“กู้จ่านหนิง?”
“เชอะ”
กู้จ่านหนิงยืนอยู่ตรงนั้นอย่างวางมาด ปากคาบบุหรี่ไว้ สายตาจ้องมองสวี่เจียนอย่างเย็นชา ข้างหลังมีบอดี้การ์ดสิบกว่าคนยืนเรียงราย
“หลบไป”
“ผู้บัญชาการสวี่ไปแล้วแบบนี้ สมควรแก่ใคร?” กู้จ่านหนิงสวมสูทสีดำเรียบร้อย ผมดำเงางามพาดคลุมหลัง ดูก็รู้ว่าเป็นบอสใหญ่
แต่ภูมิหลังของเขาไม่ดี
สวี่เจียนเหลือบมองดูเขาอย่างไม่พอใจ พร้อมพูดขึ้นว่า “เกี่ยวข้องอะไรกับคุณ?”
“คุณว่าเกี่ยวข้องอะไรกับผม?” น้ำเสียงกู้จ่านหนิงเฉียบคม สายตาที่จ้องมองดูเขาเต็มไปด้วยความเกลียดชัง พร้อมพูดขึ้นว่า “
ผู้หญิงที่อยู่ข้างใน เป็นน้องสาวของผมกู้จ่านหนิง”
“อะไรนะ?” สวี่เจียนตกใจ สายตาเบิกโต พร้อมพูดขึ้นว่า “กู้จ่านหนิง คุณไม่ได้หลอกผม?”
ไม่มีสักครั้งที่กู้จ่านหนิงไม่คิดอยากให้ตนเองกับเขาอับอาย สวี่เจียนไม่ตอบ คิดไม่ถึงว่าวันนี้เขาจะเล่นอุบายอุบาทว์แบบนี้ น่ารังเกียจที่สุด
“มีใครเอาน้องสาวแท้มีวางแผนหรือ?” กู้จ่านหนิงโกรธเคืองอย่างมาก หันไปต่อยสวี่เจียนหนึ่งที พร้อมพูดขึ้นว่า “วันนี้ผมจะฆ่า
คุณให้ตาย ลงมือ”
“ขอรับ” พวกบอดี้การ์ดพุ่งพรวดไปเหมือนอย่างเสือหมาป่า ล้อมรอบสวี่เจียนไว้
วันนี้โกลเด้นฟีนิกซ์ ไม่อยู่ในค่าย ทุบเขาให้ตายอยู่ที่นี่ก็ไม่มีใครรู้
สวี่เจียนรีบถอยกลับเข้าไปในห้อง พร้อมพูดกับหญิงสาวว่า “ขออภัย” จากนั้นก็ดึงผ้าปูที่นอนลงมา เอาไปล้างน้ำในห้องน้ำเพื่อเป็น
การทำลายหลักฐาน
“ให้ตายเถอะ” กู้จ่านหนิงกัดฟัน พร้อมพูดขึ้นว่า “ลงมือให้ถึงตาย”
สวี่เจียนไม่ตอบโต้ “ต่อยตายได้ แต่จะให้ข้าแต่งงานกับน้องสาวเจ้า ไม่มีทาง หากน้องสาวของเจ้าหาคู่ไม่ได้จริงๆ ก็ส่งไปแลกเปลี่ยนที่
แอฟริกา ส่งไปยังสนามรบตะวันออกกลางเพื่อเป็นผู้หญิงปลอบโยน”
“เจ้าคนสารเลว” เดิมกู้ซีหนิงอยากห้ามพี่ชาย พอได้ยินสวี่เจียนพูดออกมาอย่างเลวทราม ก็เกาะแนบผนังร้องไห้อย่างขมขื่นขึ้นมา
ทันที
สวี่เจียนเสียใจ แต่คำพูดที่พูดออกไปแล้วก็เหมือนน้ำที่ราดออกไป สิ่งที่ทำร้ายจิตใจคนอื่นก็เอากลับคืนมาไม่ได้แล้ว
ในจิตใต้สำนึก เขาไม่อยากพูดเหยียดหยามผู้หญิงคนนี้ แต่กู้จ่านหนิงเลวทรามมาก เสียสละแม้กระทั่งน้องสาวตนเองเพื่อหลอกล่อเขา
เขาเพียงแค่อยากด่ากู้จ่านหนิง เฮ้อ
“อย่าออมมือ ตีให้ตายไปเลย ตีเสร็จแล้วค่อยฟ้องเขาในโทษฐานข่มขืน”
กู้จ่านหนิงโกรธจนใบหน้าสั่นเทาไปหมด พร้อมพูดขึ้นว่า “เจ้าด่าข้าได้ ทำไมถึงกล้าด่าน้องสาวของข้า?”
