ข่าวที่ว่าบริษัทเซิ่งฮุยกำลังจะเข้าสู่วงการบันเทิงได้กลายเป็นพาดหัวข่าวของสื่อใหญ่ต่าง ๆ
แผนการทำธุรกิจแบบดั้งเดิมเช่นนี้ แค่คิดก็รู้แล้วว่าจ้าวฉี่ฉิงจะต้องแบกรับค่าใช้จ่ายที่มหาศาล
การเปลี่ยนแปลงต้องใช้ทรัพยากรที่สอดคล้องกัน และนักแสดงยังคงมีความสำคัญ
ชาวเน็ตกำลังแสดงความคิดเห็นกันว่าใครจะเป็นนักแสดงคนแรกที่เซ็นสัญญากับบริษัทเซิ่งฮุย
ในเวลานี้หรงเยี่ยนกำลังถ่ายแบบ แต่ประสิทธิภาพในการทำงานของเขาสูงมาก การถ่ายแบบจึงเสร็จลงก่อนกำหนด
“หรงเยี่ยน คุณไม่เสียดายจริง ๆ หรือที่ต้องถอนตัวออกจากการเป็นนายแบบ?” พนักงานรู้สึกเสียดายแทนเขา
หรงเยี่ยนเป็นดาวดวงใหม่วงการนายแบบ แต่ในช่วงเวลาที่เขากำลังไปได้ดี เขากลับเลือกที่จะถอนตัว ช่างน่าเสียดายจริง ๆ
“ไม่ ผมเพียงแค่เลือกงานอื่น” หรงเยี่ยนไม่ได้เปิดเผยสาระสำคัญของงาน
หลังจากกล่าวลา จังเฟยฉี่ก็กำชับหรงเยี่ยนให้ทุ่มเทมากยิ่งขึ้น และในเวลาเดียวกันก็จัดหาครูมาสอนการแสดงให้เขา
“ประธานจ้าวยังคงรวดเร็วมาก”
ในขณะที่พูด จังเฟยฉี่ก็ส่งโทรศัพท์มือถือให้หรงเยี่ยน นี่เป็นบทที่หรงเยี่ยนต้องร่วมแสดง
ไม่คิดเลยว่าในขณะที่จ้าวฉี่ฉิงกำลังก่อตั้งหน่วยงานใหม่ งานก็คืบหน้าไปด้วย จังเฟยฉี่รู้สึกชื่นชมในความสามารถของเธอ
“ไม่ต้องจัดสรรงานให้เยอะเกินไป ผมอยากตั้งใจเรียน” หรงเยี่ยนส่งบทไปที่โทรศัพท์มือถือของตัวเองและไม่พูดอะไรอีก
บริษัทเซิ่งฮุย
จ้าวฉี่ฉิงเชิญนักเขียนบทที่จะให้หรงเยี่ยนร่วมแสดงมาที่สำนักงาน และถามความต้องการของอีกฝ่ายเกี่ยวกับบทบาทต่าง ๆ
“ประธานจ้าว ผมหวังว่าคุณจะฟังคำแนะนำของผมอย่างตั้งใจ”
เซิ่นหม่าจวิน นักเขียนบทเรื่อง “กลับตาลปัตร” มองไปที่จ้าวฉี่ฉิงอย่างเคร่งขรึม เรื่องการเลือกนักแสดง จำเป็นต้องทำตามมาตรฐานของเขา
“ได้ค่ะ ฉันจะจดบทบาทของนักแสดงที่คุณต้องการ”
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่เซิ่นหม่าจวินจะมาที่บริษัท จ้าวฉี่ฉิงได้ส่งบทไปให้หรงเยี่ยนเรียบร้อยแล้ว
ใบหน้าของจ้าวฉี่ฉิงเต็มไปด้วยรอยยิ้ม และไม่ได้จะทำตามความคิดเห็นของเซิ่นหม่าจวินจริง ๆ
