“หม่ามี๊ วันนี้จะไปส่งผมที่โรงเรียนกับแด๊ดดี้ใช่ไหม?”น้ำเสียงของเด็กน้อยเอ่ยถามด้วยความออดอ้อน
“ใช่!” เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนรีบตอบทันที เมื่อเธอลืมตาขึ้นพบว่าชุดนอนของเธอถูกเปิด ผิวพรรณเป็นสีชมพูเรื่อ ถูกฝ่ามือของสามีลูบไล้เสียจนแดง ช่างน่าอายจริง “ที่รักคะ คุณรีบ......ลุกขึ้นมา”
เซียวเซิ่งโอบกอดเธอไว้ในอ้อมแขน แล้วติดกระดุมให้เธออย่างใจเย็น “ไปล้างหน้าเถอะ”
“ต่อจากนี้ถ้าตอนลูกอยู่ อย่าแตะต้องฉันอีกนะ” เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนตะคอกออกมาเบาๆ แล้วเดินไปทางห้องน้ำด้วยเท้าเปล่า
“เรื่องนี้เธอจัดการได้หรือไงกัน?” เซียวเซิ่งยกมือขึ้นลูบผมสีดำขลับ และเดินตรงไปที่ประตูเพื่อให้ลูกชายเข้ามาข้างใน......
เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนยืนอยู่ด้านหลังประตูในห้องน้ำแล้วเงี่ยหูฟังเหตุการณ์ด้านนอก
พบว่าสองพ่อลูกสนทนากันได้ดีทีเดียว จึงรู้สึกโล่งใจและอารมณ์ดีไม่น้อย ชีวิตของเธอราวกับถูกคลุมไว้ด้วยชุดเกราะ ท่ามกลางการต่อสู้ ถังเหวยและเอียนหยู่โรวไม่ใช่ปัญหาเลย แต่สำหรับแม่สามีเธอ......เธอต้องใช้เล่ห์เหลี่ยมหน่อยแล้ว
หลังจากล้างหน้าล้างตาเสร็จ เซียวเซิ่งก็พาภรรยาและลูกไปรับประทานอาหารที่ร้านเก่าแก่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่ง พวกเขากินเกี๊ยวและซาลาเปาไส้อย่างมีความสุข ภาพอันอบอุ่นของทั้งสามคนดึงดูดสายตาผู้คนไม่น้อย
ตรงข้ามกับร้านอาหารมีรถมาเซราติสีทองจอดอยู่ เซี่ยจิ่นมองผ่านฉากนี้ด้วยแว่นตากันแดดของเธอแล้วอยากจะพาลูกชายออกมาเสียจริง
เธอไม่ชื่นชอบเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนอย่างมากจนเข้ากระดูกดำ คาดว่าชีวิตนี้คงไม่อาจพลิกผันสถานการณ์ได้
เซี่ยจิ่นนวดไปที่หัวคิ้วของเธอ แท้จริงแล้วเธอก็ไม่ใช่คนเลว และไม่อยากจะไปทำร้ายสองแม่ลูก เพียงแต่ว่าเธอไม่สามารถยอมรับเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนเป็นสะใภ้ได้ และจะไม่มีวันนั้นแน่นอน เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนอยากจะเข้ามาอยู่ในตระกูลเซียวเหรอ? ไม่มีทาง
เธอได้วางแผนในการจัดการเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนไว้สามอย่าง และหากไม่เป็นผล เธอก็จะใช้ความตายในการบีบบังคับ
ต่อให้เซียวเซิ่งจะเลือดเย็นเพียงใด คาดว่าคงไม่สามารถมองเห็นแม่ของตัวเองตายไปแบบนี้ได้ เขายังไม่ได้อกตัญญูถึงขั้นนี้......
