“จำไว้ พวกคุณมีเวลาแค่เจ็ดวันเท่านั้น......”
พูดจบ หยางเฟิงก็พาภรรยาและลูกเดินจากไปโดยไม่หันกลับมามอง
ทุกคนในตระกูลเย่นับร้อยคน ไม่มีใครกล้าขวาง ยืนมองหยางเฟิงเดินจากไปตาปริบ ๆ
หลังจากหยางเฟิงจากไปแล้ว ทุกคนต่างถอนหายใจด้วยความโล่งอก
เมื่อมองดูบรรดาบอดี้การ์ดที่นอนอยู่บนพื้น ทุกคนในตระกูลเย่ต่างรู้สึกกลัวขึ้นมาชั่วขณะ
หยางเฟิงแข็งแกร่งจนน่ากลัว !
หลายปีมานี้เขาผ่านอะไรมากันแน่ ?
เย่กวงเอ่ยถามด้วยสีหน้าเคร่งเครียด : “คุณพ่อครับ พวกเราควรทำอย่างไรดีครับ ?”
เย่เทียนส่งเสียงฟึดฟัด : “เวลาเจ็ดวันอะไรกัน ? ฉันว่าหยางเฟิงคนนี้คงเสียสติไปแล้ว เรียนการต่อสู้มานิดหน่อย ก็ไม่เห็นคนอื่นอยู่ในสายตาแล้ว !”
“จริงด้วย ก็แค่ลูกเขยคนเดียว กล้ามาข่มขู่ตระกูลเย่ของเรา บ้าสิ้นดี”
“ฉันว่าไอ้สวะนี่ คงจะหนีออกมาจากโรงพยาบาลจิตเวชแน่นอน ต่อไปพวกเราคงต้องระวังตัวสักหน่อย ผู้ป่วยทางจิตฆ่าคนไม่ผิดกฎหมายนะ !”
หลังจากเย่เทียนพูดจบ คนในตระกูลเย่ก็คลายความตกใจลง
ในความคิดของพวกเขา หยางเฟิงก็เป็นเพียงแค่คนเสียสติเท่านั้น
คนบ้าย่อมพูดภาษาของคนบ้า จะถามหาเหตุผลอะไรกัน ?
“ทุกคนว่าระฆังใบนี้ หลอมมาจากทองคำจริงไหม ?”
หวางลี่เดินตรงมาที่ระฆัง และใช้มือเคาะ จากนั้นจึงถามขึ้นด้วยความสงสัย
“อย่าพูดจาไร้สาระไปหน่อยเลย ระฆังใบนี้ คงเป็นโลหะเก่าผุพังที่หยางเฟิงหามาจากที่ไหนสักแห่ง จากนั้นจึงใช้สีทองทาทับ”
“คนบ้าก็คือคนบ้า เขาคงคิดว่าเอาภูเขามาทาสีทองก็จะกลายเป็นภูเขาทองแล้ว”
“ฮ่า ๆ ๆ !”
คนของตระกูลเย่ หัวเราะให้กันอีกครั้ง
“เย่กวง เมื่อไหร่บุคคลสำคัญจะมาถึง ? รีบย้ายระฆังโสโครกนี่ออกไปเร็ว จะได้ไม่ขวางหูขวางตาบุคคลสำคัญเข้า !”
เย่เทียนรีบปรับอารมณ์ แล้วหันไปถามเย่กวง
“จะว่าไปก็น่าจะมาถึงนานแล้ว ผมจะลองโทรศัพท์ไปถามดู......”
พูดจบ เย่กวงก็กดต่อสายโทรศัพท์
ผ่านไปครู่หนึ่ง เย่กวงพูดขึ้นด้วยสีหน้าโกรธเอง : “คุณพ่อ อีกฝ่ายพูดว่า เมื่อครู่บุคคลสำคัญมาถึงแล้ว แต่ก็กลับไปแล้ว”
“บุคคลสำคัญยังบอกอีกว่า คนของตระกูลเย่เราโง่เขลาเหมือนหมูกันทุกคน เกินที่จะเยียวยา !”
“อะไรนะ บุคคลสำคัญมาแล้วแต่กลับไปแล้วอย่างนั้นหรือ ?”
“ฉันรู้แล้ว บุคคลสำคัญคงจะกลับไปเพราะตกใจเจ้าบ้าหยางเฟิงแน่นอน”
“ต้องเป็นเช่นนี้แน่ ตระกูลเย่ของเรามีคนบ้าเช่นนี้อยู่ ถือเป็นโชคร้ายของตระกูลจริง ๆ !”
เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้ เย่เทียนก็ตะคอกด้วยความโกรธ : “หยางเฟิง ฉันจะฆ่าแก !”
หยางเฟิงทำให้บุคคลสำคัญตกใจจนหนีกลับไป ทำลายการใหญ่ของตระกูลเย่
นี่เท่ากับเป็นการดับฝันที่ตระกูลเย่จะได้ขึ้นเป็นตระกูลอันดับหนึ่งของตงไห่ !
เมื่อคิดได้ดังนี้ ทุกคนในตระกูลเย่ต่างโกรธแค้น จนแทบอยากจะกลืนหยางเฟิงทั้งเป็น
......
หลังจากเดินออกมาจากโรงแรม เย่เมิ่งเหยียนยังคงอยู่ในอาการสับสน
ส่วนหยางพั่นพั่นก็ยิ่งมีสีหน้าตกใจ เพราะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่
“หยางเฟิง พวกเรา......”
เย่เมิ่งเหยียนหันมองหยางเฟิง เหมือนมีบางอย่างจะพูดต่ก็ไม่พูดออกมา
หยางเฟิงพูดด้วยรอยยิ้ม : “เมิ่งเหยียน ผมรู้ว่าคุณคงมีคำถามมากมายในใจ เมื่อก่อนคุณต้องพบเจอกับความทุกข์มากมาย แต่วันนี้ผมกลับมาแล้ว ผมจะทวงคืนความยุติธรรมให้กับความทุกข์ที่คุณได้รับทีละอย่าง ๆ เริ่มที่ตระกูลเย่เป็นอันดับแรก !”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ เย่เมิ่งเหยียนก็รู้สึกซาบซึ้งมาก
ห้าปีที่ผ่านมา เย่เมิ่งเหยียนได้รับความทุกข์ทรมานจากตระกูลเย่ไม่น้อย
เธอคิดว่าคงต้องใช้ชีวิตเช่นนี้ไปตลอดชีวิตเสียแล้ว แต่คิดไม่ถึงว่าเมื่อหยางเฟิงกลับมา จะทำให้เธอลืมตาอ้าปากต่อหน้าคนของตระกูลเย่ได้อีกครั้ง !
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เทพสงครามพิทักษ์โลก
อ่านไม่ได้ครับ...