หวังชาวเป็นใคร หลินเหมี่ยวเหมี่ยวจะไม่รู้อย่างนั้นเหรอ?
ก็เพราะรู้และเข้าใจดี เธอถึงมั่นใจว่าบัตรเชิญในมือของหวังชาวเป็นของปลอม
หวังชาวมีสถานะอะไร? เขามีสิทธิ์เข้าร่วมกิจกรรมระดับสูงแบบนี้ได้เหรอ?
อย่ามาล้อเล่นเลย
ได้ยินหลินเหมี่ยวเหมี่ยวกระซิบกระซาบ สีหน้าของหวังชาวค่อยๆ หม่นหมอง
ยังตามหลอกหลอนไม่เลิกจริงๆ
“หลินเหมี่ยวเหมี่ยว เธอทำแบบนี้มันสนุกเหรอ?”
หวังชาวถามด้วยเสียงจริงจัง
“ทำไมถึงไม่สนุกล่ะ? หวังชาว หรือว่านายกลัวโดนจับได้แล้ว?”
“ฉันว่านะต่อให้บัตรเชิญในมือนั้นของนายเป็นของจริง ก็ต้องขโมยมาแน่นอน!”
“นายมีสถานะอะไรฉันจะยังไม่รู้หรือไง? ทั่วทั้งตัวมีเงินอยู่ไม่เท่าไร จะมีสิทธิ์มาสถานที่แบบนี้? นายกล้าทำเรื่องแบบนี้ออกมาได้ยังไงกัน?”
หลินเหมี่ยวเหมี่ยวหน้าตาเหยียดหยามเต็มที่ พูดเยาะเย้ยไม่หยุด
หลังพูดจบ เธอก็หันหน้าไปพูดกับพนักงานรักษาความปลอดภัยสองสามคนนั้น “ฉันเตือนพวกนายนะว่าดีที่สุดคือตรวจให้ชัดเจน! นายดูการแต่งตัวของเจ้าหมอนี่ เป็นของข้างทางทั้งตัว คนแบบนี้มีสิทธิ์เป็นแขกวีไอพีของพวกนายได้เหรอ?”
“ถึงตอนนั้นมีข้าวของมีค่าอะไรหายไป อย่ามาโทษว่าฉันไม่เตือนสติพวกนายแล้วกัน”
พนักงานรักษาความปลอดภัยคนนั้นขมวดคิ้วแน่น ลังเลอยู่บ้าง ไม่รู้ว่าควรจัดการอย่างไร
“คุณผู้ชายครับ ผมขอเชิญให้คุณไปตรวจสอบกับพวกเราดูสักหน่อยที่ห้องรักษาความปลอดภัย ถ้าคุณบริสุทธิ์จริง ผมจะขอโทษคุณด้วยตัวเองครับ”
พนักงานรักษาความปลอดภัยคนนั้นครุ่นคิดครู่หนึ่ง จึงบอกกับหวังชาวไป
หวังชาวยักคิ้วเบาๆ บัตรเชิญของเขาเป็นลู่อี้เข่อให้เขามา จะเป็นของปลอมได้อย่างไร
“หวังชาว ฉันขอแนะนำนายดีที่สุดก็ยอมรับซะตอนนี้เลย ถึงตอนนั้นพอตรวจสอบออกมาได้จริงๆ โดนจับเข้าคุกไป ไม่มีใครดูแลแม่นายแล้วนะ”
รอยยิ้มเย้ยหยันบนหน้าหลินเหมี่ยวเหมี่ยวยิ่งเด่นชัดขึ้นเรื่อยๆ
“เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”
ในเวลานี้เอง ชายวัยกลางคนที่สวมชุดสูทสีดำคนหนึ่งมองเห็นทางนี้โต้แย้งกันขึ้นมาแล้ว จึงขมวดคิ้วขึ้น แล้วเดินเข้ามาถามด้วยเสียงจริงจัง
“สวัสดีครับผู้จัดการหวาง” พนักงานรักษาความปลอดภัยคนนั้นมองเห็นชายวัยกลางคน ท่าทางดูเคารพนอบน้อมขึ้นมาทันที
หลี่ฮุยก็รู้จักผู้จัดการหวางคนนี้เหมือนกัน เป็นผู้รับผิดชอบงานเลี้ยงการกุศลงานนี้
เขาเดินเข้ามาสองก้าวแล้วกล่าวว่า “ผู้จัดการหวาง เรื่องมันเป็นแบบนี้ครับ พวกเราสงสัยว่าบัตรเชิญในมือเจ้าหนุ่มคนนี้เป็นของที่ขโมยมา หวังว่าพวกคุณจะตรวจสอบแบบจริงจังดูสักหน่อย เลี่ยงที่จะสร้างความเสียหายอย่างไม่จำเป็น”
ฟังคำพูดพวกนี้อยู่ ผู้จัดการหวางสีหน้าเคร่งขรึมทันที
จากนั้นหันหน้ามองทางหวังชาวแล้ว
เสี้ยววินาทีที่มองเห็นหวังชาวนั้น ท่าทางของเขาดูตกตะลึงทันใด
“คุณ......คุณหวัง ทำไมถึงเป็นคุณ?”