ในขณะที่กำลังครุ่นคิดอยู่ โทรศัพท์มือถือของเธอก็ดังขึ้น
เซี่ยจิ่นหงุดหงิดมาก เธอกำลังจะวางสายลง แต่เมื่อพบว่าหมายเลขที่โทรมาขึ้นชื่อว่าพี่สาวใหญ่ เซี่ยจิ่นลนลาน เธอก็ถึงกับตกตะลึงแล้วรีบรับสายอย่างรวดเร็ว “พี่คะ”
“ถ้าไม่อยากรับสายก็กดวางไปสิ จะฝืนรับด้วยความรู้สึกเจ็บปวดแบบนี้ทำไม พอเธอรู้สึกแย่ เธอก็ไปเป่าล้มที่ข้างหูน้องชายฉัน และเขาก็ไม่ยอมรับพี่สาวคนนี้แล้ว ฉันกลัวจริง!” เซียวจวินหรูพูดจบก็วางสายลง
เซี่ยจิ่นทั้งโมโหและอับอาย จึงรีบโทรกลับทันที
เซียวจวินหรูไม่ใช่คนที่จัดการได้ง่ายดาย เธอไม่ชื่นชอบน้องสะใภ้คนนี้เสมอมา หลายต่อหลายหนที่เธอตั้งใจจะขัดขวางการแต่งงานของพวกเขา แต่ท้ายที่สุดแล้วน้องชายผู้น่าเบื่อก็แต่งงานกับเซี่ยจิ่น ด้วยความโมโหเธอจึงย้ายรกรากไปที่ต่างประเทศ
ดังนั้นทุกครั้งที่กลับมา เซียวจวินหรูจะทรมานเซี่ยจิ่นทุกวิถีทาง ทั้งกดขี่ข่มเหงทางจิตใจ ใช้วาจากระแทกแดกดัน สิ่งเหล่านี้เพียงพอแล้วที่จะเป็นฝันร้ายของเซี่ยจิ่น
ก่อนหน้าที่เธอจะแต่งงานกับเซียวจวินเซิง เธอรู้สึกดีที่เธอไม่ต้องมีแม่สามีคอยกดดันและคอยรับความโกรธเหล่านั้น ใครจะรู้เล่าว่าพี่สาวของเขาจะเป็นปรปักษ์กับเธอยิ่งเสียกว่าแม่สามีนับสิบคนเสียอีก หัวใจของเธอช่างเย็นชา
ผ่านไปเนิ่นนานทีเดียว เซียวจวินหรูจึงได้รับสายขึ้นด้วยความเมตตา เธอเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเฉียบขาดเย็นชาว่า “มีเรื่องอะไร?”
“ขอโทษค่ะพี่ ฉัน......”
“ฉันอะไร?” เซียวจวินหรูพูดขึ้นขัดคำพูดของเธอ แล้วตัดบทว่า “ฉันบอกแล้วใช่ไหมว่าให้รับสายฉันตั้งแต่วินาทีแรก”
“พี่คะ ขอโทษ เมื่อสักครู่ฉันขับรถอยู่เลยรับสายช้าไปหน่อย” เซี่ยจิ่นนยิ้มด้วยใบหน้าอันรู้สึกผิด ก่อนจะเอ่ยถามสารทุกข์สุกดิบต่าง ๆ นานา ท่าทางดูต่ำต้อยดุจดั่งผู้รับใช้ ไร้ซึ่งรัศมีของหญิงแกร่งไปอย่างสิ้นเชิง
“เอาเถอะ” เซียวจวินหรูพูดขัดเธอขึ้นอย่างรำคาญใจ “ฉันจะขึ้นเครื่องแล้ว บอกไม่ได้หรอกว่าเมื่อไหร่จะถึงจงโจว เธอไปรอรับฉันที่สนามบินตั้งแต่ตอนนี้ ถ้าฉันลงเครื่องเมื่อไหร่จะต้องเห็นเธอเป็นอันดับแรก อ้อ แล้วก็ช่วยโทรศัพท์เรียกเซียวจวินม่อกลับมาด้วยนะ บอกว่าฉันคิดถึงเขา แล้วครั้งนี้อย่าเผลอตัวเข้าไปในอ้อมกอดเขาอีก”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เรื่องวิวาห์ของเจ้าสาวจำเป็น