เขารู้ดี หยางเฟิงตั้งใจจะฆ่าเขา!
ระหว่าตระกูลหลันและหยางเฟิง เกรงว่าต้องสู้กันให้ตายไปข้าง...
หลันจื่อกล่าวอย่างตกตะลึง : “พ่อคะ พวกเราไม่ได้เกลียดชังไม่ลงรอยกับเขา? ทำไมเขาต้องต่อกรกับเราด้วย?”
แม้ว่าพวกเขาจะเคยเยาะเย้ยหยางถากถางเฟิงมาก่อน
แต่ก็คงไม่ถึงขนาด ทำให้หยางเฟิงอยากจะฆ่าล้างตระกูลหลันขนาดนี้ไหม?
ทุกคนว่าอย่างไร อย่างไรเสียก็เป็นญาติกัน
หรือว่าหยางเฟิงไม่สนใจเลยว่าโลกนี้จะคิดเห็นอย่างไร?
“เหอะๆ! ไม่ได้เกลียดชังไม่ลงรอย?”
หลันเฟิงแค่นหัวเราะแล้วกล่าวอย่างจนใจ : “หยางเฟิงมีสมญานามว่าราชาตงไห่! ตอนนี้หม่าตงคือตัวพ่อแห่งพื้นที่สีเทาในตงไห่ มันคือหุ่นเชิดของหลันเฟิง ตระกูลหลันของเราเข้าไปแทรกแซงพื้นที่สีเทาของตงไห่ ก็เท่ากับไปแย่งชิ้นเค้กของหยางเฟิง แกว่ามันปล่อยพวกเราไปไหมล่ะ?”
การที่ตระกูลหลันกลายเป็นตระกูลชั้นหนึ่งในตงไห่ได้
นอกจากจะอาศัยอิทธิพลของตระกูลเย่แล้ว
สาเหตุส่วนใหญ่มาจากการที่ตระกูลหลันได้กอบโกยผลประโยชน์จากพื้นที่สีเทาไปจำนวนมาก
ควรรู้ไว้ว่า
ตอนนี้พื้นที่สีขาวในตงไห่ แทบจะเป็นเขตในปกครองของตระกูลเย่แล้ว
เฟิงเมิ่งกรุ๊ปเป็นบริษัทอันดับหนึ่งของตงไห่
เข้าไปมีส่วนในอุตสาหกรรม ขยายไปแล้วสิบกว่าอย่าง
แล้วยิ่งไปกว่านั้นในขอบเขตเหล่านั้น ล้วนเป็นตัวพ่อสุดๆ
บริษัทอื่นๆแข่งขันกับเฟิงเมิ่งกรุ๊ปไม่ได้โดยสิ้นเชิง
แค่สามารถอาศัยการพัฒนาของเฟิงเมิ่งกรุ๊ป!
ก็นับว่าหลันซื่อกรุ๊ปของตระกูลหลัน ตอนนี้ก็พึ่งพาการดูแลของเฟิงเมิ่งกรุ๊ป
ถึงจะสามารถมีตำแหน่งสูงในตงไห่ได้!
ดังนั้นหากตระกูลหลันอยากจะแข่งขันกับตระกูลเย่ในเขตพื้นที่สีขาว มันเป็นไปไม่ได้อย่างสิ้นเชิง!
ตระกูลหลันมองได้เพียงพื้นที่สีเทาเท่านั้น
ในทุกๆปีทั้งกาสิโน ธนาคารใต้ดิน เงินกู้ดอกสูง ไนท์คลับทั้งหลาย ไปจนถึงธุรกิจที่แสงส่องไม่ถึง นำกำไรกว่าหนึ่งพันล้านมาสู่ตระกูลหลัน!
ผลประโยชน์มหาศาลเช่นนี้
ใครจะไม่ปรารถนา?
ใครจะไม่ตาลุกวาว?
แล้วหม่าตงที่มีสมญานามว่าเจ้าพ่อใต้ดินแห่งตงไห่ ก็เป็นหุ่นเชิดของหยางเฟิง
ตระกูลหลันทำเช่นนี้ ก็เท่ากับทำลายผลประโยชน์ของหยางเฟิง!
จริงๆแล้ว หลันเฟิงคิดผิดไป
สถานะความมั่งคั่งของหยางเฟิง แม้แต่เฟิงเมิ่งกรุ๊ปก็ไม่ได้อยู่ในสายตาเขา นับประสาอะไรกับพื้นที่สีเทาในตงไห่ที่ไม่สำคัญ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เทพสงครามพิทักษ์โลก
อ่านไม่ได้ครับ...