เขากู้จ่านหนิงเคยทำธุรกิจมืด แต่นั่นก็เป็นเพราะชีวิตความเป็นอยู่บีบบังคับ
ตอนนั้นเขาเป็นหนุ่มวัยยี่สิบต้องเลี้ยงน้องชายวัยห้าขวบ น้องสาววัยสามเดือน ยากจนข้นแค้น ไม่หาทางเอาตัวรอดได้อย่างไร?
เมื่อลงมือทำก็ทำมาแล้วยี่สิบปี จนกลายเป็นหัวหน้ามาเฟีย
แต่ต่อให้เขาเลวแค่ไหน น้องสาวเขาก็เป็นคนดี
กู้ซีหนิงไม่รู้เรื่องอะไรเลย เป็นสาวน้อยบริสุทธิ์ไร้เดียงสาคนหนึ่ง จะถูกสวี่เจียนก่นด่าแบบนี้ไม่ได้
“ซีซี ไม่ต้องร้องไห้” กู้จ่านหนิงโอบกอดน้องสาว พร้อมพูดปลอบว่า “กลับบ้านไปพักผ่อนก่อน พี่จะแก้แค้นให้น้องเอง”
“พี่สาว น้องไม่แต่งงานกับเขา” กู้ซีหนิงพูดทั้งน้ำตาว่า “น้องชอบใครพี่ก็รู้ พี่ไม่ให้น้องแต่งงานกับคนที่น้องชอบ ก็ไม่ต้องผลักไส
น้องไปบนกองไฟ”
“พี่รู้ พี่รู้.....น้องไม่ต้องร้อนใจ สักวันหนึ่งพี่จะทำให้น้องสมดั่งปรารถนา”
กล่าวจะกล่อมน้องสาวกลับไปได้ กู้จ่านหนิงปวดหัวอย่างมาก
น้องสาวไม่รู้เลยว่า สถานการณ์อันน่าเศร้าในวันนี้ เป็นฝีมือของผู้ชายที่เธอรัก
เซียวเซิ่งไม่ใช่คนดี เลือดเย็นไร้ความรู้สึก เผด็จการหยิ่งผยอง ไม่เคยเห็นเขาอ่อนโยนเลย ไม่รู้ว่าทำไมพวกผู้หญิงถึงชอบเขา?
หงุดหงิด
โรงพยาบาลโนเบิลซูจี้ พระอาทิตย์กำลังส่องแสง
เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนเอนพิงในอ้อมแขนสามี ซบบนซอกคอของเขาแล้วนอนหลับอยู่อย่างสบาย ใบหน้าเรียวงามแดงระเรื่อ สวยงามอย่างมาก
เซียวเซิ่งตื่นมาสักพักหนึ่งแล้ว แต่ไม่กล้าขยับ กลัวจะทำให้เมียรักตื่น
ดูนาฬิกาบนผนังก็แปดโมงกว่าแล้ว เดี๋ยวยังมีงานรออยู่อีกเป็นกอง ต่อให้ไม่อยากแต่ก็ต้องปลุกเธอตื่นแล้ว
มือข้างหนึ่งโอบกอดเอวภรรยาเบาๆแล้วก็เขย่าเล็กน้อย เซียวเซิ่งถามอย่างอ่อนโยนว่า “ที่รัก จะตื่นไหม?”
ปกติเสียงของเขาจะต่ำดึงดูดเหมือนแม่เหล็ก บวกกับตอนเช้าที่งัวเงีย ดูมีเสน่ห์อย่างมาก ฟังจนเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนหูชา สะท้านไปถึงในใจ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เรื่องวิวาห์ของเจ้าสาวจำเป็น