ชั่วขณะหนึ่งบนใบหน้าเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้ม ท่าทางก็เคารพนอบน้อมขึ้นมาในชั่วพริบตา
สายตาหวังชาวมองไปทางผู้จัดการหวางเหมือนกัน
เขารู้จักคนนี้ เมื่อไม่กี่วันก่อนตอนที่เขารักษาอาการป่วยให้อู๋เจิ้นสงที่โรงพยาบาล คนผู้นี้ก็ติดตามอยู่ด้านข้างด้วย
ดูเหมือนจะเป็นคนสนิทของอู๋เจิ้นสง
“ผมมาด้วยกันกับเพื่อน แต่คนพวกนี้กลับบอกว่าบัตรเชิญของผมเป็นของปลอม!”
หวังชาวเผยรอยยิ้มเยาะเย้ยออกมา เสียงดูแผ่วเบา
“อะไรนะ?”
สีหน้าผู้จัดการหวางตกใจ ชั่วขณะนั้นสายตามีแสงเย็นเยือกกราดยิง
หวังชาวเป็นใครกัน?
เขาไม่เพียงเป็นผู้มีพระคุณของเถ้าแก่อู๋เจิ้นสง
ยิ่งเป็นเพื่อนของคุณหนูอู๋เฟียหลินด้วย
เป็นแขกผู้มีเกียรติระดับวีไอพีโดยแท้!
สมควรได้รับการปรนนิบัติเป็นอย่างดีที่สุด
“คุณหวังเป็นแขกของท่านอู๋ เมื่อกี้ใครบอกว่าบัตรเชิญเขาเป็นของปลอม?”
ผู้จัดการหวางสีหน้าเย็นชา เสียงพูดเย็นเยือก
พนักงานรักษาความปลอดภัยคนนั้นตกใจจนสีหน้าซีดเผือด เหงื่อผุดเต็มหน้า
“ผู้......ผู้จัดการหวางครับ ไม่ใช่ผม เป็นไอ้เวรสองคนนี้กำลังใส่ร้ายคุณหวังครับ ผมจะเรียกคนมาไล่พวกเขาออกไปเดี๋ยวนี้ครับ!”
พนักงานรักษาความปลอดภัยคนนั้นสีหน้าดูแย่อย่างยิ่ง นำคนมาอยากจะไล่หลี่ฮุยกับหลินเหมี่ยวเหมี่ยวสองคนนี้ออกไป
เห็นเหตุการณ์ฉากนี้ ลูกตาของหลินเหมี่ยวเหมี่ยวกับหลี่ฮุยเกือบจะถลนออกมา
นี่แม่งกำลังล้อฉันเล่นงั้นเหรอ?
คาดไม่ถึงบัตรเชิญเป็นของจริง?
ไอ้ขยะคนนี้คาดไม่ถึงเป็นแขกผู้มีเกียรติของงานเลี้ยงคืนนี้จริง?
โดยเฉพาะยังเป็นแขกที่สมควรได้รับการปรนนิบัติอย่างดีที่สุดประเภทนั้นอีกด้วย!
“ไม่! เป็นไปไม่ได้ ฉันไม่เชื่อว่านี่คือของจริง”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เทียบท้ายุทธเวท
รอครับ...
รอครับ...
รอตอนต่อไปอยู่นะคะ...