ตั้งแต่ที่รู้ว่าฉันตั้งท้อง ลู่จือสิงแทบจะปฏิบัติกับฉันราวกับเป็นสมบัติของชาติเสียอย่างนั้น เขาไม่ยอมให้ฉันทำงาน แต่ฉันไม่ยอม แต่นั้นมาในทุกวันพอถึงช่วงพักเที่ยงเขาจะมาส่งข้าวถึงที่บริษัท และตกเย็นจะมาถึงก่อนเวลาเลิกงาน
เห็นๆ อยู่ว่าเดินอีกเพียงไม่กี่ก้าวเท่านั้น แต่เขาจะขึ้นมาหาฉันให้ได้ จนตอนนี้เรื่องของฉันดังกระฉ่อนไปทั่วบริษัทหมดแล้ว
ต่อมาพอได้ข่าวว่าฉันท้องลูกแฝดชายหญิง ลู่จือสิงดีใจมากจนแทบจะตามใจฉันไปเสียทุกสิ่งอย่าง
ลู่จือสิงอาบน้ำออกมา จากนั้นก็จะขึ้นเตียงมากอดฉัน จูบฉันเบาๆ ฉันรับรู้ได้ว่าเขาแค่ต้องการจูบฉันเพียงเท่านั้น
หลังจากที่รับรู้ว่าตั้งท้อง เราสองคนก็ไม่ได้ทำเรื่องอย่างนั้นมาได้สองเดือนแล้ว หลังจากตั้งท้องฉันรู้สึกว่าตัวเองออกจะอ่อนไหวง่าย พูดง่ายๆ ก็คือโหยหาในเรื่องนั้น พอลู่จือสิงมาจูบฉันเช่นนี้ จึงรู้สึกราวกับถูกกระตุ้นบางอย่าง ฉันอดไม่ได้ที่จะเอามือโอบกอดเขาแล้วเอ่ยเสียงต่ำออกไปว่า: “ลู่จือสิง”
เขาเหมือนจะรู้ว่าฉันต้องการอะไร จึงเอามือที่ร้อนราวกับไฟสอดเข้าไปในเสื้อผ้านั้น ทำให้เธอแผดเผาไปทั้งตัว
ฉันรู้สึกเหมือนตัวเองเดินอยู่บนทะเลทรายมาสิบกว่าวัน และต้องการความชุ่มชื้นอย่างเร่งด่วน จึงกอดรัดความแข็งแกร่งของลู่จือสิงให้แน่นขึ้น ฉันหลับตาและสั่นไปทั้งตัว: “ลู่จือสิง——”
ฉันอดไม่ได้ที่จะร้องเรียกเขาด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง
เขาหยุดจูบทันที มองฉันแล้วกดลงไปที่หน้าผากฉัน: “ต้องการหรือครับ?”
ความปรารถนาทางกายก็เรื่องหนึ่ง แต่ถูกคนพูดออกมาตรงๆ ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
เดิมทีฉันเป็นคนหน้าบาง ถึงจะตั้งท้องอยู่ แต่หน้าก็ยังบางอยู่ดี
เมื่อได้ยินคำพูดของลู่จือสิง ตัวฉันยิ่งร้อนราวกับถูกลวกมากขึ้น
จากนั้นก็เหมือนก่อเกิดเปลวเพลิงอยู่บริเวณใต้ท้องน้อยของฉัน ฉันรับรู้ถึงตำแหน่งบนนิ้วมือเขาได้อย่างชัดเจน
ฉันหลับตา ไม่กล้ามองดูเขา จากนั้นก็ยกตัวไปเสียดสีกับตัวเขา แล้วพูดว่า: “ลู่จือสิง——”
น้ำเสียงปนเสียงสะอื้นหลายส่วน ราวกับจะร้องไห้ออกมาได้ทุกเมื่อ
นิ้วมืออันเรียวยาวสอดเข้ามาในช่องว่างของฉัน ฉันอดไม่ได้ที่จะส่งเสียงราวกับขัดใจออกมา จับมือเขาให้แน่นขึ้นอีก จากนั้นก็ลืมตาขึ้น ทุกสิ่งราวกับพล่ามัวไปหมด
เขาก้มลงมาจูบที่ดวงตาและคิ้วของเธอ แล้วพลิกตัวเธอมาวางไว้ด้านบนของเขา จากนั้นก็พูดข้างหูเธอว่า: “ซูซู มาเลย”
พอได้ยินคำพูดของเขา ฉันก็รีบส่ายศีรษะ: “ไม่ได้ ฉันไม่ได้——อืม!”
