ทั่วทั้งจักรวาลไม่อาจจะเฝ้าสังเกตทั้งหมดได้ง่ายๆ มีโลกได้ถูกสร้างขึ้นมาใหม่และถูกทำลายไปอยู่ทุกขณะ มีโลกจำนวนมหาศาลที่ไม่อาจจะพัฒนาและรวมไปถึงไม่อาจจะเชื่อมต่อกับบันทึกนภาทำให้โลกเหล่านั้นไม่อาจจะผลิตมานาขึ้นมาได้ ถึงแบบนั้นก็ยังมีโลกอีกจำนวนมากที่พัฒนาขึ้นมาอย่างราบรื่นแต่ว่าก็ไม่ได้มีเอกลักษณ์หรือร่องรอยอะไรพิเศษที่ดึงดูดสายตาสิ่งมีชีวิตชั้นสูงได้ โลกทั้งหมดเหล่านี้ต่างก็ไม่อาจจะกลายมาเป็นโลกระดับสูง
และกับดักแห่งการฟื้นคืนที่ยูอิลฮานได้ทำไว้ก็ได้แผ่กระจายไปตามโลกเหล่านั้นผ่านโลกที่ใกล้เคียงกันและบังคับให้โลกเหล่านั้นต้องมาหลอมรวมเข้ากับเอิร์ธ
“นี่มันเกิดอะไรขึ้น…”ยูอิลฮานไม่ได้จับเอากลุ่มโลกเข้ามารวมกันแบบมั่วๆ เขาได้ก่อตั้งภูมิภาคพื้นที่แบ่งแยกโลกด้อยวิวัฒนาการ โลกมีวิวัฒนาการและโลกระดับสูงด้วยการใช้ภูเขาและแม่น้ำใหญ่มาเป็นเส้นแบ่งเขต
เนื่องจากความหนาแน่นมานาจะเปลื่ยนแปลงไปตามภูมิภาคพวกนี้ทำให้มอนสเตอร์ที่มีอยู่ในแต่ล่ะภูมิภาคก็จะแตกต่างกันไป
“ในตอนนี้อิลฮานกำลังทำการสร้างอย่างตรงไปตรงมา…”โลกที่ยูอิลฮานกำลังสร้างขึ้นค่อนข้างที่จะคล้ายกันกับจักรวาลในอดีต เมื่อเขามองไปที่โลก โลกก็ไม่ได้กว้างใหญ่นัก แต่ว่ามีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่จะมองดูทั้งโลกได้อย่างหมดจดนั่นคือยูอิลฮานเท่านั้น
แม้กระทั่งสมาชิกระดับสูงของดราก้อนเนสก็ยังทำไม่ได้ หากพวกเขาตั้งใจจะมองพวกเขาก็จะเห็นแค่มุมๆหนึ่งของโลกโดยที่ไม่รู้ว่าจุดสิ้นสุดมุมๆนั้นจะอยู่ตรงไหน
“น่าทึ่ง ความจริงทั้งหมดเกี่ยวกับเวทย์ที่ฉันได้เรียนรู้มาจนถึงตอนนี้… เวทย์เหล่านั้นทั้งหมดได้ถูกผสมกลายมาเป็นธรรมชาติของโลกใบนี้”เพราะแบบนี้ยูอิลฮานจึงได้กำลังทำงานหลอมรวมโลกเข้าด้วยกันอย่างเป็นธรรมชาติ แต่นี่มันไม่ใช่เรื่องปกติธรรมดาเลยสำหรับคนอื่นๆ ผู้คนของเอิร์ธที่ได้กระจัดกระจายไปตามโลกต่างๆมากมายรวมถึงผู้คนที่อาศัยอยู่ในโลกพวกนั้นได้ถูกอัญเชิญมาที่เอิร์ธอย่างต่อเนื่อง และพวกเขาเหล่านี้ทั้งหมดต่างก็ได้ประสบกับความสับสนอยู่พักหนึ่ง
ยังไงก็ตามไม่ว่าพวกเขาจะอยู่ที่ไหนในโลกใบนี้ พวกเขาต่างก็มองเห็นถึงเมืองลอยฟ้าที่ยูอิลฮานอาศัยอยู่ สำหรับพวกเขาแล้วยูอิลฮานเหมือนกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ทรงพลัง พระผู้เป็นเจ้า และนี่ก็เป็นสิ่งที่ยูอิลฮานอย่างให้เป็น
