Everyone Else is a Returnee โดดเดี่ยว 1000 ปี นิยาย บท 1

Everyone Else is a Returnee โดดเดี่ยว 1000 ปี – ตอนพิเศษที่ 1
ตอนพิเศษที่ 1 – จบชีวิตที่โดดเดี่ยว มุ่งสู่งานแต่งงาน

ทั่วทั้งจักรวาลไม่อาจจะเฝ้าสังเกตทั้งหมดได้ง่ายๆ มีโลกได้ถูกสร้างขึ้นมาใหม่และถูกทำลายไปอยู่ทุกขณะ มีโลกจำนวนมหาศาลที่ไม่อาจจะพัฒนาและรวมไปถึงไม่อาจจะเชื่อมต่อกับบันทึกนภาทำให้โลกเหล่านั้นไม่อาจจะผลิตมานาขึ้นมาได้ ถึงแบบนั้นก็ยังมีโลกอีกจำนวนมากที่พัฒนาขึ้นมาอย่างราบรื่นแต่ว่าก็ไม่ได้มีเอกลักษณ์หรือร่องรอยอะไรพิเศษที่ดึงดูดสายตาสิ่งมีชีวิตชั้นสูงได้ โลกทั้งหมดเหล่านี้ต่างก็ไม่อาจจะกลายมาเป็นโลกระดับสูง

และกับดักแห่งการฟื้นคืนที่ยูอิลฮานได้ทำไว้ก็ได้แผ่กระจายไปตามโลกเหล่านั้นผ่านโลกที่ใกล้เคียงกันและบังคับให้โลกเหล่านั้นต้องมาหลอมรวมเข้ากับเอิร์ธ

“นี่มันเกิดอะไรขึ้น…”
“นะ นี่คือมานา”

ยูอิลฮานไม่ได้จับเอากลุ่มโลกเข้ามารวมกันแบบมั่วๆ เขาได้ก่อตั้งภูมิภาคพื้นที่แบ่งแยกโลกด้อยวิวัฒนาการ โลกมีวิวัฒนาการและโลกระดับสูงด้วยการใช้ภูเขาและแม่น้ำใหญ่มาเป็นเส้นแบ่งเขต

เนื่องจากความหนาแน่นมานาจะเปลื่ยนแปลงไปตามภูมิภาคพวกนี้ทำให้มอนสเตอร์ที่มีอยู่ในแต่ล่ะภูมิภาคก็จะแตกต่างกันไป

“ในตอนนี้อิลฮานกำลังทำการสร้างอย่างตรงไปตรงมา…”
“ฉันไม่ชอบแบบนี้เลย ทำไมฉันต้องมาทำงานหกวันแล้วมีเวลาพักแค่วันเดียวกันนะ ในอนาคฉันจะต้องมีเวลาพักหกวันต่อสัปดาห์”
“ถ้าตอนนั้นมาถึงฉันสงสัยจริงๆว่าในหนึ่งวันที่ทำงานนั่นนายจะทำงานขนาดไหนัน?”

โลกที่ยูอิลฮานกำลังสร้างขึ้นค่อนข้างที่จะคล้ายกันกับจักรวาลในอดีต เมื่อเขามองไปที่โลก โลกก็ไม่ได้กว้างใหญ่นัก แต่ว่ามีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่จะมองดูทั้งโลกได้อย่างหมดจดนั่นคือยูอิลฮานเท่านั้น

แม้กระทั่งสมาชิกระดับสูงของดราก้อนเนสก็ยังทำไม่ได้ หากพวกเขาตั้งใจจะมองพวกเขาก็จะเห็นแค่มุมๆหนึ่งของโลกโดยที่ไม่รู้ว่าจุดสิ้นสุดมุมๆนั้นจะอยู่ตรงไหน

“น่าทึ่ง ความจริงทั้งหมดเกี่ยวกับเวทย์ที่ฉันได้เรียนรู้มาจนถึงตอนนี้… เวทย์เหล่านั้นทั้งหมดได้ถูกผสมกลายมาเป็นธรรมชาติของโลกใบนี้”
“ต่อให้ฉันหลอมรวมโลกทั้งหมดมาเป็นหนึ่งได้ แต่มันก็มีแต่จะทำให้เกิดความโกลาหลที่ไร้จุดจบขึ้นหากว่าฉันเอามารวมมั่วๆ การที่จะกลายมาเป็นโลกในอุดมคติแบบนี้มีแต่ต้องต่อจิ๊กซอว์ที่ล่ะชิ้นๆอย่างระมัดระวังเท่านั้น”