จู่ๆ เขาก็ปล่อยมือจากตำแหน่งเดิม และย้ายมาจับหลังเอวฉันเอาไว้ ความว่างเปล่าที่เกิดขึ้นทำให้ฉันทรมานเป็นอย่างมาก
ฉันรู้สึกทนไม่ไหวแล้ว “ลู่จือสิง——”
“เด็กดี”
เขาลูบผมที่ยาวสลวยของฉัน แล้วช่วยฉันทีละนิดๆ……
ด้วยความที่ฉันตั้งท้อง ลู่จือสิงจึงไม่กล้าขยับตัวฉันมากนัก และปล่อยให้ฉันเป็นผู้ควบคุมการเคลื่อนไหวทั้งหมดอยู่ด้านบน
เดี๋ยวนี้ร่างกายฉันอ่อนไหวง่ายจึงผ่านไปได้อย่างไม่ลำบาก เพียงไม่นานฉันก็หมอบลงอย่างไร้เรี่ยวแรงแล้วหอบหายใจออกมา
วันต่อมา เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมาฉันรู้สึกไม่มีหน้าไปมองลู่จือสิง แต่เขากลับไม่ใส่ใจ ด้วยรู้ว่าสามารถทำเรื่องเช่นนี้ได้หลังผ่านสามเดือนไปแล้ว เขาจึงต้องการฉันเป็นครั้งคราว เพียงแต่ว่าทุกครั้งเขาจะทำอย่างไม่เต็มที่นัก ส่วนฉัน……
ครั้งแรกที่เด็กในท้องขยับตัวจะเป็นช่วงสัปดาห์ที่สิบเก้า ระหว่างที่ฉันนอนดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา ก็เหมือนมีอะไรเตะออกมาจากบริเวณท้องด้านขวา
ฉันอึ้งไปซักพักใหญ่ๆ ถึงจะรู้สึกตัว จากนั้นก็ลุกขึ้นนั่ง มองไปทางลู่จือสิงอย่างตื่นเต้น:
“ลู่จือสิง เขาขยับแล้ว ลูกขยับตัวแล้วค่ะ!”
ฉันเหมือนจะตาลาย ไม่อยากจะเชื่อ ในทุกๆ วันฉันรู้สึกได้ว่าสิ่งมีชีวิตในท้องของตัวเองมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา
ลู่จือสิงก็อึ้งไปชั่วขณะเช่นกัน จากนั้นก็ยื่นมือมาสัมผัสหน้าท้องของฉัน: “ตรงนี้หรือ?”
“ไม่ใช่ค่ะ ตรงนี้ต่างหาก อา ข้างซ้าย ข้างซ้ายค่ะ!”
ฉันไม่เคยรู้เลยว่าชีวิตของตัวเองจะได้รับการเติมเต็มเยี่ยงนี้ เมื่อมองไปที่ลู่จือสิงก็รู้สึกได้ถึงความแตกต่างจากสมัยที่ท้องเป้ยเปยอย่างสิ้นเชิง
เขาลดสายตาลงมายังหน้าท้องที่นูนออกมาเล็กน้อยของฉัน แม้จะยังเห็นไม่เด่นชัดนัก ฝ่ามือเขาวางอยู่บนหน้าท้องของฉัน และร่วมรับรู้ถึงการเคลื่อนไหวของสิ่งมีชีวิตภายในนั้นด้วยกันกับฉัน
“รู้สึกมั้ยคะ? ลูกกำลังดิ้นอยู่”
ลู่จือสิงยื่นมืออีกข้างมาโอบกอดฉัน: “รู้สึกสิ”
เขาก้มลงเอาคางมาอิงไหล่ฉัน ฉันไม่เห็นสีหน้าเขา แต่ได้ยินเหมือนกับว่าเสียงของเขาจะเปลี่ยนไป
ฉันอึ้งไปเล็กน้อย อดไม่ได้ที่จะวางมือลงบนมือของเขาที่กำลังสัมผัสหน้าท้องของฉันอยู่
เขาหันข้างมาจูบฉัน: “คุณหญิงลู่ ขอบคุณเธอมากนะ”
ฉันมองเขาอย่างมึนงงไปพักใหญ่ๆ จากนั้นก็ยิ้มออกมา: “ขอบคุณคุณชายลู่เช่นกันค่ะ”
ตั้งแต่ที่เด็กดิ้นในวันนั้น สิ่งที่ลู่จือสิงจะทำบ่อยที่สุดก็คือการเอามือมาวางไว้บนหน้าท้องของฉัน
เขาไม่พูดอะไร เพียงโอบฉันเอาไว้ในอ้อมกอดของเขา จากนั้นก็จะพลิกหนังสือด้วยมืออีกข้าง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หากได้พบเจออีก ฉันอาจจะลืมเธอได้