หยุนชางรู้สึกว่าตนมาที่นี่เพื่อมาพักผ่อนจริงๆ แต่ลั่วชิงเหยียนกลับไม่ใช่ หยุนมองไปที่ลั่วชิงเหยียน ซึ่งเอาแต่สั่งการสายลับอยู่ในห้อง นางรู้สึกตลกเล็กน้อย ดูเหมือนว่าเมื่อมาถึงบ้านพักที่นาแล้ว ลั่วชิงเหยียนกลับยุ่งกว่าเดิมเสียอีก
ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง หยุนชางและลั่วชิงเหยียนทานอาหารเย็นเรียบร้อยแล้ว หยุนชางก็เข้านอนแต่หัวค่ำ ส่วนลั่วชิงเหยียนอ่านหนังสือใต้ตะเกียง เมื่อเห็นว่าหยุนชางมองมา เขาจึงยิ้มและกล่าวว่า "ก่อนหน้านี้ข้าสั่งให้สายลับไปตรวจสอบเรื่องบางอย่าง พวกเขายังมิได้กลับมารายงาน ข้าจะรออีกสักพัก เจ้ารีบพักผ่อนเถิด"
หยุนชางพยักหน้าแล้วยกมือขึ้นปล่อยม่านข้างเตียงลง ภายในห้องเงียบมาก และฝนเริ่มโปรยปรายอยู่ด้านนอก ฝนกระแทกลงบนใบต้นกล้วย "ซ่าซ่า" ดังสลับกับเสียงพลิกหนังสือของลั่วชิงเหยียน ฟังแล้วทำให้รู้สึกสดชื่นเป็นพิเศษ
หยุนชางผล็อยหลับไปอย่างรวดเร็ว นางเพียงได้ยินคนพูดคุยกันอย่างสะลึมสะลือ หยุนชางรู้ว่านั่นคือเสียงของลั่วชิงเหยียน จึงมิได้สนใจ นางพลิกตัวและนอนต่อ
ทันใดนั้นนางตื่นขึ้นกลางดึก พบว่าไม่มีใครอยู่ข้างๆ มีแสงอ่อนๆ สาดส่องผ่านม่านข้างเตียง หยุนชางตกตะลึง ไม่รู้ว่าตอนนี้เป็นเวลายามไหนแล้ว นางจึงเปิดม่านแล้วมองออกไป ลั่วชิงเหยียนยังคงอ่านหนังสืออยู่ใต้ตะเกียง เมื่อเห็นว่าหยุนชางตื่นแล้ว เขาก็ชะงักเล็กน้อย แล้วจึงยืนขึ้นแล้วเดินเข้าไปหาหยุนชาง แววตาของเขารู้สึกผิดเล็กน้อย " ข้ารบกวนเจ้าหรือไม่?"
หยุนชางยิ้มและส่ายหน้า "เมื่อสักครู่ข้าแค่ฝันไปและจู่ๆ ก็ตื่นขึ้นมา ตอนนี้ยามไหนแล้ว ยังไม่มีข่าวจากสายลับหรือ?"
"ยามโฉ่แล้ว (ช่วงเวลาตี1ถึงตีสอง59นาที) " ลั่วชิงเหยียนนั่งลงที่ข้างเตียงกอดหยุนชางไว้ แล้วให้นางนอนลงที่ตักของตน "สายลับพบเบาะแสขององค์หญิงใหญ่ที่เมืองจิ่น ข้าได้สั่งให้สายลับไปตามสืบแล้ว"
"องค์หญิงใหญ่?" หยุนชางผงะไปครู่หนึ่ง เมื่อวานข้าได้ยินข่าวขององค์หญิงใหญ่จากหนิงเฉี่ยน วันนี้นางก็โผล่มาอีกครั้ง อีกทั้งปรากฏตัวตอนที่พวกเขาออกจากเมืองแล้ว นี่เป็นเรื่องบังเอิญเกินไปหรือไม่
ลั่วชิงเหยียนพยักหน้าเบา ๆ เลื่อนมือไปที่หัวของหยุนชางและพูดด้วยรอยยิ้มว่า " เมื่อตอนที่เรานอนพักกลางวัน สายลับมาส่งข่าวว่า ดูเหมือนจะพบเบาะแสขององค์หญิงใหญ่"
"พบได้อย่างไร?" หยุนชางขมวดคิ้วและถามอย่างเร่งรีบ
"กองกำลังลับที่ข้าวางไว้ในเมืองเป็นคนพบ กล่าวว่าพบว่าองค์หญิงใหญ่ปรากฏตัวที่ร้านข้าวสาร ซื้อข้าวสารไปห้าสิบกิโล เมื่อซื้อข้าวสารแล้วนางก็แบกข้าวสารเองแล้วขี่ม้าออกจากเมืองไป สายลับตามไปตลอดทาง แล้วพบว่านางซ่อนตัวอยู่บนภูเขาทางตอนใต้ของเมืองจิ่น อาศัยในกระท่อมมุงด้านในภูเขาที่ทำขึ้นเพื่อให้นักล่าได้อาศัยชั่วคราวเมื่อออกล่า ด้วยเหตุที่ช่วงนี้เป็นฤดูหนาวจึงมีนักล่าน้อยมาก เกรงว่านางคงอาศัยอยู่ที่นั่นมาสักพักแล้ว" ที่ลั่วชิงเหยียนกล่าว
"และนางระวังอย่างมาก นางเลี้ยงนกแปลก ๆ ไว้นอกกระท่อมจำนวนมาก เมื่อสายลับเข้าใกล้ นกเหล่านั้นก็ส่งเสียงทันที จากนั้นองค์หญิงใหญ่ก็หนีออกไป และตอนนี้ก็ยังไม่มีเบาะแสใดๆ"
หยุนชางตกตะลึงแล้วกระซิบเบา ๆ "เท่าที่ข้าทราบมา องค์หญิงใหม่ไม่มีทักษะศิลปะการต่อสู้มิใช่หรือ?"
ลั่วชิงเหยียนพยักหน้าเบา ๆ "แต่ดูเหมือนว่านางจะอาศัยอยู่ในป่านั่นเป็นเวลานาน นางคุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมในป่าอย่างมาก และฤดูหนาวภายในป่ามีทั้งหมอกและควัน ฉะนั้นเมื่อสายลับตามตัวนางจึงยากอย่างมาก
หยุนชางหรี่ตาลงและกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า "หากว่ามีหมอกหรือควันหนัก หากว่าสืบค้นตอนกลางคืนจะง่ายกว่าใช่หรือไม่?"
ลั่วชิงเหยียนยิ้มและเอนตัวลงและจูบบนหน้าผากของหยุนชาง "ใช่แล้ว ชางเอ๋อร์ของข้าฉลาดจริงๆ"
เมื่อเห็นว่าหยุนชางดูเหมือนจะไม่ง่วงนอนแล้ว ลั่วชิงเหยียนก็เลิกคิ้ว และถอนเสื้อนอนลงบนเตียงแล้วปิดม่านเตียง จากนั้นก็ก้มหน้าเข้าหาหยุนชาง เขาทำเสียงโทนต่ำและแหบแห้งเล็กน้อย " ในเมื่อเจ้าตื่นแล้ว หากว่าจะนอนหลับอีกครั้งก็คงยาก หรือว่าพวกเรามาทำกระไรที่มีความหมายร่วมกันเพื่อฆ่าเวลาเสียดีกว่า"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง