“ปึง--”
วันวิวาห์ตบลงบนโต๊ะชา : “ไม่อนุญาตให้ใส่ร้ายพ่อแม่ฉัน!”
หน้าอกของเธอขึ้นลงอย่างรุนแรง เอ่ยพูดขึ้นทีละคำทีละประโยค : “ที่คุณพูดมาฉันไม่เชื่อ!”
“ไม่เชื่อแล้วเธอจะโมโหอะไรล่ะ?”
เทียนแขหยิบรูปถ่ายใบหนึ่งออกมาจากกระเป๋าแล้วโยนลงบนโต๊ะ : “ฉันใส่ร้ายหรือเปล่า เธอดูรูปนี้ก็รู้แล้ว รูปถ่ายอยู่ในอัลบั้มรูปของคุณท่านที่ฉันหาเจอมา คำพูดพวกนี้ฉันเองก็ไม่ได้แต่งออกมาอย่างตามใจด้วย คุณท่านเป็นคนพูดออกมาเอง ฉันก็แค่แอบได้ยินมาอย่างไม่ทันได้ระวังตอนอยู่ข้างนอกแค่นั้น”
วันวิวาห์ไม่ได้หยิบรูปถ่ายใบนั้น เพียงแค่ก้มลงมอง ก็รู้สึกตกตะลึง
รูปถ่ายที่อยู่ในรูปนั้นให้ความรู้สึกที่ดูเก่ามาก สไตล์การถ่ายรูปนั้นเป็นเทคนิคเมื่อยี่สิบกว่าปีก่อน
เจ้าของรูปนั้นมีกลิ่นอายสไตล์แบบโบราณ แต่ใบหน้านั้นคล้ายกับวันวิวาห์มาก!
เทียนแขเบะปาก : “นอกจากนี้ จากที่ว่ากันว่ายังมีจี้หยกที่เป็นหลักฐานยืนยันอะไรนั่นอีก ได้ยินว่าผู้หญิงคนนั้นชื่อมีคำว่า‘วิ’แต่ถึงยังไงก็ไม่มีคนรู้จัก แล้วก็ไม่รู้ด้วยว่าต่อมาไปอยู่ในคุกที่ไหน ตอนนี้ตายหรือเป็น......”
วันวิวาห์ฟังอย่างอึ้งๆ ความคิดค่อยๆสับสนวุ่นวายขึ้นมาแล้ว
ข่าวคราวข้อมูลที่เทียนแขให้มานั้น กับที่คุณปู่บอกเธอไม่คิดว่าจะเหมือนกัน
เธอกำมือแน่นอย่างไม่รู้ตัว : “พวกนี้ล้วนแต่เป็นสิ่งที่คุณคาดเดาและได้ยินมา คุณไม่ได้มีหลักฐานพิสูจน์ความจริงเลยด้วยซ้ำ ยังมีอะไรอีกก็พูดออกมาให้หมดทีเดียวเลยดีกว่าค่ะ เลี่ยงครั้งหน้าจะต้องมาพูดถึงเรื่องที่ไม่มีประโยชน์พวกนี้อีก เสียเวลากันทั้งสองฝ่ายเปล่าๆ”
เทียนแขรู้สึกโมโหแล้ว จ้องมองวันวิวาห์อย่างไม่พอใจ : “เธอจะเชื่อไม่เชื่อก็แล้วแต่ สิ่งที่ฉันควรพูดฉันพูดไปหมดแล้ว ที่เหลือก็รอเลนไทน์ออกมาแล้วฉันจะบอกเธอ มิเช่นนั้นแล้ว เรื่องเกี่ยวกับพ่อแม่แท้ๆของเธอ ทั้งชีวิตนี้เธออย่าคิดอย่าฝันเลยว่าจะได้ยินมันจากฉันอีกแม้แต่คำเดียว”
ทิ้งคำพูดเอาไว้ เธอก็คว้ากระเป๋าขึ้นมาแล้วเดินออกไปทางด้านนอกประตู
ดึงประตูเปิด เตรียมจะก้าวออกไป ก็เห็นร่างสูงใหญ่และเย็นชาหล่อเหลาร่างหนึ่งยืนอยู่ตรงหน้าประตู
เทียนแขรู้สึกอึ้งไป
ทั้งสองคนสบตากัน
เทียนแขลนลานไปก่อนแล้ว : “แสง..... แสงใต้ ทำไมแกมาอยู่ที่นี่?”
