มือที่กำลังจะหยิบตะเกียบหดกลับเงียบๆ เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนเหลือบมองเซียวเซิ่งที่อยู่ด้านข้าง—
ทรงผมปาดหลังสุดโหด โครงหน้าเย็นชาเด็ดเดี่ยว ดวงตาหล่อเหลาเหี้ยมโหดและสูงส่ง ท่านั่งที่น่าเกรงขาม...การแสดงออกทุกอย่างแสดงให้เห็นว่าเขาคือผู้ล่าที่เก่งกาจที่สุด ทำให้คนหลีกเลี่ยงความเฉียบคมของเขาด้วยสัญชาตญาณ
เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนหัวใจบีบรัดอีกครั้ง ไม่ว่าก่อนหน้านี้ทั้งสองคนจะสวีทกันขนาดไหน เพียงแค่เซียวเซิ่งเคร่งขรึมขึ้นมา เธอจะหวาดกลัวเป็นพิเศษ
เธอกะพริบตาปริบๆ นึกอาการป่วยตั้งแต่เล็กจนโตขึ้นในหัว แล้วตอบอย่างว่าง่าย “โรคอื่นรักษาหายแล้ว เหลือแต่โรคตัดสินใจลำบาก”
นี่ถือว่าเป็นปัญหาทางจิตใจ รักษาได้ยาก
“เหรอ?” เซียวเซิ่งหยิบกุ้งมังกรขึ้นหนึ่งตัว เคาะน้ำออกเบาๆ แล้วปอกอย่างไม่รีบร้อน ไม่เอ่ยไม่ได้ แม้แต่การปอกกุ้งงานออกแรงแบบนี้เมื่ออยู่ในมือของเขากลายเป็นสง่างาม “หมายความว่า จนถึงตอนนี้เธอยังคิดไม่ได้ว่าจะเลือกใคร?”
อานฉุนซี สวี่เจียน โอเล่ย์ เซียวเซิ่ง ฉู่หยู้ซี เขาจัดอันดับเป็นคนที่สี่
ราชาขี้สงสัย เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนกลืนน้ำลาย มองไปทางสามีอย่างระมัดระวัง “เลือกได้แล้ว อีกอย่างเมื่อเลือกแล้ว จะไม่มีทางเปลี่ยนตัวเลือกอีกต่อไป”
มือของเซียวเซิ่งที่ปอกเปลือกอยู่หยุดชะงัก สายตาจ้องมองอาหารบนโต๊ะ ไม่ได้มองเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยน เขารู้ว่าตัวเองก็คือตัวเลือกนั้น แต่...
“เลือกใคร?”
“เซียวเซิ่ง”
“อืม” สีหน้าของผู้เสแสร้งยังคงเรียบเฉย เขาหยิบผ้าจากจานรองแล้วเช็ดมือ คางเซ็กซี่ชี้ไปทางเนื้อกุ้ง “กินซะ ในเมื่อเลือกยากก็ไม่ต้องเลือก ถามฉันก็พอ”
“รู้แล้ว” เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนมองไปทางจานที่มีหางกุ้งเหมือนกับแมกโนเลียขาว ไม่รู้ทำไม ในใจรู้สึกอุ่นใจเป็นพิเศษ เธอยัดเข้าปากทั้งหมด แก้มปูดออกมา เหมือนกับกระรอกดิน
“ตอนที่กินฉัน ทำไมไม่เห็นเธอกระตือรือร้นขนาดนี้?” น้ำเสียงของเซียวเซิ่งไม่ค่อยพอใจสักเท่าไหร่
ห๊ะ! เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนตกตะลึงกับคำพูดของเขาจนตัวชาไปหมด หน้าแดงก่ำ “เพราะว่า...ของนายใช้แรงกัดไม่ได้”
เฮือก! โอเล่ย์อดกลั้นจนเกือบจะช้ำใน วิธีแสดงความรักของสามีภรรยาคู่นี้พิเศษจริงๆ งงไปหมดแล้ว!
