ไม่รู้ว่าทำไม ทุกครั้งที่เห็นเซียวเซิ่งถูกแกล้ง เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนก็จะขำทุกครั้ง
สุขุมเยือกเย็นขนาดนั้นคนหนึ่ง ทั้งๆที่โกรธโมโห แต่เพื่อรักษาท่าที แสดงสีหน้าเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น คิดถึงในใจเขาที่กัดฟันกรอด ก็
อดไม่ได้ที่จะหัวเราะ
เซียวเซิ่งใช้หลังมือเช็ดริมฝีปาก นัยน์ตาสีดำสนิทจ้องมองหญิงสาวที่หัวเราะดังสนั่น พร้อมขมวดคิ้วคิดในใจว่า ภรรยาเป็นเสือหรือเปล่า
สามีตนเองถูกคนอื่นจูบ ยังอารมณ์ดีได้?
แต่ถ้าเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนถูกคนอื่นจูบ เขาจะหึงอย่างมาก
ผ่านไปแล้วหนึ่งนาทีเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนก็ยังไม่หยุดหัวเราะ หัวเราะจนน้ำตาไหลแล้ว ดวงตาที่ใสสะอาดดูเหมือนจะเต็มไปด้วยแอ่งน้ำ มี
เสน่ห์น่ารักอย่างมาก
หากไม่ใช่เพราะเธอหัวเราะแล้วงดงาม สดใสดั่งแสงตะวัน สว่างไสวดั่งแสงจันทร์ เขาคงห้ามเธอแต่แรกแล้ว
“ผู้ชายของคุณโดนลวนลาม คุณเสียเปรียบแล้ว หรือไหม?” เซียวเซิ่งถามขึ้นมาด้วยสีหน้าเคร่งขรึม น้ำเสียงราวกับแม่เหล็กแฝง
ไปด้วยความเย็นชา
“พัฟ”
เดิมเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนอยากหยุดหัวเราะ เมื่อเขาพูดออกมาแบบนี้ ก็หัวเราะขึ้นมาอีก พร้อมพูดขึ้นว่า “เสียเปรียบตรงไหนหรือ?”
ฉู่หยู้ซีเป็นผู้ชาย ตอนที่พวกเขาเข้าห้องน้ำ ยังมองเห็นของกันและกัน เรื่องพวกนี้เธอหึงได้ด้วยหรือ?
“มีภรรยาเหมือนแม่ ทำไมคุณเหมือนแม่เลย?” เซียวเซิ่งลุกขึ้นมา หรี่ตาสีเข้มจ้องมองภรรยาอย่างจริงจัง พร้อมพูดขึ้นว่า “เอี๋ยน
เสี่ยวเนี่ยน ด้วยลักษณะท่าทีของคุณตอนนี้ สติปัญญาของคุณก็แค่....”
“แค่อะไร?” รู้ว่าเขาไม่พูดดีแน่ เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนพูดแทรกขึ้นมาอย่างไม่พอใจ ริมฝีปากรูปเพชรอวบอิ่มอ่อนหวานยักขึ้น พร้อม
พูดขึ้นว่า “สติปัญญาของฉันอยู่ระดับอนุบาล ใช่ไหม?”
“คุณยกย่องตนเองเกินไปไหม” เซียวเซิ่งนั่งลง ยกขาไขว่ห้าง มองพิจารณาดูนาง พร้อมพูดขึ้นว่า “มากสุดก็เพิ่งจบการศึกษา
ก่อนคลอด”
การศึกษาก่อนคลอด?
เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนงุนงงอยู่ตั้งนานค่อยเข้าใจความหมายของสามี ซ่อนดาบในรอยยิ้ม พูดย้อนอย่างประชดประชันเสียดสีว่า “คุณว่าฉัน
เหมือนแม่?” งั้นก็แสดงว่าด่าแม่ของตนเองไปด้วย?
“ใช่ ผมว่าแม่ผมไม่ได้ ยังว่าคุณไม่ได้ด้วย?”
