เรื่องวิวาห์ของเจ้าสาวจำเป็น นิยาย บท 148

ประโยคนี้ของเขาทำให้เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนรู้สึกปวดใจมากจนแทบเป็นลมล้มลง เหงื่อบนใบหน้าผุดซึมออกมา หลอดเลือดที่คอแทบจะระเบิด เสียงร้องไห้ในลำคอถูกกัดกลั้นเอาไว้จนไม่อาจส่งเสียงออกมาได้ ราวกับว่าเธอกำลังสำลัก

หัวใจของอานฉุนซี ชะงักลง เขาเข้าไปอุ้มเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนที่ตั้งใจจะจากไป แต่จู่ ๆ ก็มีเรื่องเงามืดเข้ามาปกคลุม......

สวี่เจียนเรากับขาดสติ เขาเข้าไปคว้าแขนของ อานฉุนซีเอาไว้แล้วแย่งร่างของเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนเข้าไปกอดเอาไว้ในอ้อมอก ใบหน้าที่เต็มไปด้วยหนวดเคราซึ่งไม่ได้ดูแลมาเนิ่นนาน ซุกไปที่ใบหน้าของเธอราวกับเด็กน้อยผู้โดดเดี่ยว กำลังกอดตุ๊กตาซึ่งเปรียบเสมือนชีวิตของเขาเอาไว้

เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนทั้งโมโหและตื่นตระหนก ท่าทางของเธอแข็งทื่อ

“สวี่เจียน เธอกำลังจะหมดสติแล้ว ปล่อยเดี๋ยวนี้นะ!” อานฉุนซีจับแขนของเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนเอาไว้แล้วลากออกมา เมื่อไม่อาจกระทำดังนั้นได้เขาจึงได้ปล่อยหมัด

สวี่เจียนไม่ใช่ว่าจะจัดการได้ง่าย ๆ แววตาของเขาหรี่ลงแล้วจับมัดของอานฉุนซีเอาไว้......ทั้งสองคนต่อยกันไปต่อยกันมา

สวี่เจียนเป็นใครกัน ต่อให้เขาไม่ได้กินอาหารถึงสามวันก็สามารถต่อยอานฉุนซีจนฟันร่วงได้ ท้ายที่สุดแล้วอานฉุนซีถูกเขาต่อยเสียจนลงไปคลุกฝุ่นอยู่บนพื้น มุมปาก มีเลือดไหลออกมา

“พี่คะ พอได้แล้ว เขาเป็นรุ่นพี่ของและดีกับฉันมาก!” เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนรีบเข้าไปคว้าปกเสื้อของสวี่เจียนเอาไว้แล้วพูดอย่างอ่อนแรง

สวี่เจียนใจอ่อนแล้วหยุดการกระทำลงทันที เขาขมวดคิ้วเข้าหากันราวกับเพิ่งได้สติคืนมา โค้งกายลงไปยื่นมือให้อานฉุนซีด้วยความละอายในสายตา “ขอโทษที ผมเสียสติไป”

เมื่อเห็นว่าเขากลับคืนสู่สภาวะปกติแล้ว เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนก็รู้สึกสบายใจขึ้นเล็กน้อย สวี่เจียนในตอนนี้ยังคงเป็นชายหนุ่มที่เป็นบุรุษอันแข็งแกร่งดังเดิม

อานฉุนซีรู้ว่าสวี่เจียนไม่อาจตัดใจจากเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนได้ เขาทั้งสองคนตกอยู่ในสถานะเดียวกัน ตัวเขาเองก็ไม่อยากจะไปจู้จี้จุกจิกในเรื่องนี้ จึงได้จับมือของสวี่เจียนแล้วดึงตัวเองลุกขึ้นมา

“ไม่เป็นไรพี่เจียน คนกันเองทั้งนั้น”

ไม่รู้ว่าสวี่เจียนหยิบซองบุหรี่จากที่ไหนออกมาจากกระเป๋า เขายื่นให้อานฉุนซีตัวหนึ่งแล้วจุดไฟ “ช่วยอะไรหน่อยเถอะนะ ให้ผมได้คุยกับแม่หนูนี่ตามลำพังสักสองสามประโยค”

“จะแค่สนทนาก็ได้ แต่ห้ามทำร้ายเธอเด็ดขาด” อานฉุนซียกมือขึ้นเช็ดเลือดที่มุมปาก เขายิ้มอย่างงดงาม “ผมเป็นคนพาเธอมา ถ้าเธอเป็นอะไรไปละก็ หรือแม้แต่มีผมหลุดร่วงสักเส้นสองเส้นผมก็ไม่รู้ว่าจะกลับไปอธิบายได้อย่างไร”