เพราะแบบนี้ยูอิลฮานจึงได้กำลังทำงานหลอมรวมโลกเข้าด้วยกันอย่างเป็นธรรมชาติ แต่นี่มันไม่ใช่เรื่องปกติธรรมดาเลยสำหรับคนอื่นๆ ผู้คนของเอิร์ธที่ได้กระจัดกระจายไปตามโลกต่างๆมากมายรวมถึงผู้คนที่อาศัยอยู่ในโลกพวกนั้นได้ถูกอัญเชิญมาที่เอิร์ธอย่างต่อเนื่อง และพวกเขาเหล่านี้ทั้งหมดต่างก็ได้ประสบกับความสับสนอยู่พักหนึ่ง

ยังไงก็ตามไม่ว่าพวกเขาจะอยู่ที่ไหนในโลกใบนี้ พวกเขาต่างก็มองเห็นถึงเมืองลอยฟ้าที่ยูอิลฮานอาศัยอยู่ สำหรับพวกเขาแล้วยูอิลฮานเหมือนกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ทรงพลัง พระผู้เป็นเจ้า และนี่ก็เป็นสิ่งที่ยูอิลฮานอย่างให้เป็น

“ผู้คนกำลังมองขึ้นมาที่พวกเรา!”
“พวกเขากำลังตะโกนอะไรซักอย่างอยู่แต่ว่าฉันได้ยินไม่ชัด”
“หากพวกเขาอยากจะให้ฉันตอบ ฉันก็จะตอบ แต่หากไม่ใช่แบบนั้นฉันก็ไม่คิดที่จะติดต่อใดๆกับพวกเขา”

เป้าหมายของยูอิลฮานนั่นก็ผสานโลกและเพิ่มความเข้มข้นให้กับพลังงานทั้งหมด เขากำลังคิดที่จะลบล้างวงจรการเกิดและตายของโลกด้วยการผสานโลกทั้งหมดที่มีศักยภาพเข้าด้วยกัน

และในเมื่อเขาทำได้สำเร็จแล้ว จึงไม่จำเป็นที่เขาต้องไปแทรกแซงผู้อยู่อาศัยอีก

“อ่า ดูเด็กๆพวกนั้นสิ ดูเหมือนเด็กๆจะได้กลับไปอยู่กับครอบครัวอย่างปลอดภัยแล้ว”
“ฉันตั้งใจเอาไว้แบบนั้นแหละ… เด็กๆคนไหนที่เสียครอบครัวไปฉันจะเป็นคนดูแลเอง”

ยูอิลฮานได้พูดออกมาอย่างขมขื่นก่อนที่จะยื่นมือออกมา ทันใดนั้นคฤหาสน์ขนาดใหญ่ได้ลอยขึ้นจากมุมหนึ่งของเมืองลอยฟ้าและลดระดับความสูงลง ในอนาคตเด็กๆที่สูญเสียครอบครัวไปจะได้ใช้ชีวิตอยู่ภายใต้การคุ้มครองของยูอิลฮาน

เลียร่าที่เฝ้าดูอยู่ได้ถามออกมาอย่างตั้งใจ

“อิลฮานนี่อาจจะเป็นคำถามง่ายๆสำหรับนายนะแต่ว่า… นายไม่คิดที่จะชุบชีวิตคนอื่นๆนอกจากเด็กที่ถูกขับไล่ออกไปในการขับไล่ครั้งใหญ่หรอ?”
“ฉันก็คิดไวแล้วว่าจะมีคนถามแบบนี้”

สำหรับยูอิลฮานที่มีศัยภาพในการทำอะไรก็ได้ในฐานะของคนที่จัดการดูแลทั้งวิญญาณและสสารแล้ว ปัญหาใหญ่ที่สุดสำหรับเขาเลยก็คือการตัดสินใจว่าจะชุบชีวิตใครและไม่ชุบชีวิตใคร

ในตอนเขายังคงเป็นมนุษย์ ยูอิลฮานมีวิธีและข้อแก้ตัวมากมายเนื่องจากว่าเขายังไม่เหมาะสมที่จะจัดการในวิญญาณ แต่สำหรับตอนนี้มันไม่ใช่แล้ว