“คุณสิเป็นตัวอ่อน ระดับไข่ที่ยังไม่ปฏิสนธิ คุณเป็นสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียวที่ยังไม่ได้วิวัฒนาการ” เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนถลึงตาใส่เขาอย่าง
โมโห แล้วก็กลับไปแต่งตัวต่อ
เซียวเซิ่งอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาอย่างมีเสน่ห์ ฟันขาวสะอาดประกายแวววาวอย่างน่าหลงใหล
ในขณะที่กำลังหัวเราะ จู่ๆก็รู้สึกว่าบรรยากาศสงบอย่างผิดปกติ กวาดสายตามองดู ก็เห็นเอี๋ยนต้าฟายืนมองดูตนเองอยู่ตรงหน้าประตูอย่าง
แปลกใจ
เซียวเซิ่งรีบหุบยิ้ม กลับกลายมาเป็นพ่อที่ดี นั่งตัวตรง พร้อมพูดขึ้นว่า “ลูกไปล้างมือ เตรียมทานข้าวแล้ว”
“ครับ” เอี๋ยนต้าฟาเห็นรอยยิ้มของพ่อที่เย็นชาแล้ว จึงพูดชมขึ้นมาอย่างจริงใจว่า “พ่อ เวลาพ่อยิ้มหล่อและอบอุ่นมาก หล่อเหลา
ยิ่งกว่าตอนที่เคร่งขรึม”
คิดจะหลอกข้ายิ้มหรือ ไม่ง่ายขนาดนั้นหรอก
เซียวเซิ่งเอนพิงไปยังโซฟา มองดูเจ้าก้อนแป้ง พร้อมพูดขึ้นว่า “ในมือถืออะไรไว้?”
“ของขวัญให้พ่อ” เอี๋ยนต้าฟายื่นมือซ้ายที่ซ่อนไว้ด้านหลังออกมา ยื่นดอกกุหลาบสีเหลืองสดใสให้กับเซียวเซิ่ง พร้อมพูดขึ้นว่า “
ขออวยพรให้พ่อสุดที่รัก หล่อเหลามีเสน่ห์ตลอดไป”
เซียวเซิ่งซาบซึ้งใจอย่างมาก เอาดอกไม้มาใกล้จมูกโด่งสูงแล้วดมกลิ่นหอม ลูบห้วลูกชายอย่างพอใจ พร้อมพูดขึ้นว่า “หอมมาก ขอบใจ
ลูกชายสุดหล่อ”
ในชีวิตของเขาเคยได้รับสิ่งของล้ำค่ามากมาย ไม่เคยใส่ใจอะไรเลย แต่ดอกไม้จากลูกเลี้ยง กลับทำให้เขาอบอุ่นไปถึงหัวใจ
เอี๋ยนต้าฟาถูกชมจนหน้าแดง ยิ้มเขินๆพร้อมพูดขึ้นว่า “พ่อ แม่ล่ะ?”
“แต่งตัวอยู่ในห้องน้ำ” เซียวเซิ่งปักดอกไม้ไว้ในแก้วใบหนึ่ง พร้อมอดไม่ได้ที่จะบ่นให้ลูกฟังว่า “ไม่รู้ว่าหัวล้านเล็กของเธอนั้นมี
อะไรต้องแต่งหนักหนา ตั้งนานแล้วก็ยังไม่เสร็จ”
“วันนี้พ่อจะพาแม่ไปหาท่านย่าไม่ใช่หรือ แม่กลัวพ่อขายหน้า ดังนั้นจึงต้องตั้งใจแต่งตัว”
เอี๋ยนต้าฟาช่วยพูดแทนแม่ จากนั้นก็วิ่งไปในห้องน้ำเหมือนอย่างไก่น้อย ด้านหลังมีดอกกุหลาบสีแดงดอกหนึ่งซ่อนไว้ เขาไม่ได้ลำเอียง
มีทั้งของพ่อและแม่
เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนกำลังแต่งผมอยู่จริงๆ
เมื่อกี้พ่อบ้านเซี่ยเอาเสื้อผ้ากับเครื่องประดับหรูมาให้ เธอกำลังครุ่นคิดอยู่ว่าจะสวมยังไงดี แล้วก็มองเห็นลูกชายยื่นหน้ามาผ่านกระจก จึง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เรื่องวิวาห์ของเจ้าสาวจำเป็น