ภพนี้ตราบภิรมย์รัก นิยาย บท 97

หลี่เล่อหย่าเกิดทิฐิมานะ “เจ้าพูดไร้สาระอะไร พี่ชายข้าไปสบประมาทอะไรเจ้า”

“หลินเมิ่งหวัน เจ้าอย่ามาทำเป็นพูดดีหน่อยเลย ผู้หญิงหยำฉ่าไร้การศึกษาอย่างเจ้าน่ะ พี่ชายของข้าจะไปสนใจได้อย่างไร ที่เขาต้องไปพัวพันกับเจ้าไม่ใช่เพราะว่าเจ้ามายั่วเขาทั้งวันหรอกรึ! ดูท่าทางของเจ้าตอนนี้สิ หรือว่าคิดจะเข้าวังมายั่ว...”

“เล่อหย่า!” ฉีซือเหมี่ยวรีบเข้ามาคว้าแขนหลี่เล่อหย่าอย่างกังวล ขัดจังหวะคำพูดของนางและส่งสายตาเป็นสัญญาณให้นางเงียบ

ที่นี่คือพระราชวัง จะพูดทุกอย่างออกมาโดยไม่ยั้งคิดแบบนี้ได้อย่างไร

ทว่าหลินเมิ่งหวันไม่ได้มีทีท่าโกรธเคืองเลยแม้แต่น้อยหลังจากฟังคำด่าของหลี่เล่อหย่า กลับกัน รอยยิ้มบนใบหน้าของนางกลับยิ่งงดงามมากขึ้น

หลินเมิ่งหวันเอ่ยพร้อมกับแย้มริมฝีปาก “ดูเหมือนในสายตาของคุณหนูหลี่ ข้าจะไม่มีค่าอะไรเลยสินะ”

“เฮอะ แม้แต่เจ้าก็ยังไม่รู้ด้วยซ้ำรึว่าตัวเองเป็นอะไร” หลี่เล่อหย่ามองหลินเมิ่งหวันอย่างรังเกียจ “ในเมืองหลวงมีใครบ้างที่ไม่รู้ว่าหลินเมิ่งหวันเป็นคนเย่อหยิ่งจองหอง โง่เง่าไร้การศึกษา”

“แล้วเจ้ายังกล้าลงมือกับพี่ชายของข้า หรือเจ้าลืมไปแล้วว่าก่อนหน้านี้เจ้าเคยตามตื๊อพี่ชายของข้าทั้งวัน ขอให้เขาเหลือบมองเจ้าบ้าง”

“เล่อหย่า! หยุดพูดได้แล้ว” ฉีซือเหมี่ยวแทบจะอุดปากของหลี่เล่อหย่าเอาไว้เสียเดี๋ยวนั้น

ทว่านางเองก็จ้องมองหลินเมิ่งหวันราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ ในแววตามีทั้งความอิจฉาริษยาและความเกลียดชัง

หลินเมิ่งหวันยิ้มและบอกว่า “อย่าหยุดพูดเลย ในเมื่ออยากพูด ก็พูดให้จบเสียเลยจะดีกว่า”

“คุณหนูหลี่ยังมีสิ่งใดที่อยากจะพูดอีกหรือ เมิ่งหวันจะตั้งใจฟังเป็นอย่างดี” หลินเมิ่งหวันเอ่ยอย่างใจเย็น บนใบหน้าแต่งแต้มไปด้วยรอยยิ้มจางๆ ทำให้หลี่เล่อหย่ารู้สึกราวกับว่าหลินเมิ่งหวันกำลังมองนางอย่างตลกขบขัน

นางยิ่งโกรธและตวาดอย่างโมโหว่า “หลินเมิ่งหวัน เจ้าก็แค่มีเงินเหม็นเน่าๆ ไม่กี่มากน้อย วันๆ เอาแต่แต่งเนื้อแต่งตัว พฤติกรรมไม่ต่างอะไรกับพวกที่ได้ดีปุบปับ!”

