เหอซิ่วฟางอยู่ด้านหลังด้วยใบหน้าอึดอัดใจ เห็นได้ชัดเลยว่าสองแม่ลูกบุกเข้ามา
ใบหน้าของหลิงเฟิงครึ้มขึ้น คนมีหน้า ต้นไม้มีเปลือก หญิงเลวเขาเคยเห็น แต่หญิงเลวขนาดนี้ นี่เป็นครั้งแรกที่เจอ!
ถ้าเขาบอกว่าตนเองจับเย่อวี่หลิวได้แล้ว สองแม่ลูกคู่นี้ก็จะเข้ามาเลียแข็งเลียขาเขา เพื่อหวังจะเกาะภูเขาทองคำอย่างเย่อวี่หลิวไปด้วย
เขาทำเพียงพูดจริงครึ่งเท็จครึ่ง
“ทำให้ทุกคนผิดหวังแล้ว เย่อวี่หลิวเป็นเจ้านายของผม เธอมาหาผมเมื่อวานเพราะเรื่องงาน พูดคุยเรื่องงานเสร็จแล้วก็จากไป”
เมื่อเฉินเหม่ยหลิงกับจางหลานฮวาได้ยินแบบนั้นสีหน้าก็เปลี่ยนไปทันทีแล้วพูดว่า
“อะไรนะ? ที่แท้เธอเป็นเจ้านายของแก ฉันก็น่าจะรู้ ผู้หญิงที่น่าภาคภูมิใจแบบเย่อวี่หลิวจะมาสนใจคนธรรมดาตัวเหม็นอย่างแกได้ยังไง?”
“ทำให้พวกเราดีใจเก้อ! เฮงซวย!”
พวกเธอด่าทอหยาบคาย แล้วจากไปโดยเอาของขวัญที่พวกเขาเอามาไปด้วย
ในเวลานี้ โทรศัพท์ของหลิงเฟิงได้รับข้อความจากชิงหลง
“ราชาแห่งความมืด ในบัตรประจำตัวของท่านถูกใส่ไปห้าพันล้านแล้ว ผู้น้อยทำนอกเหนือคำสั่ง ช่วยคุณซื้อหมู่บ้านเล็กๆ คุณสามารถใช้บัตรประจำตัวจัดแจงพื้นที่เหล่านั้นได้อย่างอิสระ”
หลิงเฟิงอดไม่ได้ที่จะส่ายหัว ชิงหลงเจ้าเด็กคนนี้ชอบทำแบบนี้
เหอซิ่วฟางพูดอย่างเป็นกังวล "ลูกชาย อย่าสนใจพวกเขาเลย ลูกไปอยู่ที่ไหนมาทั้งคืน? ทำให้แม่เป็นห่วงมากรู้มั้ย!"
หลิงเฟิงยิ้มแล้วพูดว่า “แม่ครับ แม่วางใจเถอะนะ ผมไม่ได้ไปอยู่บนถนนหรอก ผมจำได้ว่าบ้านพวกเรายังเป็นหนี้อีกตั้งแสนหยวนยังไม่ได้ใช้คืนใช่มั้ย? อยากใช้เงินผม.... ”
เหอซิ่วฟางพูดอย่างประหม่าว่า
“ลูกชาย ลูกเป็นแค่พนักงานธรรมดา เงินเดือนแค่ไม่กี่พันหยวน จะเอาเงินจากไหนมาจ่ายหนี้? ไม่ใช้ว่าไปทำอะไรไม่ดีมาใช่มั้ย?”
หลิงเฟิงรีบพูดว่า “จะเป็นไปได้ยังไงล่ะแม่ แม่คิดมากไปแล้วนะครับ”
“งั้นก็ดีแล้ว ในตอนนั้นพ่อของลูกอยากได้เงินเยอะเลยไปทำงานเหมืองดำกับคนอื่น ผลสุดท้ายก็ถูกดินถล่มจนตาย ลูกต้องปฏิบัติตามกฎหมายเท่านั้นนะ! "
เหอซิ่วฟางพูดเกลี้ยกล่อมอย่างเจตนาดีว่า “เรื่องเงินพวกเราค่อยขยันหาทางออกด้วยกัน อย่ากดดันตัวเองมากไปนะ”
หลิงเฟิงพยักหน้าเหมือนโขลกกระเทียม
เขากลัวว่าแม่จะเอาจริงเอาจังเกินไปแล้วอยากตรวจสอบที่มาที่ไปของเงินของตัวเองเลยจึงต้องล้มเลิกความตั้งใจที่จะใช้เงินในบัตรประจำตัวของเขา
หลังจากปลอบใจแม่แล้ว หลิงเฟิงก็รีบไปที่สถานีรถไฟใต้ดินเพื่อไปทำงาน
ตำแหน่งที่เขาทำอยู่เป็นแผนกเล็กๆ ภายใต้แผนกขายของบริษัทหลีห่าว ขนาดไม่ใหญ่แต่ความกดดันเรื่องผลงานไม่น้อยเลย
เขาเดินมาถึงแผนกก็พบว่าเพื่อนร่วมงานของตัวเองหลายคนถูกผู้อำนวยการ ซู่ฉวน ตำหนิ
“แม่งทั้งหมดเป็นขยะเหรอไง? จะสองเดือนแล้ว ทำยอดขายไม่ถึงมาตรฐาน! ในหัวพวกคุณมีแต่เรื่องไร้สาระอะไรอยู่เหรอห๊ะ?”
