เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนเล่าเรียนสาขา Wedding Planner ที่ต่างประเทศ ก่อนจะกลับประเทศก็ถูกใจบริษัท Wedding Planner แห่งหนึ่งที่ชื่อว่า “พบรัก” จึงยื่นประวัติส่วนตัวไป
สวี่เจียนใช้อำนาจเล็กน้อย เธอจึงถูกรับเข้าทำงานโดยไม่ได้ผ่านการสัมภาษณ์
แน่นอนว่า เสี่ยวเนี่ยนไม่ได้มีความขี้เกียจหย่อนยานเพราะมีรองผู้บัญชาการคนนี้คอยให้การสนับสนุนแม้แต่น้อย
เธอตื่นแต่เช้าตรู่ อุ้มลูกชายที่กำลังหลับสนิทไปสอดไว้ใต้ผ้าห่มอูเจินจู ค่อยไปห้องครัวทำอาหารเช้าทิ้งไว้ให้สองคนนั้นกินตอนตื่น จากนั้นก็อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ถือกระเป๋าออกจากห้องไป
เพิ่งจะลงไปถึงข้างล่าง ก็เห็นสวี่เจียนที่สวมชุดลำลองพิงประตูรถสูบบุหรี่อยู่
สวี่เจียนเป็นหนุ่มหล่อตามมาตรฐานคนหนึ่ง คิ้วกระบี่ นัยน์ตาลึก โครงหน้าเหลี่ยมหนักแน่นและเด็ดเดี่ยว สูงหนึ่งร้อยแปดสิบเซนติเมตร ไหล่กว้างเอวสอบ ทั่วทั้งร่างแผ่กลิ่นอายความรู้สึกมั่นคงและมีมาดของชายชาตรี
การประกอบอาชีพเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างยาวนานทำให้เขามีแข็งแกร่งไม่ย่อท้อ ทั้งยังกล้าหาญเป็นพิเศษ เมื่อสวมเครื่องแบบแล้วองอาจอย่างไม่ธรรมดา เป็นตัวเลือกสามีในอุดมคติของสุภาพสตรีที่ยังไม่แต่งงาน
“พี่คะ กินข้าวเช้ารึยัง”
“ยังเลย” สวี่เจียนรีบดับบุหรี่ พ่นควันที่เหลืออยู่ในปาก จับจ้องหญิงสาวด้วยแววตาลึกซึ้ง หัวใจก็อุ่นร้อน
เสี่ยวเนี่ยนแต่งตัวเรียบง่าย เสื้อเชิ้ตสีขาว กระโปรงคลุมเข่า ผูกผมหางม้า ดวงหน้าไร้เครื่องสำอางงดงามสะอาดสะอ้าน นัยน์ตากลมตาคู่สวยทอประกายลึกซึ้ง สวยงามจนทำให้ผู้คนประทับใจ
ตอนที่พบกันครั้งแรก เธอเพิ่งจะอายุสิบหกสิบเจ็ดปี แม้ว่าตอนนี้จะเป็นแม่คนมาหลายปีแล้ว แต่ก็ยังคงบริสุทธิ์ไร้เดียงสา ทำให้ผู้คนเอ็นดู เขาชอบมาก
“ฉันทำอาหารเช้า เอามาให้พี่ด้วย” เมื่อขึ้นรถ เสี่ยวเนี่ยนก็หยิบกล่องข้าวออกมายื่นให้กับสวี่เจียน
“ภรรยาทำ พี่ไม่เกรงใจแล้วนะ” สวี่เจียนคีบเกี๊ยวทอดขึ้นมาป้อนเสี่ยวเนี่ยนก่อนคำหนึ่ง จากนั้นค่อยยัดเข้าปาก กัดเบาๆและเพลิดเพลินไปกับมัน “อร่อยมาก”
เสี่ยวเนี่ยนกัดเกี๊ยวแล้วก็หัวเราะพรืดออกมา “ภรรยาอะไรคะ เป็นถึงร้อยตำรวจเอก ก็ปั้นน้ำเป็นตัวเป็นด้วยหรอคะ”
“เป็นเรื่องที่ไม่ช้าไม่เร็วก็ต้องเกิดขึ้น” คิ้วกระบี่ของสวี่เจียนเลิกขึ้น ตัดสินใจว่าจะต้องได้มา
“ฮ่าๆ” เสี่ยวเนี่ยนไม่ได้ปฏิเสธ ริมฝีปากได้รูปโค้งขึ้นเล็กน้อย เมื่อยิ้มขึ้นมาก็ริมฝีปากก็แดงระเรื่อเป็นพิเศษ สวี่เจียนเห็นแล้วก็ใจลอย
“เนี่ยนเอ๋อร์ พรุ่งนี้ทำเกี๊ยวอีกนะ อร่อยมากเลย กินทั้งชาติก็ไม่พอ”
“อืม”
เมื่อไปถึงบริษัทพบรัก เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนเพิ่งจะลงจากรถ ก็มีรถสปอร์ตแลมโบกินี่สุดหรูคันหนึ่งจอดอยู่ข้างเธอ
“คุณเอี๋ยน คุณมาแล้วหรอคะ” ผู้จัดการพาพนักงานหลายคนออกมาต้อนรับด้วยความกระตือรือร้นเป็นอย่างมาก
เสี่ยวเนี่ยนนึกว่ากำลังพูดกับเธอ ขณะที่คิดจะตอบ ก็เห็นผู้จัดการโค้งตัวเปิดประตูรถแลมโบกินี่ พลางยื่นแขนออกไป ท่าทีเช่นนี้ราวกับขันทีปรนนิบัติพระนางซูสีไทเฮา เห็นได้ชัดเลยว่าคนในรถนั้นสูงศักดิ์เพียงใด
“พวกเราเข้าไปกันเถอะ” สวี่เจียนไม่อาจทนดูท่าทีเช่นนี้ได้ จึงดึงเสี่ยวเนี่ยนเข้าไปในห้องโถงด้วยสีหน้าเย็นชา
เสี่ยนเนี่ยนอดไม่ได้ที่จะอยากรู้อยากเห็น เหลือบตามองดูอย่างเร่งรีบ ก็เห็นเรียวขาเพรียวบางขาวราวกับหิมะยื่นออกมาจากด้านในรถ
“ตึก!” เสียงรองเท้าหนังฝังอัญมณีคู่งามกระทบกับพื้นดังขึ้น ต่อมา หญิงสาวที่สวมเดรสสั่งตัดตัวยาวคนหนึ่งก็ยืนอยู่ใต้แสงอาทิตย์ สวมแว่นกันแดด เชิดคางขึ้นสูงอย่างดูแคลนทุกสิ่งบนโลก
“คุณเอี๋ยน ยินดีกับการแต่งงานด้วยค่ะ!”
เหล่าพนักงานพากันย่อตัวลงจัดชายกระโปรงให้เธอ และปรนนิบัติคนมีเงินด้วยความรอบคอบ “พวกเราเชิญอาจารย์ที่จะวางแผนการจัดงานแต่งงานชั้นยอดมาให้คุณสิบท่าน เพื่อติดตามงานแต่งของคุณเป็นพิเศษ”
เอี๋ยนหยู่โรวดึงแว่นกันแดดลงมาเล็กน้อย หางตาชี้ขึ้นเป็นรอยยิ้มประหลาด “เมื่อครู่ผู้หญิงที่เดินเข้าไปกับรองผู้บัญชาการคนนั้นทำหน้าที่อะไร”
“อ่อ เธอหรอคะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เรื่องวิวาห์ของเจ้าสาวจำเป็น