“ผู้คนกำลังมองขึ้นมาที่พวกเรา!”เป้าหมายของยูอิลฮานนั่นก็ผสานโลกและเพิ่มความเข้มข้นให้กับพลังงานทั้งหมด เขากำลังคิดที่จะลบล้างวงจรการเกิดและตายของโลกด้วยการผสานโลกทั้งหมดที่มีศักยภาพเข้าด้วยกัน
และในเมื่อเขาทำได้สำเร็จแล้ว จึงไม่จำเป็นที่เขาต้องไปแทรกแซงผู้อยู่อาศัยอีก
“อ่า ดูเด็กๆพวกนั้นสิ ดูเหมือนเด็กๆจะได้กลับไปอยู่กับครอบครัวอย่างปลอดภัยแล้ว”ยูอิลฮานได้พูดออกมาอย่างขมขื่นก่อนที่จะยื่นมือออกมา ทันใดนั้นคฤหาสน์ขนาดใหญ่ได้ลอยขึ้นจากมุมหนึ่งของเมืองลอยฟ้าและลดระดับความสูงลง ในอนาคตเด็กๆที่สูญเสียครอบครัวไปจะได้ใช้ชีวิตอยู่ภายใต้การคุ้มครองของยูอิลฮาน
เลียร่าที่เฝ้าดูอยู่ได้ถามออกมาอย่างตั้งใจ
“อิลฮานนี่อาจจะเป็นคำถามง่ายๆสำหรับนายนะแต่ว่า… นายไม่คิดที่จะชุบชีวิตคนอื่นๆนอกจากเด็กที่ถูกขับไล่ออกไปในการขับไล่ครั้งใหญ่หรอ?”สำหรับยูอิลฮานที่มีศัยภาพในการทำอะไรก็ได้ในฐานะของคนที่จัดการดูแลทั้งวิญญาณและสสารแล้ว ปัญหาใหญ่ที่สุดสำหรับเขาเลยก็คือการตัดสินใจว่าจะชุบชีวิตใครและไม่ชุบชีวิตใคร
ในตอนเขายังคงเป็นมนุษย์ ยูอิลฮานมีวิธีและข้อแก้ตัวมากมายเนื่องจากว่าเขายังไม่เหมาะสมที่จะจัดการในวิญญาณ แต่สำหรับตอนนี้มันไม่ใช่แล้ว
เขาเป็นพระเจ้าไปแล้ว และทั้งวิญญาณและร่างกายทั้งหมดอยู่ภายในอาณาเขตของเขา เพราะงั้นเขาสามารถจะเอาแต่ใจไม่สนใจเสียงร้องอะไรใดๆจากคนอื่นๆเลยก็ได้ ไม่มีใครที่จะทำอะไรกับเขาได้แล้ว
นี่คือเหตุผลที่ทำให้ยูอิลฮานต้องตั้งใจคิดในเรื่องนี้มากๆ
“แต่ดูสิ ตอนนี้ทุกๆโลกได้กลายเป็นหนึ่งเดียวกันแล้ว จิตวิญญาณดั้งเดิมทั้งหมดก็ได้กลายมาเป็นหนึ่งเดียวแล้วเช่นกัน เพราะงั้นต่อให้ฉันไม่ได้ชุบชีวิตพวกเขากลับมาในร่างเดิม พวกเขาก็จะกลับมาเกิดใหม่บนโลกนี้ในอีกไม่นานเช่นกัน นี่ฉันยังต้องไปแทรกแซงอีกจริงๆงั้นหรอ? ฉันต้องไปแทรกแซงโอกาสหนึ่งในชีวิตด้วยการมอบชีวิตให้ผู้คน ซึ่งการแทรกแซงของฉันจะทำให้การเสียสละที่ยิ่งใหญ่ของพวกเขาสูญเปล่าและลดคุณค่าของพวกเขาลงงั้นหรอ?”พัทที่รออยู่สักพักได้พูดขึ้นมา เขาคือคนที่ใกล้ชิดกับความตายและวิญญาณเป็นลำดับสองรองลงมาจากยูอิลฮาน เขาสามารถจะเข้าใจถึงความกังวลของยูอิลฮานเป็นอย่างดี