เพื่อนสนิทของหลิงเฟิงสองคน เสี่ยวเหม่ยกับต้าจ้วงก็ถูกด่าเอาเลือดหมามารดหัว
โดยเฉพาะเสี่ยวเหม่ย ยังถูกซู่ฉวนตบจนใบหน้าบวมแล้ว!
หลิงเฟิงทนมองไม่ได้เดินไปด้านหน้าผู้อำนวยการซู่ฉวน
“ผู้อำนวยการซู่ ผมจำได้ว่าข้อบังคับของบริษัทมีบอกไว้ว่าไม่สามารถดุด่าทุบตีพนักงานได้... ”
ซู่ฉวนมองหลิงเฟิงด้วยสายตาดุร้าย
“หลิงเฟิง? แม่งก็แค่เป็นพนักงานใหม่ยังไม่ผ่านฝึกงาน กล้าต่อปากต่อคำกับฉันเหรอ? อย่าลืมนะ ว่าผลงานของตัวเองไม่ได้ดีขนาดนั้น ไม่อยากทำแล้วใช่มั้ย?”
“พี่เฟิง พี่ใจเย็นหน่อย พวกเราไม่เป็นไรค่ะ”
เซียวเหม่ยและต้าจ้วงรีบจับหลิงเฟิงและวิงวอน
พวกเขาเป็นพนักงานประจำถูกซู่ฉวนด่าก็รู้สึกแย่ไม่กี่วัน แต่หลิงเฟิงยังอยู่ช่วงทดลองงานถ้าเขาทำให้ผู้อำนวยการซู่ฉวนไม่พอใจก็จะถูกออกได้ตลอดเวลา!
หลิงเฟิงพูดอย่างแน่วแน่
“ไม่มีใครมีสิทธิ์ทุบตีหรือดูหมิ่นพนักงาน ผู้อำนวยการซู่ แม้ว่าคุณจะเป็นเจ้านายของเราก็ตาม กรุณาขอโทษด้วย!”
ปกติอีกฝ่าย กำเริบเสิบสานและโอหังอวดดีภายในแผนก กลั่นแกล้งคนมาใหม่ เต๊าะพนักงานหญิง
เขาสามารถนั่งเฉยๆ แล้วไม่สนใจมันก็ได้ แต่ในเมื่อคนที่โดนเป็นเพื่อนของเขา หลินเฟิงก็ทนไม่ได้อีกต่อไป
ต้าจ้วงกับเสี่ยงเหม่ยพูดจาติดๆ ขัดๆ
“พี่เฟิง ความใจร้อนผลีผลามมันเป็นเหมือนปีศาจ! สองล้านในห้านาที นี่เป็นเพียงพันหนึ่งราตรี! "
พวกเขาไม่กล้าแม้แต่จะฝันถึงมัน!
หลิงเฟิงพูดย้ำที่ละคำว่า “ผมรักษาคำพูด ผู้อำนวยการซู่ คุณกลัวเหรอ?”
หลิงเฟิงไม่พอใจนิสัยและท่าทางที่ชอบรังแกคนอื่นของเขา
เขาเพียงแค่ดับไฟลงแต่ไม่ได้ปิดเตา!
“เฮอเฮอ! นายกังวลอยากตายขนาดนี้งั้นก็สนองให้นายแล้วกัน! มาสิ! ถ้านายทำได้ฉันจะคุกเข่าลงทันที! "
ซู่ฉวนยิ้มมืดมนแล้วพูดออกมาด้วยนัยน์ตาเจ้าเล่ห์
ในความเป็นจริง ทั้งหมดนี้เป็นกับดักที่เขาวางไว้ จู่ๆ ผู้อำนวยการเย่เจิ้งหมิงก็เรียกพบเขาในตอนเช้าและมอบเงินหนึ่งล้านให้เขาเพื่อขอให้เขาหาเหตุผลที่จะไล่หลิงเฟิงออกไป
เขาจึงใช้บทในวันนี้ปลุกปั่นปัญหา ใครจะรู้ว่าว่าหลิงเฟิงจะกระโดดลงมาในแผนของเขา ช่างเป็นโอกาสที่พระเจ้าประทานให้จริงๆ !
เขาหยิบโทรศัพท์ออกมาและเริ่มจับเวลา "หลิงเฟิง ห้านาทีมันหมดเร็วมากนะ!"
ตามความเข้าใจของเขาเกี่ยวกับหลิงเฟิง ผลงานของเขาในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาแทบจะไม่ถึงเส้นมาตรฐานเลย
แหล่งข้อมูลลูกค้าก็ไม่ได้ดีเท่าของพวกเสี่ยวเหม่ย!
รอบนี้เด็กฝึกงานมือใหม่คนนี้ต้องตายแน่!
แต่หลิงเฟิงหยิบโทรศัพท์ออกมาอย่างใจเย็นและเปิดรายชื่อของเขา เขาจำได้ว่าเขามีคนรู้จักในเมืองชางไห่ บางทีเขาอาจจะช่วยได้
“นี่คือจ้าวมู่จือมั้ย? ฉันคือหลิงเฟิง ตอนนี้มีเรื่องอย่างให้คุณทำหน่อย!”
จ้าวมู่จือ?!
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ทุกคนก็ตกตะลึง นี่คือชื่อผู้นำเมืองชางไห่ไม่ใช่หรือ?

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หายนะมาเยือนหลังค้นพบความลับของบอสสาว