เขาเป็นพระเจ้าไปแล้ว และทั้งวิญญาณและร่างกายทั้งหมดอยู่ภายในอาณาเขตของเขา เพราะงั้นเขาสามารถจะเอาแต่ใจไม่สนใจเสียงร้องอะไรใดๆจากคนอื่นๆเลยก็ได้ ไม่มีใครที่จะทำอะไรกับเขาได้แล้ว

นี่คือเหตุผลที่ทำให้ยูอิลฮานต้องตั้งใจคิดในเรื่องนี้มากๆ

“แต่ดูสิ ตอนนี้ทุกๆโลกได้กลายเป็นหนึ่งเดียวกันแล้ว จิตวิญญาณดั้งเดิมทั้งหมดก็ได้กลายมาเป็นหนึ่งเดียวแล้วเช่นกัน เพราะงั้นต่อให้ฉันไม่ได้ชุบชีวิตพวกเขากลับมาในร่างเดิม พวกเขาก็จะกลับมาเกิดใหม่บนโลกนี้ในอีกไม่นานเช่นกัน นี่ฉันยังต้องไปแทรกแซงอีกจริงๆงั้นหรอ? ฉันต้องไปแทรกแซงโอกาสหนึ่งในชีวิตด้วยการมอบชีวิตให้ผู้คน ซึ่งการแทรกแซงของฉันจะทำให้การเสียสละที่ยิ่งใหญ่ของพวกเขาสูญเปล่าและลดคุณค่าของพวกเขาลงงั้นหรอ?”
“แต่ว่าท่านจักรพรรดิ”

พัทที่รออยู่สักพักได้พูดขึ้นมา เขาคือคนที่ใกล้ชิดกับความตายและวิญญาณเป็นลำดับสองรองลงมาจากยูอิลฮาน เขาสามารถจะเข้าใจถึงความกังวลของยูอิลฮานเป็นอย่างดี

“ผมคิดว่าฟีเรียเธออยากที่จะกลับมาอยู่เคียงข้างท่านจักรพรรดิ หากว่าเธอได้ทำการช่วยเหลือใดๆก็ตามให้ท่านจักรพรรดิมาถึงจุดนี้ ก็ไม่ใช่ว่ามันจะเป็นการดีหรอครับที่ให้เธอกลับมาในตำแหน่งเดิมเป็นรางวัล?”
“…รางวัลสำหรับเหล่าคนที่ได้ช่วยฉันในการขึ้นมาเป็นพระเจ้างั้นหรอ? หรือก็คือให้ยกเว้นผู้คนที่อยู่ในดราก้อนเนสและแบ่งแยกพวกเขากับคนปกติหรอ? นี่คือสิ่งที่นายกำลังจะบอกใช่ไหม?”
“ได้โปรดอภัยให้กับคำพูดของผมด้วยแต่ว่า… ก็ใช่ครับ สำหรับเธอที่ปรารถนาที่จะรับใช้ท่านจักรพรรดิต่อให้เป็นช่วงสุดท้ายในชีวิตของเธอก็ตาม ท่านจะไม่สงสารเธอเลยหรอ?”

ยูอิลฮานได้มองไปที่พีท พีทคือคนที่กลัวการถูกยูอิลฮานเกลียดยิ่งกว่าการตายซะอีกได้ตัวสั่นอย่างเจ็บปวด แต่เขาก็ไม่คิดจะยอมถอย สถานการณ์แบบนี้ได้ดำเนินไปซักพักก่อนที่ยูอิลฮานจะถอนหายใจหยักหน้าออกมา

“ไม่เป็นไร แค่ครั้งนี้แค่ครั้งเดียวนะ”
“ท่านจักรพรรดิ!”
“ขอบคุณครับ ท่านจักรพรรดิ!”

เอลฟ์ทั้งสามได้กระโดดขึ้นมาอย่างดีใจ เนื่องจากว่าเขาอยู่ที่นี่แล้ว ยูอิลฮานจึงพูดกับคนอื่นๆเช่นกัน

