“ฉันจ่ายค่ารักษาพยาบาลกับค่าทำขวัญให้มันไปแล้ว เธอจะสนใจมันอีกทำไมฮะ ต้องให้ฉันจ่ายค่าทำศพให้มันก่อนใช่ไหม ถึงจะหยุดร่านได้สักที” คนที่กำลังโกรธเป็นฟืนเป็นไฟเผลอใช้ถ้อยคำที่ไม่ทันได้กลั่นกรอง
เพียะ!
เมลิสสาตวัดฝ่ามือใส่ใบหน้าของอีกฝ่าย ขณะที่น้ำตาเอ่อล้นออกมาจากดวงตาคู่สวย ไม่คิดมาก่อนว่าเขาจะใช้คำพูดที่เจ็บแสบกับเธอ ขณะที่ตัวเองเพิ่งจะไปหลับนอนกับผู้หญิงอีกคนมา
“ทำไม! มันจี้ใจดำงั้นเหรอ” คนที่ชาไปทั้งซีกหน้าหันกลับมาถามด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน
“ฮึก...ฉันแค่เขาไปส่องดูว่าเขาอาการดีขึ้นหรือยัง ไม่ได้ไปแก้ผ้านอนกอดกันอยู่บนเตียงเหมือนกับคุณ” เมลิสสาตอกกลับทันใด
“ฉะ...ฉันไม่ได้ทำ” คาเรนเทียส่ายหน้าปฏิเสธอย่างรู้สึกจุกนิดๆ ก่อนจะรีบเข้าไปคว้าแขนของสาวเจ้าแล้วดึงร่างบางเข้ากอดแนบตัว
“ปล่อย!” เมลิสสาพยายามแกะมือหนาของอีกฝ่ายออก
“ได้ยินไหม! ฉันบอกว่าฉันไม่ได้ทำ” คาเรนเทียบอกอย่างหัวเสีย
“ฮึก...แล้วคุณได้ยินไหมว่าหนูบอกว่าให้ปล่อย!” เมลิสสาสะอื้นเบาๆ อย่างเต็มไปด้วยความเจ็บปวด ‘ไม่ไหวแล้ว...หนูทนคุณต่อไปไหวแล้วจริงๆ’
“ปล่อยงั้นเหรอ เธอเป็นของฉัน ฉันจะจับ จะแตะต้อง หรือจะเอาตอนไหนก็ได้” คาเรนเทียผลักร่างบางลงบนเตียง แล้วตามไปทาบทับ พร้อมกับจูบซุกไซ้ไปทั่วใบหน้างดงาม
“กรี๊ดดด...ปล่อยนะ ฉันไม่ใช่ของคุณ!” เมลิสสาดิ้นหนีสัมผัสของอีกฝ่ายอย่างบ้าคลั่ง
“เธอเป็นของฉัน และจะเป็นไปจนกว่าเราจะตายจากกัน”
เมลิสสากรีดร้องและพยายามต่อต้านสัมผัสจากของจอมมารแต่ก็สู้แรงของอีกฝ่ายไม่ได้ จึงทำได้เพียงกัดฟันข่มความเจ็บปวดและความรู้สึกขยะแขยง ทุกครั้งที่เขาถาโถมตัวเข้าใส่ร่างของเธอ
สองชั่วโมงต่อมา...หลังจากที่คาเรนเทียขืนใจเมลิสสาไปหลายครั้ง กระทั่งเธอหมดสติไป ก็รีบหาเสื้อคลุมมาสวมใส่ให้ แล้วรีบพาไปยังกระท่อมกลางป่า เพราะกลัวว่าสาวจะขอความช่วยเหลือจากสาวใช้คนอื่นๆ ในบ้าน แล้วหลบหนีไปโดยที่ยังไม่ได้ล่วงรู้ความจริงจากตน
แต่ขณะเดียวกันความโกรธและความหึงหวงที่มีในใจ ก็ทำให้อยากจะสั่งสอนให้เธอได้รู้ว่า...อย่าได้บังอาจคิดถึงผู้ชายคนอื่นในขณะที่เขายังมีลมหายใจอยู่บนโลกใบนี้
วันต่อมา...คาเรนเทียต้องเดินทางไปเคลียร์เรื่องราวทั้งหมดที่คฤหาสน์ ฮอลลี กับตำรวจและทีมพิสูจน์หลักฐาน โดยสั่งกำชับให้อันนาดูแล เมลิสสาอย่างใกล้ชิด
