ถ้าหากผู้คุมกฎสิบไม่สามารถทำงานที่ได้รับมอบหมายให้เสร็จและแย่งชิงชิ้นส่วนของแผนภาพจักรพรรดิมังกรกลับไปยังสำนักกุ่ยเหมินได้ เจ้าสำนักกุ่ยเหมินย่อมไม่มีวันปล่อยเขาไปอย่างแน่นอน
เพื่อตัวเองแล้ว เพื่อเอาชีวิตรอดจากบทลงโทษของท่านเจ้าสำนัก เขาเลือกที่ยอมละทิ้งศักดิ์ศรีของตนเอง!
พอคิดเช่นนั้นแล้ว ผู้คุมกฎสิบกัดฟันและพูดด้วยท่าทางประจบประแจงว่า “ได้ครับ อาจารย์หยาง ผมจะเลียรองเท้าอาจารย์! แต่ตกลงกันก่อนนะครับว่าถ้าผมเลียรองเท้าของท่านจนสะอาดแล้ว ท่านอาจารย์จะยอมรับผมเป็นศิษย์!"
ได้ยินคำตอบของผู้คุมกฎสิบแล้ว หยางเฟิงยืนนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง เขาไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะตอบกลับมาเร็วขนาดนี้ และตัดสินใจเลียรองเท้าเขาจนสะอาดจริงๆ ต่อหน้าผู้คนมากมายขนาดนี้ นี่เป็นการกระทำที่ไม่สนใจศักดิ์ศรีของตนเองเลย ดูเหมือนว่าเขาจะประเมินผู้คุมกฎสิบต่ำเกินไป
ผู้คุมกฎสิบยืดได้งอได้แบบนี้ ช่างเป็นคนที่น่าสนใจจริงๆ
หยางเฟิงกล่าวตอบด้วยรอยยิ้มประชดประชันว่า "แน่นอน! ผม หยางเฟิง พูดคำไหนคำนั่นเสมอ! ตราบใดที่คุณเลียรองเท้าของผมจนสะอาดแล้ว ผมให้คุณเป็นศิษย์ของผมแน่นอน"
ได้ยินคำยืนยันนี้แล้ว ผู้คุมกฎสิบกัดฟันและคุกเข่าลงแทบเท้าของหยางเฟิง เขาจ้องมองไปที่รองเท้าสกปรกของหยางเฟิง และกลั้นใจก้มลงเลียรองเท้าของหยางเฟิงจนสะอาดด้วยความอัปยศอดสู
แน่นอนว่ารองเท้าของหยางเฟิงไม่ได้สกปรกอะไรมากนัก แต่ในฐานะรองเท้าที่ผ่านการใช้งานมาอย่างสมบุกสมบันแล้ว หรือในฐานะการถูกบังคับให้กระทำ ไม่มีใครปฏิเสธได้เลยว่านี่เป็นการกระทำเชิงดูถูกเหยียดหยามอย่างแรง
ในขณะที่ผู้คุมกฎสิบกำลังเลียรองเท้าของหยางเฟิงจนสะอาด เขาสาบานในใจว่า สักวัน เขาจะคืนความอัปยศอดสูนี้ให้กับหยางเฟิงเป็นร้อยเท่า!
หยางเฟิงก้มศีรษะลงและมองไปที่ผู้คุมกฎสิบที่เลียรองเท้าของเขาด้วยอยู่ด้วยสีหน้าท่าทางที่อธิบายความคิดหรือท่าทีในเรื่องนี้ได้ยาก ในสายตาของคนภายนอก ท่าทางและแววตาของหยางเฟิงคือการแสดงการยอมรับอีกฝ่ายเป็นศิษย์อย่างชัดเจนตามที่รับปากไว้
ไม่ว่าผู้คุมกฎจะสมคบคิดกับใครและวางแผนไว้อย่างไรก็ตาม ถ้าหากเขามาที่นี่เพื่อชิงชิ้นส่วนของแผนที่จักรพรรดิมังกร ถือว่าผู้คุมกฎสิบทำพลาดครั้งใหญ่แล้ว!
หลังจากเลียจนสะอาดแล้ว ผู้คุมกฎสิบเงยหน้าขึ้นมองหยางเฟิง ยิ้มอย่างมีความสุขและถามว่า "ท่านอาจารย์หยางครับ ผมเลียรองเท้าของคุณจนสะอาดแล้ว ตอนนี้เป็นลูกศิษย์ของคุณแล้วหรือยังครับ"
"ยัง” หยางเฟิงส่ายหัวและพูดว่า “ถ้าจะเป็นศิษย์ของฉัน แค่เลียรองเท้าแค่นั้นยังไม่พอหรอก...”
อะไรนะ คนบัดซบนี่พูดเรื่องอะไรน่ะ
ทันใดนั้น ผู้คุมกฎสิบก็โกรธขึ้นมาจนแทบควบคุมตัวเองไม่อยู่ เขาเป็นผู้คุมกฎของสำนักกุ่ยเหมิน เป็นบุคคลสำคัญของสำนักกุ่ยเหมิน เป็นบุคคลที่สมาชิกของสำนักทุกคนต่างให้เกียรติและเกรงใจ การที่หยางเฟิงให้เขาเลียรองเท้าก่อนแต่ไม่ยอมรับเขาเข้าร่วมสมาพันธ์ฯ ตามสัญญา ถือเป็นการหยามอัปยศอย่างแรงและเป็นการหลอกลวงซึ่งหน้าด้วย!
ด้วยการรื่องราวที่เกิดขึ้นนี้ ผู้คุมกฎไม่สามารถควบคุมตัวเองได้อีกต่อไป!
" หยางเฟิง แกกล้าทําให้ฉันอับอายขายหน้าได้ยังไง ฉันสู้กับแกมาหนักแล้ว..."
เพี๊ยะ!
หยางเฟิงไม่รอให้ผู้คุมกฎสิบพูดจบ เขาตบหน้าอีกฝ่ายอย่างแรง
"ในเมื่อคุณต้องการกราบผมเป็นอาจารย์ คุณต้องเคารพเชื่อฟังผม การตัดสินใจของผู้ถือเป็นที่สุด เอาล่ะ ผมจะสอนคุณเองว่าหลักคุณธรรมการต่อสู้คืออะไร"
"ฉัน...”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เทพสงครามพิทักษ์โลก
อ่านไม่ได้ครับ...