“ผมคิดว่าฟีเรียเธออยากที่จะกลับมาอยู่เคียงข้างท่านจักรพรรดิ หากว่าเธอได้ทำการช่วยเหลือใดๆก็ตามให้ท่านจักรพรรดิมาถึงจุดนี้ ก็ไม่ใช่ว่ามันจะเป็นการดีหรอครับที่ให้เธอกลับมาในตำแหน่งเดิมเป็นรางวัล?”ยูอิลฮานได้มองไปที่พีท พีทคือคนที่กลัวการถูกยูอิลฮานเกลียดยิ่งกว่าการตายซะอีกได้ตัวสั่นอย่างเจ็บปวด แต่เขาก็ไม่คิดจะยอมถอย สถานการณ์แบบนี้ได้ดำเนินไปซักพักก่อนที่ยูอิลฮานจะถอนหายใจหยักหน้าออกมา
“ไม่เป็นไร แค่ครั้งนี้แค่ครั้งเดียวนะ”เอลฟ์ทั้งสามได้กระโดดขึ้นมาอย่างดีใจ เนื่องจากว่าเขาอยู่ที่นี่แล้ว ยูอิลฮานจึงพูดกับคนอื่นๆเช่นกัน
“ในเมื่อฉันได้ตัดสินใจที่จะแบ่งแยกระหว่างสมาชิกของเรากับคนทั่วไปแล้ว ฉันก็จะต้องทำมันให้มากขึ้น คำพูดของพีทก็ไม่ได้ผิดเลย ทุกๆคนได้ช่วยฉันอยากมากในการมาเป็นพระเจ้า เพราะงั้นฉันจะให้พวกนายทุกคนได้โอกาสในการ ‘โกง’ เชิญพูดถึงสิ่งที่ต้องการมาได้เลย หลังจากการหลอมรวมโลกเสร็จสิ้นแล้วเรื่องนี้จะไม่ถูกอนุมัติอีกแล้วนะ”นายูนาได้ถูกสอยร่วงไปอย่างรวดเร็ว ยังไงก็ตามเลียร่าที่เป็นคนจัดการเธอก็ได้แสดงสีหน้าลำบากเล็กน้อย ทุกๆอย่างได้แตกต่างไปจากก่อนหน้านี้แล้ว
ตอนที่เธอเป็นทูตสวรรค์และตอนที่ยูอิลฮานยังเป็นมนุษย์ หรือตอนที่พวกเธาทั้งคู่ยังเป็นมนุษย์อยู่ พวกเธอสามารถจะรับมือคนอื่นๆได้อย่างง่ายดายด้วยเพียงมือข้างเดียว…. แต่ในตอนนี้ยูอิลฮานคือพระเจ้าที่่ดูแลโลกทั้งใบแล้ว
“หากฉันยังอยากจะผูกขาดเขาไว้เพียงคนเดียวฉันคงจะโลภเกินไป…”ยูอิลฮานได้พูดออกมา คำพูดเหล่านี้คือเรื่องจริง
“ยังไงก็ตาม… ใช่แล้ว ฉันขอโทษ ฉันคิดว่ามุมมองของฉันต่างไปจากเดิมแล้ว ถึงแม้ว่าฉันอยากจะมองแค่เธอเพียงคนเดียว แต่สุดท้ายคนอื่นๆก็ยังเข้ามาในความคิดฉันเช่นเดียวกัน บางทีมันอาจจะเป็นผลย้อนกลับจากการใช้ชีวิตเพียงคนเดียวมาอย่างยาวนานก็ได้ เพราะงั้นฉันก็เลยอยากเก็บพวกเธอทั้งหมดไว้ในอ้อมแขนของฉัน ฉันอยากกอดพวกเธอเอาไว้แน่นๆไม่ปล่อยไปไหน”ในตอนนี้เขากำลังตัวเกร็งสุดๆแล้ว ยังไงก็ตามเลียร่าก็แค่ยิ้มแห้งๆออกมาราวกับว่าเธอรู้อยู่แล้วว่ามันจะต้องเป็นแบบนี้ เธอรู้มาตั้งแต่แรกแล้ว ยูอิลฮานที่ตอนแรกเป็นเหมือนกับกำแพงเหล็กกล้าต่อคนอื่นๆนอกจากเธอได้เริ่มที่จะยิ้มให้กับผู้หญิงคนอื่นๆเมื่อไม่นานมานี้