“สวัสดีค่ะคุณมิรา” อันนาเอ่ยทักทายเมื่อเห็นร่างบางที่นอนอยู่บนเตียงขยับตัวตื่น
“สวัสดีค่ะอันนา” เมลิสสารู้สึกโล่งใจที่ได้ยินเสียงของแม่บ้านใหญ่แทนที่จะได้ยินเสียงของจอมมารร้าย
“เอ่อ...ท่านออกไปเคลียร์เรื่องสำคัญน่ะค่ะ น่าจะกลับมาช่วงค่ำๆ” อันนารีบรายงาน
เมลิสสาได้ฟังก็หวนคิดถึงสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นเมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา
“คุณมิราคะ อย่าเพิ่งคิดอะไรไปไกลนะคะ อันนาเชื่อว่าหากท่านกลับมา ท่านจะเคลียร์เรื่องราวต่างๆ เกี่ยวกับเอ่อ...คุณเดซี ให้คุณมิราฟังค่ะ” อันนาบอกเรื่องที่ผู้นายสั่งเอาไว้
“ค่ะ วะ...วันนี้ทำเมนูอะไรเหรอคะ”” เมลิสสาฝืนยิ้มให้แม่บ้านใหญ่บางๆ แล้วแสร้งถามเรื่องอื่น
“ดิฉันกำลังจะทำสเต๊กเนื้อกับสลัดผลไม้ให้คุณมิราค่ะ” อันนาตอบอย่างดีใจที่หญิงสาวยอมเชื่อในสิ่งที่เธอบอก
“ว้าว! ชักหิวแล้วสิคะ” เมลิสสาบอกยิ้มๆ
“งั้นไปอาบน้ำได้เลยค่ะ เดี๋ยวอันนาจะลงทำอาหารรอ”
“ค่ะ” เมลิสสาขานรับก่อนจะมองตามแม่บ้านใหญ่ ที่ใจดีต่อเธอราวกับว่าเป็นญาติคนหนึ่ง
ห้าสิบนาทีต่อมา...หลังจากที่ทำอาหารเสร็จแล้ว อันนาก็ขึ้นไปตามคนรักของผู้เป็นนายอย่างเริ่มรู้สึกสังหรณ์ใจแปลกๆ เพราะเกือบจะชั่วโมงหนึ่งแล้ว อีกฝ่ายก็ยังไม่ลงมาทานอาหารเช้าที่เธอเตรียมเอาไว้ให้สักที
“คุณมิราคะ” อันนาเรียกพร้อมกับเงี่ยหูฟังก็ไม่ได้ยินเสียงตอบรับใดๆ จึงเปิดประตูเข้าไปดู ก็เห็นเสื้อคลุมถอดกองอยู่ที่พื้นห้อง
“เอ่อ...คุณมิราคะ อาหารพร้อมแล้วนะคะ” อันนาเอ่ยเรียกอีกครั้ง เพราะคิดว่าหญิงสาวอยู่ในห้องน้ำ แต่ก็ไม่มีเสียงใดๆ ตอบกลับมา จึงรีบเปิดประตูห้องน้ำเข้าไปดู ก็ไม่พบหญิงสาวอยู่ในห้องน้ำ
“คุณมิราคะ คุณมิรา” อันนาตกใจรีบวิ่งตะโกนเรียกหาหญิงสาวอย่างใจคอไม่ดี
09:43 น. Domodedovo airport
คาเรนเทียเดินทางไปรับบิดากับมารดาที่สนามบิน หลังจากที่โทร. ไปปรึกษาเรื่องราวของเดซีและทอมสันเมื่อคืน ท่านทั้งสองก็รีบเดินทางมามอสโกทันที เพราะต้องการจะช่วยจัดการกับปัญหา และช่วยพูดกับเมลิสสาให้ตน
“สวัสดีครับพ่อ แม่” คาเรนเทียเอ่ยทักทายบิดากับมารดาที่ไม่ว่าท่านทั้งสองนั่งเครื่องบินมาด้วยกัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์ 5 (ซีรีส์ 5หนุ่มแห่งฟีนิกซ์)