เทียบท้ายุทธเวท นิยาย บท 27

“คุณหวังครับ ผมยังมีธุระนิดหน่อย ขอตัวก่อนนะครับ ใช่แล้ว นี่คือนามบัตรผม ถ้ายังเกิดเรื่องแบบเมื่อกี้นี้ขึ้นอีก คุณสามารถโทร.หาผมได้ทันทีเลย”

ผู้จัดการหวางท่าทางสุภาพเรียบร้อย โค้งตัวลงครึ่งหนึ่งแล้วพูดขึ้น

“รบกวนแล้วนะครับ”

หวังชาวรับนามบัตรมา พยักหน้าเล็กน้อย

หลังจากแยกย้ายกับผู้จัดการหวาง หวังชาวก็ไม่รู้สึกอยากอาหาร จึงนั่งลงตำแหน่งก่อนหน้านี้รอคอยลู่อี้เข่อ

รออยู่ไม่กี่นาที ในที่สุดลู่อี้เข่อก็กลับมาแล้ว

“คุณหวัง ให้คุณรอนานมากเลย”

ลู่อี้เข่อนั่งลงด้านข้างของหวังชาวด้วยความรู้สึกผิดอยู่บ้าง

หวังชาวส่ายหน้า “ไม่เป็นไรครับ ใช่แล้ว คุณเจอเพื่อนคุณแล้วหรือยัง?”

“ได้เจอแล้วค่ะ แต่ว่าหล่อนมีธุระต้องกลับไป ไม่อย่างนั้นฉันจะได้แนะนำให้คุณรู้จักหน่อย”

ลู่อี้เข่อยิ้มตอบ

หวังชาวพยักหน้า หมายความว่าครั้งหน้ายังมีโอกาส

ส่วนหลินเหมี่ยวเหมี่ยวกับหลี่ฮุยก็นั่งอยู่ไม่ไกลจากพวกเขา

สายตาของสองคนตกอยู่บนตัวหวังชาวมาตลอด

“โอ๊ะ หวังชาว ฉันรู้แล้วว่านายเข้ามาได้ยังไง ที่แท้ก็อาศัยผู้หญิงนี่เอง”

“ก็ใช่อะนะ สวะอย่างนายนี้นอกจากเกาะผู้หญิงกินคงไม่มีความสามารถอย่างอื่น อยู่ตระกูลหลินของฉันก็เป็นแบบนี้ หลังจากหย่าก็เป็นแบบนี้อีก ยังต่ำทรามจริงนะ!”

หลินเหมี่ยวเหมี่ยวพูดจาประหลาดถัดไปไม่ไกลมาก

สีหน้าหวังชาวเคร่งขรึมทันใด เขานึกไม่ถึงว่าหลินเหมี่ยวเหมี่ยวผู้หญิงคนนี้ยังจะเป็นศัตรูกับเขาอีก

ในเวลานี้ลู่อี้เข่อขมวดคิ้วขึ้นมาแล้ว

นึกไม่ถึงยังมาเจอภรรยาเก่าของหวังชาวที่นี่อีก

“คุณหลิน กรุณาพูดจาระวังหน่อย!”

ลู่อี้เข่อพูดด้วยเสียงเย็นเยือก

“ฉันพูดกับสามีเก่าฉัน เธอจะมาพูดแทรกอะไร?” หลินเหมี่ยวเหมี่ยวพูดอย่างไม่พอใจ

“คุณไม่พูดก็ไม่มีใครหาว่าคุณเป็นใบ้หรอก!”

สายตาลู่อี้เข่อเย็นเยือกยิ่งกว่าเดิม เห็นชัดว่าไม่พอใจมากแล้ว

“เธอกล้าด่าฉันเหรอ เชื่อหรือเปล่าว่าฉันจะฉีกปากเธอให้ขาดเลย!”

หลินเหมี่ยวเหมี่ยวโมโหจนสีหน้าเขียวปัด

สีหน้าลู่อี้เข่อดูแย่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เธอไม่ถนัดทะเลาะกับคนอื่น

โดยเฉพาะกับหญิงขี้โมโหปากร้ายแบบหลินเหมี่ยวเหมี่ยวคนนี้

สายตาที่อึมครึมของหวังชาวมองทางหลินเหมี่ยวเหมี่ยว เอ่ยด้วยเสียงเย็นชา “หลินเหมี่ยวเหมี่ยว เชื่อไหมว่าถ้าเธอพูดมากอีกสักคำ ฉันจะรีบโทร.หาผู้จัดการหวางเดี๋ยวนี้ ให้เขาไล่พวกเธอออกไป!”