“ในเมื่อฉันได้ตัดสินใจที่จะแบ่งแยกระหว่างสมาชิกของเรากับคนทั่วไปแล้ว ฉันก็จะต้องทำมันให้มากขึ้น คำพูดของพีทก็ไม่ได้ผิดเลย ทุกๆคนได้ช่วยฉันอยากมากในการมาเป็นพระเจ้า เพราะงั้นฉันจะให้พวกนายทุกคนได้โอกาสในการ ‘โกง’ เชิญพูดถึงสิ่งที่ต้องการมาได้เลย หลังจากการหลอมรวมโลกเสร็จสิ้นแล้วเรื่องนี้จะไม่ถูกอนุมัติอีกแล้วนะ”
“ถะ ถ้าครอบครัวของเราตายไปถ้างั้นก็ช่วย…”
“โอ้ ครอบครัวของครอบครัวสมิทสันทั้งสองคนได้กลับมาอย่างปลอดภัยแล้ว พวกเธอสองคนไปเตรียมตัวพิธีแต่งกันได้เลย”
“ฉันอยากจะมีลูก!!! แอ๊กกกกก”

นายูนาได้ถูกสอยร่วงไปอย่างรวดเร็ว ยังไงก็ตามเลียร่าที่เป็นคนจัดการเธอก็ได้แสดงสีหน้าลำบากเล็กน้อย ทุกๆอย่างได้แตกต่างไปจากก่อนหน้านี้แล้ว

ตอนที่เธอเป็นทูตสวรรค์และตอนที่ยูอิลฮานยังเป็นมนุษย์ หรือตอนที่พวกเธาทั้งคู่ยังเป็นมนุษย์อยู่ พวกเธอสามารถจะรับมือคนอื่นๆได้อย่างง่ายดายด้วยเพียงมือข้างเดียว…. แต่ในตอนนี้ยูอิลฮานคือพระเจ้าที่่ดูแลโลกทั้งใบแล้ว

“หากฉันยังอยากจะผูกขาดเขาไว้เพียงคนเดียวฉันคงจะโลภเกินไป…”
“เลียร่า ถ้าเธออยากให้ฉันทำแบบนั้น ฉันก็จะมองแค่เธอ”

ยูอิลฮานได้พูดออกมา คำพูดเหล่านี้คือเรื่องจริง

“ยังไงก็ตาม… ใช่แล้ว ฉันขอโทษ ฉันคิดว่ามุมมองของฉันต่างไปจากเดิมแล้ว ถึงแม้ว่าฉันอยากจะมองแค่เธอเพียงคนเดียว แต่สุดท้ายคนอื่นๆก็ยังเข้ามาในความคิดฉันเช่นเดียวกัน บางทีมันอาจจะเป็นผลย้อนกลับจากการใช้ชีวิตเพียงคนเดียวมาอย่างยาวนานก็ได้ เพราะงั้นฉันก็เลยอยากเก็บพวกเธอทั้งหมดไว้ในอ้อมแขนของฉัน ฉันอยากกอดพวกเธอเอาไว้แน่นๆไม่ปล่อยไปไหน”
“อ่า”
“อูววว”

ในตอนนี้เขากำลังตัวเกร็งสุดๆแล้ว ยังไงก็ตามเลียร่าก็แค่ยิ้มแห้งๆออกมาราวกับว่าเธอรู้อยู่แล้วว่ามันจะต้องเป็นแบบนี้ เธอรู้มาตั้งแต่แรกแล้ว ยูอิลฮานที่ตอนแรกเป็นเหมือนกับกำแพงเหล็กกล้าต่อคนอื่นๆนอกจากเธอได้เริ่มที่จะยิ้มให้กับผู้หญิงคนอื่นๆเมื่อไม่นานมานี้

เธอไม่สงสัยอยู่แล้วว่าเขารักเธอมากที่สุด เธอได้ผูกขาดเขาเพียงคนเดียวมาถึงตอนนี้ก็ดีแล้ว เธอคนผู้หญิงคนแรกของพระเจ้าและจะเป็นเช่นนี้ตลอดไป

“นายทำอะไรกับอารมณ์ของนายแค่เพราะความต้องการใช่ไหมล่ะ? ผู้คนบอกว่าคนที่ตกหลุมรักก่อนคือผู้แพ้ใช่ไหมล่ะ… เพราะงั้นฉันก็หวังว่านายจะยอมรับความรู้สึกทั้งหมดนั่นของนาย ฉันชอบนายที่เป็นแบบนั้นแหละ”
“พี่สาว… กรี๊ดดดดดด”

เลียร่าได้หันไปหยุดไม่ให้นายูนาพูด จากนั้นก็หันมาพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

“กลับกันฉันจะต้องเป็นคนแรกที่ได้เข้าพิธีแต่ง พิธีที่ยิ่งใหญ่เพื่อให้ทุกๆคนได้รู้ว่าฉันคือภรรยาหลวง!!!”
“พี่สาว!”
“เลียร่า…!”
“เลียร่า ฉันรักเธอ!”

