เหง่ง !
ระฆังสีทองกระแทกลงกับพื้น จนพื้นทั้งหมดสั่นสะเทือน
เย่เทียนเห็นดังนั้น สีหน้าก็มืดมนลงอย่างยิ่ง
ไม่มีใครคาดคิดว่า ลูกเขยของตระกูลเย่ที่หนีหายไปเมื่อห้าปีก่อนจะกลับมาแล้ว
เมื่อเพียงกลับมาแล้วเท่านั้น แต่ยังนำระฆังสีทองมาด้วยหนึ่งใบ นี่เท่ากับตบหน้ากัน อย่างโจ่งแจ้งชัด ๆ !
หยางเฟิงไม่สนสายตาประหลาดใจของทุกคน เข้าค่อย ๆ เดินเข้าไปหาเย่เทียนทีละก้าว ๆ
“ระฆังใบใหญ่นี้ ใช้ทองคำกว่าห้าสิบกิโล เชิญช่างฝีมืออันดับหนึ่งเป็นผู้หลอมข้ามวันข้ามคืนจนเสร็จสิ้น มีมูลค่ากว่าร้อยล้าน เย่เทียน ของขวัญวันเกิดของผมชิ้นนี้ ท่านพอใจหรือไม่ ?”
เย่เทียนโกรธจนตัวสั่นและตะคอกออกมาด้วยความโมโห : “ไอ้สวะ แกกล้ามาสร้างความวุ่นวายที่นี่อย่างนั้นหรือ ? ตอนนั้นแกเร่ร่อนอยู่ข้างถนน ถ้าไม่ใช่เพราะฉันสงสารแก ให้แกแต่งงานเข้ามาในตระกูลเย่ แกคงอดตายไปนานแล้ว !”
“วันนี้เป็นงานเลี้ยงฉลองวันเกิดครบรอบแปดสิบปีของฉัน เป็นวันมงคล แกกลับให้ระฆังฉันหนึ่งใบ ไอ้สวะ แกอยากรนหาที่ตายหรือ ?”
เย่เทียนโกรธจัด !
วันนี้เป็นวันเกิดครบรอบแปดสิบปีของเขา มีแขกมาร่วมงานอย่างคับคั่ง ทุกคนต่างมีความสุข
แต่จู่ ๆ หยางเฟิงกลับมองระฆังให้หนึ่งใบ มันหมายความว่าอย่างไร ?
เย่กวงลุกขึ้นและพูดด้วยความโมโห : “หยางเฟิง แกยังจะกล้ากลับมาอีก วันนี้ฉันจะตีแกให้ตาย !”
หยางเฟิงหันมองเย่กวงด้วยสีหน้าเย้ยหยัน : “คุณลองดูสิ ?”
เมื่อเห็นท่าทางที่ปราศจากความกลัวของหยางเฟิง คนของตระกูลเย่ก็รู้สึกโมโหยิ่งขึ้น
“ไอ้คนจรจัดชั้นต่ำ เป็นเพราะตระกูลเย่ของเราสงสารแก แกถึงยังไม่อดตาย !”
“แกกลับทำให้ตระกูลเย่ของเราต้องถูกผู้คนหัวเราะเยาะ วันนี้ยังจะนำระฆังมามอบให้ในงานวันเกิดของนายท่านอีก คิดว่าตระกูลเย่ของเราไม่มีใครหรืออย่างไร ?”
“วันนี้แกอย่าคิดว่าจะกลับออกไปได้อีก ฉันจะทำให้แกต้องตายทั้งเป็น !”
ในห้องโถงใหญ่ คนของตระกูลเย่ทั้งหมด ต่างจ้องมองมาที่หยางเฟิงด้วยความโกรธเคือง
เพราะหยางเฟิง ทำให้ชื่อเสียงตระกูลเย่ของพวกเขาต้องถูกทำลาย !
เพราะหยางเฟิง ทำให้พวกเขาโงหัวไม่ขึ้น !
วันนี้ยังกล้าหาเรื่องอย่างเปิดเผยอีก ความผิดนี้อภัยให้ไม่ได้ !
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับการกล่าวโทษของคนตระกูลเย่ หยางเฟิงกลับไม่สะทกสะท้าน
เย่เทียนจ้องหยางเฟิงตาเขม็ง และพูดด้วยสีหน้าดุดัน : “หยางเฟิง วันนี้แกรนหาที่ตายเอง จะโทษฉันไม่ได้ เด็ก ๆ !”
ทันทีที่ออกคำสั่ง บอดี้การ์ดกว่าร้อยคนของตระกูลเย่ก็วิ่งกรูเข้ามาล้อมหยางเฟิงเอาไว้
แขกที่มาร่วมงานเลี้ยงวันเกิด ต่างมองหยางเฟิงด้วยสีหน้าที่แสดงความเห็นใจ
ทุกคนต่างคิดว่า วันนี้หยางเฟิงคงต้องจบชีวิตอย่างแน่นอน !
“คุณปู่คะ โปรดไว้ชีวิตหยางเฟิงเถอะนะคะ !”
เมื่อเห็นดังนั้น เย่เมิ่งเหยียนก็เอ่ยปากอ้อนวอน เธอไม่รู้ว่าหยาเฟิงได้เตรียมของขวัญที่น่าเกลียดเช่นนี้เอาไว้
เย่เทียนส่งเสียงฟึดฟัด : “หญิงแพศยาที่น่าอับอายอย่างแก ยังจะกล้าขอความเห็นใจให้หยางเฟิงอีกหรือ ? ฉันจะบอกแกให้นะ ตั้งแต่นี้ไป แกถูกขับไล่ออกจากตระกูลเย่แล้ว !”
เปรี้ยง !
เมื่อได้ยินดังนั้น ย่เมิ่งเหยียนก็มีสีหน้าไม่อยากเชื่อ
เธอคิดไม่ถึงเลยว่า เย่เทียนจะไร้ความเมตตา ถึงขั้นขับไล่เธอออกจากตระกูลเย่ !
หวางลี่หันมองเย่เมิ่งเหยียนด้วยท่าทีเย่อหยิ่ง : “นังแพศยา ! ตระกูลเย่ของเราต้องอับอายก็เพราะแก ถ้าหากฉันเป็นแก ฉันคงฆ่าตัวตายไปนานแล้ว !”
“จริงด้วย !”
“คนเนรคุณ หลายปีมานี้หากไม่ใช่เพราะพวกเรา พวกแกสองแม่ลูกคงอดตายไปนานแล้ว !”
“หากรู้อย่างนี้คงปล่อยให้พวกแกอดตายอยู่ข้างถนนไปนานแล้ว !”
คนของตระกูลเย่หันมองเย่เมิ่งเหยียน และพูดเยาะเย้ยด้วยคำพูดที่เชือดเฉือน
“พวกคุณพูดพอหรือยัง ?”
จู่ ๆ หยางเฟิงก็ตะโกนขึ้นด้วยความโมโห
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เทพสงครามพิทักษ์โลก
อ่านไม่ได้ครับ...