ตระกูลเย่ตกตะลึง จากนั้นก็หัวเราะลั่นออกมา
“หมอซ่ง อย่าล้อเล่นสิ เขาสุ่มจับร่างกายนายท่านของเราเพียงไม่กี่ครั้ง แล้วก็จะรักษาโรคหายเลยเหรอ? "
“งั้นคงไม่ใช่หมอแล้ว แต่เป็นหมอเทวดา!”
“ใช่ ให้ฉันทำยังได้เลย!”
หมอซ่งขมวดคิ้วแล้วพูดว่า
"ไม่ใช่ แม้จะเป็นการจับจุด ก็เป็นงานทางเทคนิคของการแพทย์แผนจีน มันไม่ง่ายขนาดนั้น..."
เย่ซิงชางโบกมือและขัดจังหวะ
“เอาล่ะ เอาล่ะ ไม่พูดเรื่องนี้แล้ว หมอซ่ง ไปดื่มชาก่อนเถอะ! ตระกูลเย่ของฉันได้เก็บชาเถี่ยกวนอินที่ดีที่สุดไว้! "
หมอซ่งไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากยอมแพ้ ช่างมันเถอะ ต่างอาชีพก็ห่างดั่งขุนเขากั้น พูดมากไปก็เหมือนสีซอให้ควายฟัง
หลังจากนั้นไม่นานคนของตระกูลเย่ก็ส่งหมอซ่งกลับ
เย่เจิ้งกั๋วพูดอย่างไม่พอใจ
“ฉันดูแล้วหมอที่เก่งกาจในเมืองนี้ก็ไม่ได้เป็นดั่งที่ลือไว้ แม้แต่เด็กบ้าคนหนึ่งก็เห็นเป็นหมอเก่งกาจมีชื่อเสียงไปได้!”
เย่ซิงชางก็ลูบหนวดเคราของเขาและกล่าวว่า
“หมอซ่งยังไงก็ยังเป็นคนเริ่มมีอายุแล้ว อย่างไรเขาก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง คงจะแค่มองพลาดไปเท่านั้น”
“พ่อ! เรื่องนี้พวกเราจะปล่อยผ่านไปแบบนี้เหรอ? วันนี้ผมโดนเด็กคนนี้ตบเลยนะ!"
เย่เจิ้งหมิงพูดด้วยความโกรธใบหน้ายังคงมีรอยแดงจากการโดนตบ
เย่ซิงชางยิ้มเยาะแล้วพูดว่า
“แน่นอนว่าไม่ปล่อยไปแบบนี้หรอก มันชื่อหลิงเฟิงใช่มั้ย? แล้วยังเป็นพนักงานในแผนกการตลาดของพวกเรา? แปลว่าถ้าอยากแก้แค้นมันก็เป็นเรื่องง่ายดายไม่ใช่เหรอ?”
“ท่านจะบอกว่า?” พี่สองพี่น้องของตระกูลเย่รู้สึกตื่นเต้น
การวางแผนร้ายกำลังก่อตัวขึ้น!
......
“จับพอหรือยัง?”
ไม่นานหลังจากออกจากบ้านหลิวเย่ซาน เย่อวี่หลิวก็สะบัดมือของหลิงเฟิงออกและมองเขาอย่างเย็นชา
“ข้อตกลงคือหนึ่งชั่วโมง แต่นี่มันเกินมาสิบนาทีแล้ว!”
หลิงเฟิงพูดอย่างอึกอัก "ผมขอโทษประธานเย่ด้วย ผมความจำไม่ดี"
อันที่จริงแล้วร่างกายของเย่อวี่หลิวให้สัมผัสนุ่มนิ่มเพลิดเพลินมาก เขาก็เลยเผลอตัวไป...
“วันนี้ที่เรียกนายมา นายก็คงเห็นแล้ว ว่าฉันแค่อยากใช้นายเป็นข้ออ้างปฏิเสธคู่หมั้นที่ครอบครัวของฉันจัดเตรียมไว้ให้! นายอย่าคิดเข้าข้างตัวเองล่ะ ว่าฉันชอบนายจริงๆแล้ว”
เย่อวี่หลิวกอดอกยืดอกขึ้น แล้วพูดคำต่อคำ
“เงินเดือนของนายแค่สามพันห้า เป็นพนักงานฝึกงานที่มีวุฒิการศึกษาเพียงมัธยมปลายเท่านั้น”
“แต่ฉัน เรียนจบปริญญาเอกจากนอก เป็นรองประธานบริษัท คนที่จะจีบฉันต่อแถวยาวจากชายฝั่งตะวันออกมหาสมุทรแปซิฟิกจนถึงเมืองชางไห่!”