ผู้คนที่อยู่นิ่งเงียบด้วยความเป็นกังวลมาตลอดได้ส่งเสียงเชียร์กันออกมา

“เลียร่า… ขอบคุณนะ”
“นายมันเป็นคนที่แย่มาก แต่ฉันก็ยังรักนาย”

สายตาจำนวนนับไม่ถ้วนได้มองสลับไปมาระหว่างยูอิลฮานกับเลียร่า บางคนก็รู้สึกอายในขณะที่บางคนได้เต็มไปด้วยพลังใจ แค่นี้ก็เพียงพอแล้วที่ทั้งสองคนจะได้เข้าใจกันและกันอย่างสมบูรณ์ ในที่สุดแล้วข้อตกลงในเรื่องความสัมพันธ์ก็เป็นเอกฉันฑ์แล้ว

โอโรจิที่เฝ้าดูเงียบๆมาตลอดเวลาก็ได้เสริมขึ้นมา

“ในเมื่อท่านมีคนรักอยู่มากมาย มันก็คงยากแล้วล่ะที่นายท่านจะใช้ชีวิตโดดเดี่ยวอีก”
“โอโรจิ นายอย่าได้ฝันเลย”

น้ำเสียงที่เฉียบคมของมิสทิคได้ทำให้โอโรจิหันมามองอย่างสับสน สีหน้าของเขาไร้ซึ่งเบาะแสใดๆและมองมาราวกับเขาเชี่ยวชาญในสกิลการแสดงแล้ว

“ฝันถึงอะไรงั้นหรอ?”
“อ๊า”

การหลอมรวมครั้งใหญ่ได้เสร็จสิ้นลงแล้ว ในที่สุดเมืองลอยฟ้าก็ได้ไปตั้งอยู่ที่ใจกลางมหาสมุทรแปซิฟิก และผสานรวมเข้ากับโลก ในตอนนี้โลกทั้งหมดได้เป็นหนึ่งเดียวกันแล้ว

“ว้าว ดูความหนาแน่นมานาสิ”
“บางทีอาจจะมีสิ่งมีชีวิตชั้นสูงเกิดขึ้นมาเองตามธรรมชาติก็ได้”
“อ่า ดูทองฟ้ารอบๆสิ อาจจะมีมังกรที่แท้จริงเกิดขึ้นมาตามธรรมชาติก็ได้”
“ฉันแค่ล้อเล่นนะ แต่ว่ามันกลับเป็นเรื่องจริง!?”

หลังจากยูอิลฮานเสร็จสิ้นงานของเขาแล้ว เขาก็ได้สูดหายใจเอาอากาศบริสุทธ์ลงไป จากนั้นก็ส่งเสียงให้ดังไปทั่วทั้งโลก

[สวัสดีคุณสุภาพบุรุษ์และสุภาพสตรี…]

***

การแต่งงานของยูอิลฮานกับเลียร่าได้ถูกวางแผนไว้ในวันถัดไป แต่แล้วสุดท้ายก็ล่าช้าไปถึงหนึ่งเดือน

“มีแค่คนที่มีสติปัญญาอย่างท่านเท่านั้นที่จะจัดงานแต่งให้กับท่านยูอิลฮานได้”
“เธอยิ้มมากไปแล้วนะราเซีย”
“นั่นเพราะท่านในชุดสูทดูเท่มากไงล่ะ”

“แล้วสถานที่นี้ถูกสร้างขึ้นมาได้ยังไง?”
“เป็นพลังพระเจ้า เป็นสิ่งที่เราไม่อาจจะเข้าใจ”
“แล้วพระเจ้าก็มีความรู้สึกเหมือนมนุษย์และกำลังจะแต่งงานกับใครสักคนงั้นหรอ?”
“บางทีเราอาจจะได้เห็นช่วงเวลาแห่งตำนานก็ได้”

“ฉันกำลังคิดเกี่ยวกับลูกชายเราเมื่อก่อน ฉันเป็นห่วงว่าเขาอาจจะไม่เคยได้เดทกับผู้หญิงสักคนไปทั้งชีวิต แต่พอมาตอนนี้มันน่าขำดีนะ มีคนมากมายที่สุดใจและรักเขา”
“ที่รักก็เป็นที่นิยมในหมู่ผู้ชายเมื่อก่อนเหมือนกัน ในบางครั้งผมยังสงสัยเลยว่าทำไมคุณถึงมาแต่งงานกับผม”
“โอ้”