เซียวเซิ่งถูกคำตอบของเธอทำให้สีหน้าเปลี่ยนไป ใบหูแดงระเรื่อเป็นแถบ ผู้หญิงของเขาพูดเก่ง ทุกประโยคที่พูดออกมาสอดคล้องกับหัวใจของเขาเป็นพิเศษ
เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนทานอาหารอย่างจริงจัง ฟันบดอาหารส่งเสียงไพเราะออกมา และยังไม่ลืมที่จะคีบเนื้อวัวให้สามี
เซียวเอินดวงตาเผยรอยยิ้ม คีบเนื้อวัวใส่ปาก และเคี้ยวอย่างสง่างาม ยกน้ำแครนเบอร์รี่ขึ้นดื่ม จากนั้นยื่นให้เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยน “เปรี้ยวหน่อยนะ”
“ฉันไม่กลัวเปรี้ยว” เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนรับมาแล้วจิบเบาๆ “รองโอ ช่วงบ่ายฉันจะออกไปตัดชุดราตรี ขอลางาน”
“ได้ รอตำแหน่งใหม่เรียบร้อยแล้วค่อยมาทำงาน ฉันหาวิธีช่วงชิงตำแหน่งเสมียนให้เธอ” โอเล่ย์พยักหน้า สายตาที่มองไปทางเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนเต็มไปด้วยความหมายลึกซึ้งมากมาย “เมื่อเลือกแล้ว ไม่มีทางเปลี่ยนตัวเลือกอีกต่อไป” คำพูดนี้ของเธอน่ารักจริงๆ ประธานต้องดีใจมากล่ะสิ?
“ลองชิมดูทุกอย่าง รสชาติไหนถูกปากเธอ ก็เน้นไปทางนั้น” เซียวเซิ่งคีบอาหารให้เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนต่อ ทั้งๆ ที่อาหารอยู่ตรงหน้าเธอ
“อืม” เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนไม่ปฏิเสธ “อันที่จริงเป็นพนักงานทำความสะอาดที่นี่ก็ดีนะ คนเราหาเงินก็เพื่ออยู่กินไม่ใช่เหรอ อาหารพนักงานของเอ็นซี กรุ๊ปหลากหลายขนาดนี้ แค่กินอย่างเดียวก็คืนทุนแล้ว”
“อร่อยขนาดนี้จริงๆ เหรอ?” เห็นอาหารที่ประธานคีบให้เธอทานหมดแล้ว โอเล่ย์กังวลว่าเธอจะอิ่มจนมากเกินไป
“อร่อยจนกระเพาะของฉันจุไม่ได้แล้ว ฉันแทบจะลืมเรื่องที่ตัวเองสอบได้ศูนย์คะแนนแล้วด้วยซ้ำ”
โอเล่ย์ยิ้มบาง เด็กคนนี้กล่อมได้ง่ายมาก เพราะว่าทานอาหารที่พึงพอใจหนึ่งมื้อ เงามืดของศูนย์คะแนนก็หายไปทั้งแบบนี้
“งั้นมีอะไรที่อยากกินเป็นพิเศษอีกไหม?” เซียวเซิ่งวางตะเกียบลงแล้วถาม
เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนกลอกตาครุ่นคิด “ถ้าหากพูดว่าอยากกินเป็นพิเศษ นั่นก็คือก๋วยเตี๋ยววุ้นเส้นต้มยำเนื้อ”
“ก๋วยเตี๋ยววุ้นเส้นต้มยำเนื้อ?” เซียวเซิ่งไม่เคยกินของพวกนี้จริงๆ แต่ว่าภรรยาอยากกิน เขาก็จะต้องลองดูหน่อย สามีภรรยารสนิยมคล้ายกัน ช่วงชีวิตถึงจะยาวนาน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เรื่องวิวาห์ของเจ้าสาวจำเป็น