ฟู่ซีเสินมองดูท่าทางที่ตกตะลึงของจ้าวฉี่ฉิง เขาเอามือลูบหัวของเธอ และพูดเบา ๆ “หมอกำชับผมว่าให้คุณทานข้าวให้ตรงเวลา ไปเดี๋ยวนี้เลย เป็นไง?”
จ้าวฉี่ฉิงกำลังฟังอย่างเพลิดเพลิน และตอบรับคำขอของฟู่ซีเสินโดยไม่ได้คิดอะไร
“จริงสิ ฉันรับปากกับหรงเยี่ยนว่าจะพาเขาไปเลี้ยงข้าว”
จ้าวฉี่ฉิงไม่อยากทำลายบรรยากาศระหว่างพวกเขา แต่เธอเข้ามาที่กองถ่ายแล้ว และการทิ้งหรงเยี่ยนไว้ที่นี่ ก็ถือว่าไม่มีมารยาทอย่างมาก
“เขายังต้องใช้เวลาอีกสักพัก แต่ท้องของคุณรอไม่ไหว เราไปรอเขาที่ร้านอาหารก็ได้”
ฟู่ซีเสินเสนอวิธีที่ดี
เมื่อหรงเยี่ยนหันกลับมามองพวกเขา ฟู่ซีเสินก็ยื่นมือออกไปโอบไหล่ของจ้าวฉี่ฉิง และออกไปจากกองถ่าย
“หรงเยี่ยน นายจะไปไหน?” เมื่อผู้กำกับเห็นหรงเยี่ยนหายออกไปจากหน้าจอ ท่าทางของเขาก็เย็นชา
หรงเยี่ยนตระหนักได้ว่าเขากำลังถ่ายทำอยู่ และมองไปที่ผู้กำกับอย่างขอโทษ
เนื่องจากหรงเยี่ยนไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้ การถ่ายทำจึงเสร็จช้ากว่าที่คาดไว้ครึ่งชั่วโมง
เมื่อเห็นข้อความของจ้าวฉี่ฉิง หรงเยี่ยนก็ตรงไปยังร้านอาหารที่อยู่ใกล้ ๆ
เขายืนอยู่หน้าประตู และมองดูรอยยิ้มของจ้าวฉี่ฉิงผ่านกระจก แววตาที่เฉยเมยของเขาเปลี่ยนเป็นเย็นชาในทันที
“ฟู่ซีเสิน ถ้าผู้ช่วยเว่ยรู้ความคิดที่แท้จริงของคุณ เขาอาจจะลาออก?”
จ้าวฉี่ฉิงฟังฟู่ซีเสินพูดคุยเกี่ยวกับชีวิตประจำวันของเขา และอดไม่ได้ที่จะรู้สึกเห็นใจผู้ช่วยเว่ย
“ไม่หรอก เขารู้จุดประสงค์ของผม”
เหตุผลข้อแรกในการเลือกผู้ช่วยของฟู่ซีเสิน คือสามารถทำตามความต้องการของเขาได้ทุกเวลา
“ถึงเขาจะเป็นผู้ช่วยของคุณ แต่เขาก็ต้องมีเวลาส่วนตัวบ้าง เขาน่าจะยังไม่มีแฟนใช่ไหม?”
ถ้าไม่ใช่เพราะความปกติของฟู่ซีเสิน จ้าวฉี่ฉิงก็คงคิดว่าความสัมพันธ์ของพวกเขาเป็นเพียงแค่ผิวเผิน
เมื่อฟู่ซีเสินได้ยินคำพูดที่ละเอียดอ่อน สายตาอันล้ำลึกของเขาก็จ้องไปที่จ้าวฉี่ฉิง เพื่อบอกใบ้ให้เธอพูดต่อ
“ถ้ายังไม่หาแฟนอีก เขาก็จะแก่แล้ว”
ผู้ช่วยเว่ยรอบคอบในการทำงาน แต่ด้วยการพิจารณาอย่างเป็นธรรม จ้าวฉี่ฉิงคิดว่าเขาควรจะหาใครสักคน
“งั้นเหรอ?ผมอายุมากกว่าเขาหนึ่งปี” ฟู่ซีเสินจ้องมองผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้า สีหน้าของเขาทรุดลง
แย่แล้ว เธอลืมผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าไปเลย
จ้าวฉี่ยกมุมปากขึ้น และแสร้งทำเป็นมองออกไปนอกหน้าต่าง “ทำไมหรงเยี่ยนยังไม่มาอีก?”
เพื่อปกปิดความเขินอาย จ้าวฉี่ฉิงจึงเอามือลูบผมของตัวเอง เพื่อบดบังสายตาของฟู่ซีเสิน
“พี่ฉี่ฉิง ผมอยู่นี่” หรงเยี่ยนปรากฏตัวขึ้น
แวตาของฟู่ซีเสินเปลี่ยนไปในทันที และเอาแขนพาดไว้บนเก้าอี้ของจ้าวฉี่ฉิง “ฉันให้ที่ร้านเก็บอาหารไว้ให้นายแล้ว”
“ใช่ ฉันจะไปหาบริกร” จ้าวฉี่ฉิงเดินออกไปอย่างรวดเร็ว
เธอไม่ได้สังเกตเห็นกลิ่นดินปืนที่อบอวลไปด้วยไฟระหว่างผู้ชายทั้งสองคน
“ถ้าไม่อยากให้จ้าวฉี่ฉิงรู้จักตัวตนด้านอื่น ๆ ของนาย นายก็ล้มเลิกสิ่งที่กำลังทำอยู่ตอนนี้ซะ” ฟู่ซีเสินดึงมือของตัวเองกลับมา เขามองหรงเยี่ยนอย่างเย็นชาและเตือนว่า “นายก็รู้ว่าเธอเกลียดเรื่องอะไรมากที่สุด”
แววตาของหรงเยี่ยนเต็มไปด้วยความประหลาดใจ ตัวตนของเขาถูกซ่อนไว้อย่างดี นอกเสียจากว่าจะมีคนจงใจตรวจสอบตัวตนของเขา
“ประธานฟู่ เรื่องของผมกับพี่สาว คนนอกไม่ต้องเข้ามายุ่ง เราโตมาด้วยกัน และเธอก็รู้ตัวตนของผมเป็นอย่างดี”
ในเวลานี้หรงเยี่ยนยืนยันในการกระทำของตัวเอง แต่ในสายตาของฟู่ซีเสิน เขาขาดความมั่นใจ
ฟู่ซีเสินมองเห็นร่างของจ้าวฉี่ฉิงจากหางตา และพูดเบา ๆ ว่า “ถ้ามีโอกาส ฉันจะให้ฉี่ฉิงเชิญนายไปทานของอร่อย”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หลังจากหย่าแล้ว อดีตภรรยาของผมหวานขึ้นมาก