สองชั่วโมงต่อมา...ตำรวจสืบสวนต่างช่วยกันหาหลักฐานในห้องนอนของเดซีแทบจะทุกตารางนิ้ว พร้อมกับเก็บตัวอย่างฉี่ของแอนดรู ไชน่า คาเรนเทียและรวมไปถึงสาวใช้ในบ้านทุกคน ก่อนจะส่งต่อไปให้กับทีมพิสูจน์หลักฐานที่แลป
ทอมสันมีสีหน้าบูดบึ้ง เมื่อเห็นตำรวจเดินเข้าๆ ออกๆ ภายในบ้านเป็นว่าเล่น แถมยังถูกสอบถามเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนครั้งแล้วครั้งเล่าอย่างละเอียด ทำให้คนที่ไม่คิดว่าเหตุการณ์จะเดินมาถึงตรงนี้ สะอึกจนแทบจะ ไปไม่ถูก
ด้านเดซีที่ถูกคาเรนเทียขู่ให้บรรยายถึงการร่วมรักในท่วงท่าต่างๆ ต่อหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็ถึงกับจุกและอายสุดๆ จะร้องขอความช่วยเหลือจากบิดาก็ไม่ได้ เพราะถูกสอบสวนอยู่คนละห้อง
คาเรนเทียที่นั่งฟังการบรรยายที่สุดแสนจะสะอิดสะเอียนจบก็เดินตรงไปขึ้นรถสปอร์ตแล้วขับออกไปโดยไม่เอ่ยลาใดๆ ขณะที่คนสนิทอย่างแอนดรูและไชน่าตามประกบเดซีไปตรวจภายในที่โรงพยาบาลต่อ
Barlensent Villa...เวลา 10:07 น.
“ท่านคะ กะ...เกิดอะไรขึ้น ทำไม...” อันนารีบเข้าไปถามเมื่อเห็น ผู้เป็นนายเข้ามาด้านในคฤหาสน์ด้วยสีหน้าอิดโรย
“ขอล่ะอันนา อย่าเพิ่งถามอะไรตอนนี้เลย” คาเรนเทียบอกก่อนจะรีบเดินขึ้นบันไดตรงไปยังห้องนอนของตน
“เอ่อ...แต่ว่า...” อันนาพยายามจะท้วง แต่ก็ไม่ทันการณ์ เพราะตอนนี้ผู้เป็นนายเดินไปถึงหน้าประตูห้องนอนแล้ว
คาเรนเทียประเปิดตูห้องเข้าไป ก็เห็นร่างบางนั่งมองเหม่ออยู่ตรงระเบียงห้อง จึงรีบเข้าไปสวมกอดที่ด้านหลังอย่างเต็มไปด้วยความโหยหาและรู้สึกผิดที่ไม่ได้กลับมานอนที่คฤหาสน์เมื่อคืน
“อย่ามาแตะตัวหนู!” เมลิสสาผลักอีกฝ่ายออกด้วยท่าทีรังเกียจ
“เธอร้องไห้ทำไม? กะ...โกรธที่ฉันไม่ได้กลับมานอนด้วยหรือเปล่า” คาเรนเทียขยับเข้าไปหา แต่สาวเจ้ากลับลุกหนีไปยืนหลบอยู่ด้านหลังโซฟา
“ไม่ได้โกรธที่คุณไม่กลับมา เพราะหนูรู้ว่าคุณอยู่ที่ไหน” เมลิสสาบอกอย่างรู้สึกเจ็บปวด เพราะภาพทุกอย่างของคนตรงหน้ายังคงติดตา
“งานมันลากยาวน่ะ ขอโทษจริงๆ” คาเรนเทียบอกก่อนจะรีบขยับเข้าไปหาอีกครั้ง
“ฮึก...”เมลิสสารีบเดินหนี
“เฮ้...” คาเรนเทียรู้สึกมึนงงกับท่าทีของสาวตรงหน้า ที่ปกติก็เป็นคนง่ายๆ ไม่เรื่องมากและมีเหตุผล แต่ตอนนี้กลับพูดไม่รู้เรื่องขึ้นมาซะงั้น
“ออกไป!” เมลิสสาชี้นิ้วสั่งอย่างรู้สึกขยะแขยง ไม่อาจจะทนให้ อีกฝ่ายมาแตะต้องตัวได้อีก
“มิรา?” คาเรนเทียมองการกระทำของสาวอย่างมึนงง
“อย่ามาแตะตัวหนูนะ ฮือๆๆๆ” เมลิสสารีบขยับหนีพร้อมกับปล่อยโฮออกมาเมื่อเห็นร่างสูงจะเข้ามาหา
“ให้ตายสิ! นี่มันเรื่องบ้าอะไรฮะ ฉันก็บอกแล้วไงว่าขอโทษ” คาเรนเทียสบถเสียงดังอย่างเริ่มจะทนไม่ไหว
“หนูอยากกลับอังกฤษ ได้โปรด...พาหนูกลับอังกฤษที” เมลิสสาบอกพร้อมกับยกมือขึ้นปัดหยดน้ำอุ่นๆ ที่เอ่อล้นดวงตาทิ้งอย่างไม่ไยดี
“โกรธเรื่องแค่นี้ก็ถึงกับจะกลับอังกฤษเนี่ยนะ พระเจ้า! มีเหตุผลหน่อยสิ” คนที่เจอเรื่องไม่ดีมาเริ่มจะมีอารมณ์ขึ้นมานิดๆ
“เอาแหวนของคุณคืนไป” เมลิสสาถอนแหวนที่นิ้วซ้ายออกแล้วปาใส่หน้าของอีกฝ่ายทันที
“มันจะมากไปแล้วนะ!” คาเรนเทียตรงดิ่งเข้าไปหาสาวเจ้าอย่างโมโห ที่บังอาจถอดแหวนที่ตนสวมให้ออก
“นี่ด้วย!” เมลิสสากระชากสร้อยเพชรที่คอออกแล้วปาใส่อีกฝ่าย อีกครั้ง
“มิรา!” คาเรนเทียชะงักฝีเท้าไปทันใด เมื่อสร้อยเส้นเล็กกระทบเข้าเต็มใบหน้า
“ฮือๆๆ หนูเกลียดคุณ ยะ...อย่าเข้ามานะ” เมลิสสารีบถอยหนี
“หึ! เกลียดงั้นเหรอ! วันก่อนเธอยังบอกรักฉันอยู่เลย” คนที่ยังจับต้นชนปลายไม่ถูกบอกเสียงหงุดหงิด
“ก็วันก่อนหนูคิดว่าคุณรักหนูจริงๆ นี่” เมลิสสาจ้องมองคนที่เธอเคยคิดว่าจะฝากชีวิตเอาไว้อย่างรู้สึกผิดหวัง
“ฉันก็รักเธอจริงๆ นะสิยัยเด็กโง่” คาเรนเทียพยายามข่มใจให้เย็นลง ไม่คิดว่าแค่เรื่องที่ตนไม่กลับมานอนด้วยคืนเดียว จะทำให้สาวตรงหน้าบ้าได้ขนาดนี้
“ไม่จริง! คะ...คุณรักผู้หญิงอีกคนต่างหาก” เมลิสสาบอกเสร็จน้ำตาเจ้ากรรมก็ไหลทะลักออกมาราวกับเขื่อนแตก
“ใคร?” คาเรนเทียเริ่มจะสังหรณ์ใจขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์ 5 (ซีรีส์ 5หนุ่มแห่งฟีนิกซ์)