“แม่ล่ะ?ทำไมมาอยู่ที่นี่?”
“ฉัน.....ฉันกับวิวาห์ไม่ได้เจอกันนานแล้ว ก็เลยมาดื่มชากัน....”
ดวงตาของแสงใต้เต็มไปด้วยความผิดหวัง : “แม่รู้สึกว่าผมโง่ใช่ไหมครับ?”
“ลูก.....”
แสงใต้ถอยหลังไปก้าวใหญ่ ทำให้มือที่ยื่นออกมาจะดึงมือของเขาคว้าความว่างเปล่าเอาไว้แทน
“ทุกคำพูดที่แม่พูดอยู่ในห้องผมได้ยินมันอย่างชัดเจนหมดแล้ว เดิมทีแล้วผมยังรู้สึกว่ามันแปลก วิวาห์กับเลนไทน์ก็เป็นน้องสาวผมเหมือนๆกัน ทำไมการปฏิบัติถึงได้แตกต่างกันมากขนาดนี้ ที่แท้นี่ก็คือความจริงนี้เอง”
“แสงใต้ไม่ใช่แบบนี้นะ คือ......”
“คืออะไรไม่สำคัญหรอกครับ ที่สำคัญคือในใจของผมวันวิวาห์ก็คือน้องสาวแท้ๆของผมตลอดไป ใครรังแกเธอ ผมก็ไม่จบง่ายๆอยู่แล้ว”
เทียนแขรู้สึกตกตะลึงกับความจริงจังและความน่ากลัวของลูกชายแบบนี้
และซักพักหนึ่งถึงได้ดึงสติกลับมา แล้วความโมโหถึงได้ประดังเข้ามา : “แสงใต้ แกถูกผู้หญิงคนนี้ยั่วยวนจนหลงใหลแล้วก็ล้างสมองไปแล้วใช่ไหม? เธอไม่ใช่น้องสาวของแก น้องสาวแท้ๆของแกตั้งแต่แรกจนถึงตอนนี้มีเพียงแค่เลนไทน์คนเดียวเท่านั้น!”
“น้องสาวที่ร้ายกาจแบบนั้น ถึงแม้จะมีความสัมพันธ์ทางสายเลือด ไม่เอาก็เท่านั้น ความรู้สึกของวิวาห์กับพวกเราอยู่ด้วยกันมาเป็นยี่สิบกว่าปี จะเทียบไม่ได้กับวาเลนไทน์ที่ในใจไม่ได้มีความรักครอบครัวอยู่เลยอย่างนั้นเหรอครับ?!”
“แกหุบปาก!”
เทียนแขถูกลูกชายทำให้โมโหเสียจนตาแดงไปหมด : “แสงใต้ แกเก่งนี่! มีความสามารถแกก็อยู่กับนั่งเด็กนี่ไป แล้วอย่ามาเรียกฉันว่าแม่!”
เธอจ้องมองวันวิวาห์ด้วยความเกลียดชัง : “เลนไทน์ไม่ออกมา ชีวิตนี้ก็รอเป็นลูกนอกคอกที่ไม่มีใครต้องการตลอดไปก็แล้วกัน ฉันตายก็จะไม่บอกแก!”
วันวิวาห์กำหมัดแน่น
เทียนแขผลักลูกชายร่างสูงออก แล้วก้าวยาวๆออกไป
ด้านในและนอกประตู วันวิวาห์กับแสงใต้เผชิญหน้ากันด้วยความเงียบ
ขอบประตูที่ไม่ได้เป็นรูปเป็นร่าง เหมือนกับกั้นทั้งสองคนเข้ามาในโลกทั้งสองใบ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เสพรักร้อน กลางใจตัวพ่อ