“แต่ไม่ว่าจะแต่งตัวอย่างไร เจ้าก็น่าจะรู้ว่าวันนี้มาที่นี่ในโอกาสอะไรมิใช่รึ แต่งตัวแบบนี้มาได้อย่างไร ดูอย่างกับหญิงนางโลม!”

หลี่เล่อหย่าจ้องมองหลินเมิ่งหวันอย่างคับแค้นใจ

ชุดที่หลินเมิ่งหวันสวมใส่วันนี้สวยงามมากจริงๆ และนี่ก็เป็นครั้งแรกที่หลี่เล่อหย่าและคนอื่นๆ ที่มารวมงานได้เห็น

ชุดที่หลินเมิ่งหวันสวมใส่ดูเผินๆ เหมือนจะเรียบง่าย แต่การตัดเย็บทำมาอย่างดีเป็นพิเศษ ชุดนี้ดูคล้ายกับชุดกระโปรงทรงสูงเล็กน้อย แต่ที่แตกต่างกันคือโบว์ทรงหูกระต่ายขนาดใหญ่ที่พาดอยู่ตรงหน้าอกชุด

หูกระต่ายทั้งสองข้างติดอยู่บนแขนที่ขาวนวลและเล็กเรียวของหลินเมิ่งหวัน เผยให้เห็นไหล่กลมมนของนางอย่างชัดเจน

แคว้นตงเยว่เป็นแคว้นที่เปิดกว้างและอุดมสมบูรณ์ นอกจากนี้ยังไม่มีข้อจำกัดมากนักสำหรับการแต่งกายของสตรี

แต่ในฐานะสตรีที่สุภาพเรียบร้อย ผู้หญิงจึงไม่ควรสวมชุดที่ดูเปิดเผย

ชุดของหลินเมิ่งหวันตัวนี้ดูเปิดเผยเกินขอบเขตไป ดังนั้นหลี่เล่อหย่าย่อมไม่ปล่อยโอกาสที่จะกำราบหลินเมิ่งหวันไปแน่

ทว่าเมื่อได้ฟังคำพูดของหลี่เล่อหย่า รอยยิ้มของหลินเมิ่งหวันก็ยิ่งสดใสขึ้นกว่าเดิม

เมื่อเริ่มสัปหงกก็จะมีคนเอาหมอนมาให้จริงๆ ด้วย... หลินเมิ่งหวันมีความสุขจริงๆ ที่หลี่เล่อหย่าเป็นฝ่ายมาติเตียนชุดของนางด้วยตัวเอง

หลี่เล่อหย่าขมวดคิ้วมองหลินเมิ่งหวันอย่างสงสัย “เจ้ายิ้มอะไร”

นางอดสงสัยไม่ได้ว่าหลินเมิ่งหวันถูกนางด่าจนโง่หรือเปล่า เหตุใดนางจึงไม่โกรธเลย แถมยังยิ้มอยู่ได้อีก

หลินเมิ่งหวันเอ่ยยิ้มๆ ว่า “คุณหนูหลี่ช่างฝีปากดีจริงๆ ข้ามีเงินจริงๆ และข้าก็ชอบแต่งตัวด้วย เพียงแต่เสื้อผ้าของข้ามีตรงไหนไม่เหมาะสมงั้นหรือ”

หลินเมิ่งหวันจงใจถามคำถามนี้และอ้าแขนให้เปิดกว้าง ราวกับกำลังอวดรูปลักษณ์ให้ดูอย่างใจกว้าง ให้ทุกคนตัดสินกันได้

“คุณหนูหลี่บอกว่าข้าแต่งตัวเหมือนกับหญิงนางโลมใช่หรือไม่” หลินเมิ่งหวันมองหลี่เล่อหย่าราวกับกำลังยิ้ม “ดูเหมือนคุณหนูหลี่จะรู้เรื่องหญิงนางโลมดีสินะ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ภพนี้ตราบภิรมย์รัก