แต่โบราณกล่าวไว้ว่า ตีเหล็กต้องตีตอนร้อน นั่นทำให้ฉันรีบถามอีกฝ่ายถึงเรื่องที่ยังเล่าไม่จบเสียที “แล้วเรื่องของแซคคารี่ล่ะ?”
“ไว้ฉันจะเล่าให้ฟังพรุ่งนี้”
ทั้งฉัน และมาร์ตี้ต่างกุมข้อมูลเรื่องที่อีกฝ่ายสนใจไว้ในมือ แคโรทิ้งโทรศัพท์ไว้ข้างตัวเพื่อเข้านอน และเมื่อถึงเช้าวันใหม่ มาร์ตี้ก็ขับรถมารอที่คฤหาสน์ตั้งแต่เช้า
ขาเรียวก้าวลงไปต้อนรับคนแก่กว่าทั้งชุดนอน “ต้องเช้าขนาดนี้เลยเหรอ?”
คนด้านหน้าไม่ได้สวมเสื้อเชิ้ตสีชมพูเหมือนเมื่อวานแล้ว แต่กลับสวมเชิ้ตขาวพร้อมสูทหรูดูเป็นทางการ
“เร็วไปเหรอ? ยาราขึ้นเครื่องมาแล้วนะ”
ทว่าพอคำนวณดูแล้วกว่าเธอจะมาถึง หรือกว่าเราจะไปถึงสนามบิน ก็ยังเหลือเวลาอีกพอสมควร
ฉันกลับขึ้นห้องไปแต่งหน้า พร้อมเปลี่ยนชุดเป็นสเวตเตอร์สีขาว และรองเท้าบูทสูงแทน
ทว่ามันทีที่หยิบแจ็คเก็ตสีอ่อนเดินลงบันไดมา ก็ได้ยินเสียงบ่นของมาร์ตี้ดังขึ้นอีก
“ทำไมพวกผู้หญิงถึงชอบแต่งหน้ากันนานแบบนี้นะ?”
“แค่แต่งหน้าธรรมดาเองนะ” ฉันอธิบาย
ได้ยินแบบนั้น เขาก็เงียบปากลงทันที
พอเราสองคนเดินไปขึ้นรถ ฉันก็ถามย้ำมาร์ตี้เรื่องแซคคารี่อีกครั้ง เขาดูลังเลเล็กน้อย ทว่าสุดท้ายก็เอ่ยออกมา “เดาสิว่า จุดศูนย์กลางทางอำนาจของแซคคารี่อยู่ที่ไหน?”
ฉันขมวดคิ้ว “ไม่ใช่เมืองถงเหรอ?”
“เธอคงหมายถึงตระกูลชิคสินะ” เขาตอบกลับ
หรือว่าตระกูลชิคกับแซคคารี่นั้นได้รับการตอบรับจากคู่ค้าภายนอกที่ต่างกัน?
เมื่อเห็นว่าฉันยังไม่เข้าใจถึงสิ่งที่จะสื่อ มาร์ตี้ก็เริ่มอธิบายเพิ่มเติม “จุดหลังที่แซคคารี่พุ่งเป้าเลยก็คือ พื้นที่ส่วนนี้ของยุโรป เธอรู้จัก ชาร์ลส คอนเนอร์ ไหม?”
ครั้งหนึ่งชัคเคยบอกว่าธุระของชาร์ลสนั่นเติบโตอยู่แถวยุโรป
ใบหน้าสวยพยักตอบ “ฉันเคยได้ยินชื่อเขา”
ทิวทัศน์ด้านนอกของตัวรถนั้นเต็มไปด้วยหิมะที่ยังคงตกลงมาอย่างต่อเนื่อง
“ที่ยุโรปมีสมาคมด้านการเงินที่ใหญ่ติดอันดับอยู่สองแห่ง คือ ส่วนที่เป็นของชาร์ลส และก็ของแซคคารี่” มาร์ตี้อธิบายพลางขับรถ “แต่ถ้าให้เปรียบเทียบแซคคารี่ การบริหารงาน และอิทธิพลของชาร์ลสยังด้อยกว่าแซคคารี่อยู่มาก เพราะเจ้าตัวไม่ค่อยได้รับการสนับสนุนจากนักลงทุนในประเทศของตัวเองซักเท่าไหร่ แต่สิ่งที่เหมือนกันของสองคนนี้คือ เป็นผู้ชายที่ลึกลับ และอันตรายทั้งคู่ จะเรียกพวกเขาว่านักธุรกิจสีเทาเลยก็ว่าได้”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หัวใจ ฉัน เป็น ของ เธอ