้สึกว่ามีความร้อนนับไม่ถ้วนเจาะเข้าในต่อมเหงื่อของเธอ แล้วตรงไปที่หัวใจ เธอเงยหน้าขึ้นมองด้วยความตกใจ...
ทั้งคู่มองตากัน ในดวงตาของโอเล่ย์เต็มไปด้วยความรักและสงสาร ไม่ได้มีความเหลาะแหละ
เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนวางใจ แล้วออกมาจากอ้อมกอดของเขา จากนั้นก็หันหลังจะเดินออกไป จู่ๆ เธอชะงักฝีเท้า แล้วถามอย่างสงสัย “ถ้าหากไม่มีเรื่องอะไร ดึกดื่นขนาดนี้ทำไมนายถึงจะออกไปข้างนอก?”
เขาไปตามหาท่านประธาน แต่จะพูดความจริงกับเธอไม่ได้
โอเล่ย์ยกมือแตะริมฝีปากแดงอิ่ม จู่ๆ ยิ้มกริ่ม ใบหน้าหล่อเหลา “เหงาเกิน อยากจะไปดื่มสักแก้วสองแก้วที่ไนท์คลับ ผู้หญิงที่นั่นคอแข็งไม่เบา”
“นายน่ารังเกียจจริงๆ” จู่ๆ เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนรังเกียจโอเล่ย์ในทันที “ผู้หญิงพวกนั้นเล่นหูเล่นตา นายไม่รู้สึกเหนื่อยเหรอ?”
“ไม่นะ แค่รู้สึกฟิน ถ้าหากเธอดื่มเป็นเพื่อนฉัน ฉันก็ไม่ไปแล้ว” โอเล่ย์จัดแจงกระดุมเสื้อโค้ต จ้องมองเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนอย่างหล่อเหลา “อยู่เป็นเพื่อนฉันไหม?”
“อยู่เป็นเพื่อนนายกับผีสิ” เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนมองเขาอย่างเย็นชา แล้วหันหลังกลับไปที่ห้องของตัวเอง
โอเล่ย์เกลียดตัวเอง เขากำมือแน่นชกเข้ากับกำแพง เขาไม่กล้ายื้อจนเกินไป จากนั้นก็วิ่งออกไปนอกวิลล่า ขับรถเหมือนกับลาป่า บ้าคลั่งอยู่บนถนน
ผ่านไปเป็นเวลานานเขาจึงค่อยๆ ลดความเร็ว โทรศัพท์หาพ่อบ้านเซี่ย ให้เขารีบพาคนกลับมา ตัวเองกลับติดต่อสนามบิน เหมาลำไปหาท่านประธาน
ทั้งวิลล่าว่างเปล่า เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนอยู่ข้างในเพียงคนเดียว โอเล่ย์วางใจไม่ลง เมื่อถึงสนามบินก็โทรหาเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนอีกครั้ง แต่เธอไม่ยอมรับสาย
ยิ่งเป็นแบบนี้โอเล่ย์ยิ่งใจคอไม่ดี กลัวว่าเธอจะคิดมั่วซั่ว และก็กลัวว่าดึกๆ ดื่นๆ เธอจะหนีออกไปจากวิลล่า กลัวเธอกระหายกลัวเธอหิว กลัวเธอมีอันตราย...
รักคนคนหนึ่ง เจ็บปวดมากจริงๆ! โดยเฉพาะคนคนนั้น เป็นผู้หญิงของคนอื่นไปแล้ว ที่น่าเศร้าไปกว่านั้น บนตัวของเธอพลังบางอย่าง ทำให้เขาเหมือนแมลงเม่าบินเข้ากองไฟ อยากหยุดแต่รั้งไม่ได้
ครึ่งชั่วโมงต่อมา โอเล่ย์พาหัวใจที่แตกสลายขึ้นเครื่องบิน คนไปแล้ว แต่ใจกลับทิ้งอยู่ข้างหมอนเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยน...
เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนจะนอนหลับได้ที่ไหน เธอยกมือขึ้นลูบไล้ข้างตัว ว่างเปล่า น่าเศร้ามาก หรือว่า...เธอเคยชินกับอ้อมกอดของเซียวเซิ่งแล้วเหรอ?
คิดได้ถึงตรงนี้ ดวงตาของเธอร้อนผ่าว สะอื้นอยู่บนหมอนไม่หยุด
เซียวเซิ่งที่สมควรตายคนนี้ มีเรื่องอะไรก็ปิดบังเธอไปหมด!
ด่าเสร็จเกลียดเสร็จ ก็เริ่มสงสาร เซียวเซิ่ง ฉันคิดถึงคุณ คิดถึงคิดถึง...นายพูดไว้แล้วนะ ว่าอีกสามวันจะกลับมา กลับมาพร้อมกับลูก
ไฟหน้ารถส่องประกาย เหมือนกับมีคนเข้ามาในลาน เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนคิดว่าโอเล่ย์ดื่มเหล้าเมากลับมาแล้ว ก็ไม่ได้ใส่ใจ เธอหลับตาลงเข้าสู่ความฝัน...
เช้าวันรุ่งขึ้น แสงแดงอ่อนส่องผ่านผ้าม่าน กระทบใบหน้าหญิงสาวที่หลับลึก ผิวขาวผ่อง
“7 กรกฎาคมวันแดดจัด จู่ๆ มีหิมะตก ไม่กล้าลืมตาขึ้นหวังว่าจะเป็นความฝัน...” เสียงริงโทนที่มากับโทรศัพท์ดังขึ้น
เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนกลอกตาไปมา มือเล็กเรียวจับโทรศัพท์ วางไว้ข้างหู “เป็นโอเล่ย์ก็จะวางสายแล้ว ถ้าไม่ใช่ก็พูดมา”
“เสี่ยวเนี่ยน พี่เอง” จู่ๆ เสียงอ่อนโยนของ อานฉุนซี ดังขึ้น
เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนลึมตาขึ้นทันที แล้วกระแอมเสียง ตอบอย่างจริงจัง “พี่ซี มีอะไรเหรอคะ?”
“มี” อานฉุนซี ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แล้วจู่ๆ ก็ถามขึ้น “ปัญหาของเธอกับสวี่เจียนจัดการแล้วยัง?”
“ห๊ะ?” คำถามนี้ถามได้กะทันหันมาก เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนไม่รู้จะตอบยังไง
“ไม่ใช่ว่าถูกเขาดูแลสี่ปี จะเอาตัวเข้าแลกไม่ใช่เหรอ? ตอนนี้วางแผนจะทำอย่างไร?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เรื่องวิวาห์ของเจ้าสาวจำเป็น