“ฉันกับนายไม่ได้อยู่โลกเดียวกัน ดวงดาวบนท้องฟ้าไม่เคยก้มมองปลากุ้งในแม่น้ำ”
หลิงเฟิงพูดอย่างใจเย็น "อืม งั้นตอนนี้ผมออกไปได้แล้วใช่มั้ย?"
เย่อวี่หลิวสะดุ้ง ตัวเองพูดคำพวกนี้เพื่อดับมโนของอีกฝ่ายแล้วก็เอาคืนชายคนนี้ด้วย
แต่อีกฝ่ายดูเหมือนจะไม่สนใจเลย
เป็นอย่างที่คาดไว้ ผู้ชายที่ใช้ชีวิตอยู่แบบชั้นต่ำมานาน โลกทัศน์และประสบการณ์ก็ถูกจำกัดมานานแล้ว ใช้ชีวิตอยู่ไปวันๆ พอใจกับสิ่งที่มี
เย่อวี่หลิวเมื่อเห็นแบบนั้น ทั้งผิดหวังและโกรธที่มอบให้ครั้งแรกกับ...ผู้ชายแบบนี้!
แต่เมื่อเขากำลังจะหันหลังกลับและจากไป เธอก็พบว่าไม่ไกลมีคนของตระกูลเย่กำลังจับตาดูอยู่!
เธอรีบคว้าเสื้อของหลิงเฟิง “รอก่อน! ฉันให้นายไปแล้วเหรอ?”
หลังเฟิงหัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออกพูดว่า “ประธานเย่ ยังมีเรื่องอะไรอีกมั้ย? หน้าที่โล่ไม่ใช่ว่าเสร็จแล้วเหรอ?”
เย่อวี่หลิวพูดอย่างจริงจัง
“นี่คือบ้านของฉัน หลังจากนี้นายต้องมาอยู่ที่นี่สามวันต่อสัปดาห์ แบบนี้จะทำให้คนตระกูลเชื่อในความสัมพันธ์ของพวกเรา”
“ฉันอยู่บนชั้นสอง นายไม่ได้รับอนุญาตให้ขึ้นไป ไม่ต้องแม้แต่จะมอง! ไม่อย่างนั้น ฮึ่ม!”
เมื่อเห็นเย่อวี่หลิวกำลังจะขึ้นไป ในที่สุดหลิงเฟิงก็ทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้วจึงพูดว่า
“ประธานเย่ แล้วจะให้ผมนอนตรงไหนล่ะ?”
เย่อวี่หลิวพูดอย่างเฉยเมย: "ชั้นแรกใหญ่มาก หาโซฟานอนไม่ได้เลยเหรอ?"
หลิงเฟิง “...”
หากเป็นนิสัยก่อนหน้านี้ของเขา ผู้หญิงคนนี้คงถูกเขาจับกดแล้วกระทำเรื่องโหดเหี้ยมไปแล้ว
“หรือว่า มีห้องเก็บของอยู่ที่ชั้นหนึ่งหลังจากทำความสะอาดแล้วบางทีคุณอาจจะอยู่ได้"
มุมปากของเย่อวี่หลิวงอเป็นการประชดประชัน
“หลิงเฟิง นายอย่าลืมล่ะ นายเป็นพนักงานของฉันต้องทำตามคำสั่งของเจ้านาย!”
คนยศต่ำกว่าต้องนอบน้อมคนสูงกว่าสินะ! หลิงเฟิงถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้และไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากยอมทำตาม
ใครใช้ให้ทำให้ตัวเองโชคร้ายกันล่ะ ในห้องทำงานคุยกับเย่อวี่หลิว....
พลบค่ำ
ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยกว่าเขาจะขนของในห้องเก็บของออกมา แล้วจัดแต่งให้เป็นห้องนอนของตัวเองได้
ในเวลาเดียวกัน
ก็มีเงาสีดำที่รวดเร็วเคลื่อนไหวผ่านหน้าเขาไป!
รวดเร็วปานสายฟ้า หลิงเฟิงกังวลขึ้นมาทันที ม่านตาของเขาไหววูบ “ใคร?”
มีคนต้องการฆ่าเย่อวี่หลิวงั้นหรือ?

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หายนะมาเยือนหลังค้นพบความลับของบอสสาว