คำพูดนี้ได้ผลจริง

สีหน้าหลินเหมี่ยวเหมี่ยวดูโกรธยกใหญ่ กลืนไม่เข้าคายไม่ออก

เหมือนถูกคนอื่นจับจุดอ่อนเอาไว้แล้ว ทำให้หล่อนหมดหนทาง

ถ้าโดนไล่ออกไปจริงล่ะก็ ไม่ต้องพูดถึงเรื่องขายขี้หน้า แม้แต่ดวงใจไร้กาลก็จะไม่มีโอกาสได้มาครอง

หลี่ฮุยที่ไม่พูดจามาตลอดจ้องหวังชาวด้วยสายตาอึมครึม

พูดด้วยสีหน้าเย็นชา “หวังชาว ฉันขอเตือนนายเอาไว้ อาศัยบารมีคนอื่นแล้วไม่ใช่ว่าจะได้ดีเสมอไป อาจจะตกอับก็ได้!”

“นายอย่าคิดว่ารู้จักคนดังสองสามคนก็คิดว่าตัวเองเหนือชั้นมาก ไม่ช้าหรือเร็วคงมีสักวันหนึ่ง นายจะต้องชดใช้ต่อความจองหองของนาย!”

“สวะยังไงก็เป็นสวะ คางคกไม่ว่าทำยังไงก็ไม่อาจเปลี่ยนไปเป็นหงส์ได้!”

เสียงของหลี่ฮุยเย็นเยือก คำพูดนี้แฝงด้วยการดูถูกแบบเข้มข้น การดูหมิ่นอย่างเหยียดหยาม

ฟังคำพูดพวกนี้ สีหน้าหวังชาวอึมครึม ไม่พูดสักคำ

แต่สีหน้าของลู่อี้เข่อกลับดูแย่กว่าเดิม

เธอยังเตรียมจะพูดอะไรสักหน่อย แต่หวังชาวกลับห้ามเธอไว้

“คนเราใช้การกระทำแสดงออกมา ไม่ใช่พูดออกมา ตอนนี้ต่อให้ผมพูดมากแค่ไหน พวกเขาก็ไม่เชื่อ”

“ต้องมีสักวัน ผมจะทำให้พวกเขารู้สึกเสียใจต่อการกระทำก่อนหน้านี้ทั้งหมด!”

หวังชาวพูดด้วยเสียงเบาๆ

ลู่อี้เข่อมองหวังชาวอยู่ สีหน้าเปล่งแสงแวววาว

เพียงรู้สึกว่าบนตัวผู้ชายคนนี้เหมือนแผ่กระจายแสงสว่างซึ่งทำให้คนหลงใหลออกมาแล้ว

ถ้าหากมีโอกาสให้เขาแสดงฝีมือตนเอง เขาก็สามารถก้าวสู่ตำแหน่งที่สูงมากได้

เธอเชื่อว่า หวังชาวคือบุคคลยิ่งใหญ่ผู้นั้น

ไม่นานงานประมูลก็เริ่มแล้ว

นี่คืองานประมูลการกุศลงานหนึ่ง ข้าวของที่นำมาประมูลทั้งหมดล้วนเป็นของที่เศรษฐีสนับสนุนมา จำนวนเงินที่ประมูลมาก็บริจาคให้เขตภูเขาที่ยากจน

“ที่รัก งานประมูลเริ่มแล้ว คุณเตรียมพร้อมหรือยัง?” หลินเหมี่ยวเหมี่ยวสีหน้าตื่นเต้นขึ้นมา

“ที่รัก คุณไม่ต้องห่วง ผมเตรียมไว้สิบล้าน ขอแค่เป็นของที่คุณสนใจ ผมจะประมูลมาให้คุณทั้งหมด”

หลี่ฮุยหน้าตามั่นใจเต็มที่

“อืม ที่รักคุณยอดเยี่ยมที่สุดเลย”

หลินเหมี่ยวเหมี่ยวกอดแขนของหลี่ฮุยเอาไว้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เทียบท้ายุทธเวท