“สำหรับพระเอกจะต้องหุ่นนายแบบ ในบทรูปร่างของเขาต้องเป๊ะมาก ลักษณะท่าทางเย็นชา อาจจะเป็นเน็ตไอดอลที่ขาวหล่อ หน้าตาดี แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว"
หลังจากได้ฟังที่เซิ่นหม่าจวินพูดแล้ว จ้าวฉี่ฉิงก็รู้สึกว่าบทบาทนี้เหมาะกับหรงเยี่ยนมาก และอาชีพก็สอดคล้องกัน
“ผู้เขียนเซิ่น สำหรับฝีมือการแสดงของนักแสดงมีข้อกำหนดอะไรบ้างคะ?” จ้าวฉี่ฉิงมองไปยังผู้อาวุโสที่อยู่ตรงหน้าด้วยความเคารพ
“เขาต้องมีพื้นฐาน หรือมีพรสวรรค์ และสามารถเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง”
สิ่งที่เซิ่นหม่าจวินพูดนั้นครอบคลุมมาก และปฏิเสธไม่ได้ว่าทุกคนก็มีคุณสมบัตินี้
แต่จ้าวฉี่ฉิงไม่รู้ว่าฝีมือการแสดงของหรงเหยี่ยนดีหรือไม่ดี
จ้าวฉี่ฉิงพยักหน้าและถามว่า “แล้วตัวแสดงอื่น ๆ คุณมีความต้องการอย่างไรบ้างคะ?”
เซิ่นหม่าจวินเฝ้าดูการจดบันทึกของจ้าวฉี่ฉิง และแอบชื่นชมในใจ สมัยนี้มีน้อยคนมากที่จะจดคำพูดของผู้อาวุโสลงในสมุด
ในขณะที่ทั้งสองกำลังพูดคุยกันเรื่องบทละคร ตู้เซี่ยถงก็เปิดประตูเบา ๆ และกระซิบข้างหูของจ้าวฉี่ฉิง “ประธานจ้าวคะ ประธานฟู่มาแล้วค่ะ"
“อืม เธอให้เขาเข้ามาได้เลย”
จ้าวฉี่ฉิงรู้อยู่แล้วว่าการมาของเซิ่นหม่าจวิน เป็นฟู่ซีเสินที่แอบช่วยเธอ ไม่อย่างนั้นเธอคงไม่ได้บทละครที่มีคุณภาพในเวลาสั้น ๆ อย่างแน่นอน
“ผู้เขียนเซิ่น คุยกันแล้วเป็นอย่างไรบ้าง?” ฟู่ซีเสินเดินตรงไปที่เซิ่นหม่าจวิน ราวกับว่าเป็นบ้านของเขา
เซิ่นหม่าจวินมองไปที่เขาด้วยสายตาที่ตำหนิ และพูดเบา ๆ ว่า “ประธานฟู่ซ่อนนักลงทุนที่ดีเช่นนี้ไว้ เป็นเพราะไม่อยากเผชิญหน้ากับผมใช่หรือไม่?”
จ้าวฉี่ฉิงเขยิบที่นั่งให้ฟู่ซีเสิน ทั้งสองนั่งบนโซฟาตัวเดียวกัน ซึ่งมองแวบเดียวก็เข้าใจความสัมพันธ์ของทั้งสองคน
หลังจากแน่ใจแล้ว เซิ่นหม่าจวินก็ยิ้ม “ได้ร่วมมือกับพวกคุณ ผมก็เบาใจ”
“ผู้เขียนเซิ่นชมเกินไปแล้ว ฉี่ฉิงเพิ่งจะเข้ามา ไม่ค่อยรู้เรื่องรู้ราวอะไรมากนัก ต่อไปคงต้องรบกวนให้คุณช่วยแนะนำเธอด้วย”
น้ำเสียงที่มีเสน่ห์ของฟู่ซีเสินทำให้เซิ่นหม่าจวินยิ้มกว้าง และอดไม่ได้ที่จะพูดว่า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หลังจากหย่าแล้ว อดีตภรรยาของผมหวานขึ้นมาก