เธอไม่สงสัยอยู่แล้วว่าเขารักเธอมากที่สุด เธอได้ผูกขาดเขาเพียงคนเดียวมาถึงตอนนี้ก็ดีแล้ว เธอคนผู้หญิงคนแรกของพระเจ้าและจะเป็นเช่นนี้ตลอดไป
“นายทำอะไรกับอารมณ์ของนายแค่เพราะความต้องการใช่ไหมล่ะ? ผู้คนบอกว่าคนที่ตกหลุมรักก่อนคือผู้แพ้ใช่ไหมล่ะ… เพราะงั้นฉันก็หวังว่านายจะยอมรับความรู้สึกทั้งหมดนั่นของนาย ฉันชอบนายที่เป็นแบบนั้นแหละ”เลียร่าได้หันไปหยุดไม่ให้นายูนาพูด จากนั้นก็หันมาพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
“กลับกันฉันจะต้องเป็นคนแรกที่ได้เข้าพิธีแต่ง พิธีที่ยิ่งใหญ่เพื่อให้ทุกๆคนได้รู้ว่าฉันคือภรรยาหลวง!!!”ผู้คนที่อยู่นิ่งเงียบด้วยความเป็นกังวลมาตลอดได้ส่งเสียงเชียร์กันออกมา
“เลียร่า… ขอบคุณนะ”สายตาจำนวนนับไม่ถ้วนได้มองสลับไปมาระหว่างยูอิลฮานกับเลียร่า บางคนก็รู้สึกอายในขณะที่บางคนได้เต็มไปด้วยพลังใจ แค่นี้ก็เพียงพอแล้วที่ทั้งสองคนจะได้เข้าใจกันและกันอย่างสมบูรณ์ ในที่สุดแล้วข้อตกลงในเรื่องความสัมพันธ์ก็เป็นเอกฉันฑ์แล้ว
โอโรจิที่เฝ้าดูเงียบๆมาตลอดเวลาก็ได้เสริมขึ้นมา
“ในเมื่อท่านมีคนรักอยู่มากมาย มันก็คงยากแล้วล่ะที่นายท่านจะใช้ชีวิตโดดเดี่ยวอีก”น้ำเสียงที่เฉียบคมของมิสทิคได้ทำให้โอโรจิหันมามองอย่างสับสน สีหน้าของเขาไร้ซึ่งเบาะแสใดๆและมองมาราวกับเขาเชี่ยวชาญในสกิลการแสดงแล้ว
“ฝันถึงอะไรงั้นหรอ?”การหลอมรวมครั้งใหญ่ได้เสร็จสิ้นลงแล้ว ในที่สุดเมืองลอยฟ้าก็ได้ไปตั้งอยู่ที่ใจกลางมหาสมุทรแปซิฟิก และผสานรวมเข้ากับโลก ในตอนนี้โลกทั้งหมดได้เป็นหนึ่งเดียวกันแล้ว
“ว้าว ดูความหนาแน่นมานาสิ”หลังจากยูอิลฮานเสร็จสิ้นงานของเขาแล้ว เขาก็ได้สูดหายใจเอาอากาศบริสุทธ์ลงไป จากนั้นก็ส่งเสียงให้ดังไปทั่วทั้งโลก
[สวัสดีคุณสุภาพบุรุษ์และสุภาพสตรี…]
***
การแต่งงานของยูอิลฮานกับเลียร่าได้ถูกวางแผนไว้ในวันถัดไป แต่แล้วสุดท้ายก็ล่าช้าไปถึงหนึ่งเดือน
“มีแค่คนที่มีสติปัญญาอย่างท่านเท่านั้นที่จะจัดงานแต่งให้กับท่านยูอิลฮานได้”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Everyone Else is a Returnee โดดเดี่ยว 1000 ปี