“คุณเป็นเพียงคนเดียวของฉันนับตั้งแต่ที่ฉันเจอคุณ”
“นี่คุณประจบผมนี่”
“แต่มันคือความจริง เพราะงั้นมันยิ่งน่าหงุดหงิดไงล่ะ ฉันอยากจะเจอคุณมากๆ แต่คุณกลับหาตัวได้ยากเนี้ยสิ”
“กาเบรียลเป็นชายที่ไม่เคยเห็นคุณค่าตัวเองตลอดเลย เขาเชื่อว่าทุกๆคนไม่มองมาที่เขาและชอบหมกหมุ่นในสิ่งที่เขาทำตลอด นี่แหละทำให้เขาถึงได้น่าดึงดูด”

“อะแฮ่ม ตอนนี้ฉันมีธุระต้องไปที่อื่น…”
“คุณคิดว่าคุณจะไปไหนกัน งานแต่งกำลังจะเริ่มแล้วนะ”

“ไม่ใช่ว่านี่ถึงเวลาที่เราต้องคุยกันแล้วหรอเยซอล? คู่ของเธอได้แต่งงานกันมาหลายสิบปีแล้ว แต่ว่าฉันได้รอคอยมาหลายพันล้านปีแล้วนะ”
“…ไว้ค่อยคุยกันทีหลังนะ”

“ว้าว”
“งดงามมาก…”
“หืม ฉันมองเห็นเจ้าบ่าวไม่ชัดเลย”
“ไม่มีทาง แม้แต่ในตอนนี้นายท่านก็ยังปกปิดตัวเองอยู่…?”

“เธอไม่อาจจะระงับความสุขของเธอได้แล้ว”
“อ๊า น่าอิจฉาจัง… ความอิจฉาเลียร่าของฉันมันมากจนเก็บเอาไว้ไม่อยู่แล้ว”
“ฉันด้วยๆ ฉันก็อยากจะแต่งงานกับคุณพ่อทูนหัวเหมือนกัน!”
“”เธอไม่เกี่ยว””

“ความรักคือความงดงามที่ไร้ขีดสุด แต่ในเวลาเดียวกันก็เป็นสิ่งที่มืดมนและน่าเศร้าพร้อมๆกัน การแต่งงานคือพิธีกรรมการสาบานปฏิญาณตนที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุด แต่ในเวลาเดียวกันมันก็เป็นงานที่เหมือนกับเต็มไปด้วยความโกหก หลอกลวง และปลิ้นปล่อนเช่นเดียวกัน ลองดูสิ เจ้าบ่าวที่อยู่ตรงหน้าฉันในตอนนี้กำลังจะรับเจ้าสาวอีกนับไม่ถ้วนในอนาคตอันใกล้นี้”
“เฮ้ เปลื่ยนคนดำเนินงานที”

“แต่ถึงแบบนั้น คนทั้งสองที่ยืนอยู่จุดนี้ก็รู้เรื่องนั้นอยู่แล้ว ฉันขอแสดงความนับถือในจิตใจดีงามของเจ้าสาว รวมไปถึงความไร้ยางอายของเจ้าบ่าวด้วยเช่นกัน”
“นาย! ไว้มาเจอกันหลังจบพิธีนะ”
“บ่าวสาวของเราได้มีการเชื่อมโยงกันอย่างแข็งแกร่ง ไม่มีใครที่จะแยกพวกเขาออกจากกันได้ เพราะงั้นไม่ว่าใครที่อยากจะร้องเรียนอะไรก็ตามจงหุบปากไปตลอดการหรืออยากจะเอาชีวิตตัวเองมาทิ้งก็เข้ามา”

“นี่คือเหตุการณ์ที่ยิ่งใหญ่เป็นงานแต่งของพระเจ้า พระเจ้ายูอิลฮานน่าจะรู้ถึงเรื่องนี้เป็นอยากดี และในตอนนี้ถึงเวลามอบของขวัญแต่งงานให้กับเจ้าสาวของเขาแล้ว”
“…ฟู่”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Everyone Else is a Returnee โดดเดี่ยว 1000 ปี