“วางใจเถอะ” สวี่เจียนมองไปในดวงตาของอานฉุนซี “ผมเองก็รักเธอมากและไม่อยากให้เธอได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อย”

เมื่อพูดจบเขาก็หันไปมองดูเสี่ยวเนี่ยน “พี่ชายของเธอพูดถูก เธอจะต้องมีชีวิตที่ดี ต่อจากนี้ผมไม่อาจเดินเคียงข้างไปด้วยได้แล้ว ในวันนี้เรามานั่งคุยกันดี ๆ เถอะนะ ผมเองก็ไม่อยาก......มานั่งเสียใจแบบนี้”

เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนรู้สึกเสียใจจนอยากร้องไห้ เธอยกแขนเสื้อขึ้นมองไปทางอานฉุนซี “รุ่นพี่คะ ออกไปข้างนอกก่อนเถอะค่ะ ขอบคุณที่ช่วยฉันในวันนี้ และฉันจะไม่ลืมบุญคุณเลย”

“พูดอะไรแบบนั้นกัน” อานฉุนซีขยี้ไปที่ศีรษะของเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยน “อย่าร้องไห้อีกนะ ไม่ได้มีเรื่องใหญ่อะไรเลย พี่ไปก่อน”

เมื่อมองจนกระทั่งเขาเดินจากไปแล้ว เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนจึงหยิบถ้วยยาขึ้นมายื่นไปให้สวี่เจียน “พี่คะ กินยานี้ก่อนเถอะ ผู้บัญชาการเอามาให้”

“อืม” เขายื่นมือมารับและดื่มมันจนหมดถ้วย เมื่อเห็นเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนเปิดกล่องข้าวออกและพบเกี๊ยววางไว้อย่างเป็นระเบียบ เขาก็กลืนน้ำลายน้ำตาไหลลงมาทันใด หัวใจเขาในตอนนี้อึดอัดอย่างบอกไม่ถูก มันทั้งปวดใจและเสียใจ ทั้งรักและทั้งเกลียด

เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนตกใจมาก เธอรีบเอื้อมมือไปเช็ดน้ำตาให้เขา “พี่คะ หนูทำผิดต่อพี่เอง พี่อย่าเสียใจไปเลย”

สวี่เจียนยกมือขึ้นจับมือเธอเอาไว้แล้ววางตรงริมฝีปาก ดวงตาของเขาดูเศร้าโศก “เสี่ยวเนี่ยน เธอรักเซียวเซิ่งจริง ๆ เหรอ?”

เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนไม่รู้ว่าความรู้สึกที่เธอมีต่อเซียวเซิ่งนั้นเป็นความรักหรือไม่ จึงไม่รู้จะตอบไปอย่างไร สวี่เจียนจึงเข้าใจว่าเธอยอมรับมัน เขายิ้มอย่างขมขื่น “ผมมันแก่เกินไป ไม่เข้าใจในความรัก ไม่อย่างนั้นเวลาตั้งสี่ปีทำไมถึงสู้เวลาหนึ่งเดือนไม่ได้ล่ะ”

หัวใจของเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนเจ็บปวดราวกับถูกมีดกรีด เธอหันหน้าไปด้านข้างแล้วน้ำตาไหล หัวใจของคนเต็มไปด้วยเลือดเนื้อ เธอไม่อาจตัดขาดจากสวี่เจียนได้ หากว่าสวี่เจียนมีชีวิตการเป็นอยู่ที่ไม่ดี เธอก็คงไม่มีความสุขตลอดไป

“เนี่ยนเอ๋อร์ อย่าโทษตัวเองไปเลย” สวี่เจียนดึงเธอเข้ามาไว้ในอ้อมกอดแล้วพูดด้วยความปวดใจว่า “เป็นผมเองที่ขี้ขลาดไร้ความสามารถ ไม่อาจรักษาเธอเอาไว้ได้ อย่าร้องไห้ไปเลย มากินข้าวเป็นเพื่อนผมหน่อย เมื่อกินเสร็จแล้วเธอก็กลับไปเป็นคุณนายเซียวของเธอ ส่วนผมก็จะเป็นผู้บัญชาการของผมตามเดิม ระยะเวลาสี่ปีนั้นถือว่ามันไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน”

“พี่คะ......ฉันเสียใจที่ตอนนั้นไม่ยอมดึงดันให้พี่แต่งงานกับฉัน” เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนซุกหน้าน้อย ๆ ของเธอเข้าไปในอ้อมกอดของสวี่เจียน มือเรียวงามลูบไล้ไปบนใบหน้าที่ซูบผอมของเขา “ฉันรักพี่นะคะ ฉันรักพี่มาก พี่รู้หรือไม่ว่าฉันรักพี่มาโดยตลอด”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เรื่องวิวาห์ของเจ้าสาวจำเป็น